playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว 1922 บ้านไร่หลอนฆาตกรรมสุดสยอง หนัง Netflix จากสตีเฟน คิง

1922

สรุป

หนังเรื่องนี้ยังคงน่าติดตาม แต่ถ้าจะให้เริ่มติ่นเต้นจริง ๆ ก็คงเป็นหลังจากการฆาตกรรมนั่นแหละครับ ในเรื่องการนำเสนอแบบ เรื่องเล่าในการเล่าเรื่อง นี่เป็นมุกเก่า แต่สร้างความประหลาดใจกับดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดี ส่วนตัวยังคงมองว่าหนังมีความเนิบ แต่ยานอนหลับไม่ได้แรง ดูแล้วไม่ง่วง ระดับความจิตหลอนก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามสเต็ป ไม่ตุ้งแช่แต่มีเรื่องให้คิดตามแน่นอน

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ฉากฆาตกรรมทำออกมาได้น่าตื่นเต้น เพระตัวละครมีความลำบากในการฆ่า
  • ใช้สัตว์เป็นตัวเชื่อมเส้นเรื่อง ทำให้เรื่องราวดูมีอะไรขึ้นมาในเชิงจิตวิทยา

Cons

  • ไม่รู้สึกว่ามีจุดพีค ๆ ที่เด่นชัด
  • หนังมีความเนิบพอสมควร
  • เดาเนื้อเรื่องได้ง่าย
  • หนังไม่ได้จุดจบชัดเจน แอบค้างคานิด ๆ อยู่พอสมควร

ปี ค.ศ.1922 เป็นปีที่เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสยองในบ้านกลางไร่ข้าวโพด ที่จะชวนเรามาติดตามผลของการกระทำที่เกิดจากความรุนแรงภายในครอบครัว กับเรื่องราวสุดหลอนจากวิญญาณที่ตามติด นี่เป็นหนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยาอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกสร้างมาจากหนึ่งในนิยายของ สตีเฟน คิง โดยมี “ซัก ฮิลดิตช” ผู้กำกับหน้าใหม่ชาวออสเตรเลียมาสร้างสรรค์เนื้อหาสุดหลอนนี้ 

 1922 (2017) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างหนัง 1922 Netflix

เนื้อเรื่องกล่าวถึง วิลเฟรด เจมส์ (รับบทโดย “โทมัส เจน” ที่สลัดคราบมาดเข้มจาก The Punisher ซะเกลี้ยง) ชายแก่ขี้ระแวง กำลังเขียนจดหมายเพื่อเล่าเหตุการณ์ในปี 1922 ซึ่งเป็นปีที่เค้าลงมือฆ่าภรรยาของเค้าเอง

ย้อนกลับไปในปี 1922 ครอบครัวบ้านไร่ข้าวโพดตระกูลเจมส์ประกอบด้วยสมาขิก 3 คนคือ วิล ภรรยา (อาร์เล็ตต์ คริสติน่า วินเทอร์ เจมส์ รับบทโดย มอลลี่ พาร์กเกอร์) และลูกชาย (เฮนรี ฟรีแมน เจมส์ รับบทโดย ดีแลน ชมิด) สมาชิกทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อ อาร์เล็ตต์ ต้องการจะให้ครอบครัวย้ายไปอาศัยในเมือง เพราะเธออยากให้คุณภาพชีวิตที่มีนั้นดีกว่านี้

เมื่อความเห็นไม่ลงรอย วิล จึงเกลี้ยกล่อมลูกชายให้ร่วมมือฆาตกรรม อาร์เลตต์ โดยเกลี้ยกล่อมว่านี่เป็นทางออกเดียวที่ เฮนรี จะไม่ต้องไปอยู่ในเมือง ไม่ต้องพรากจากหวานใจบ้านใกล้เรือนเคียง นอกจากนั้นพวกเค้าทั้งคู่ไม่ต้องเสียบ้าน และที่ดินผืนนี้ไป ดังนั้นเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสยองจึงเกิดขึ้น 

รีวิว 1922 Netflixฉากการฆาตกรรมของหนังเรื่องนี้มันช่างไม่สมบูรณ์แบบเอาซะเลยจริง ๆ ครับ แต่มันกลับทำให้ลุ้นเกร็งจนตัวโก่ง หนังทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่สองพ่อลูกคิด ถือว่าเป็นซีนที่พีคพอสมควร 

เรื่องราวมันเริ่มขึ้นจริง ๆ หลังจากการตายของอาร์เล็ตต์ (ไม่ต่างจากอะไรจากพลอตหนังผีเดิม ๆ) หนังพยายามเล่าให้เรารู้สึกว่าผีตามหลอกหลอน วิล คนเดียวอยู่ตลอดเวลา เริ่มจากทีละนิดละหน่อยจนหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ส่วนนี้ถูกนำเสนอในแง่มุมของผีที่ต่างออกไป ไม่มีการจับผีมาตุ้งแช่ใส่คนดูให้สะดุ้งโหยง แต่ใช้เรื่องของจิตวิทยาผ่านกิริยาท่าทางของ วิล เข้ามาหลอกล่อคนดูว่าจริง ๆ แล้วเป็นผีจริงไหม หรือหลอนไปเองอันเป็นสาเหตุมาจากความรู้สึกผิด

แล้ววิลจะหลอนทำไมในเมื่อการฆ่าจบลง แต่ในใจเค้ากลับไม่ได้รู้สึกสูญเสียอะไร แถมปัญหาก็จบสวย แค่กลายเป็นพ่อหม้าย ที่นายอำเภอต้องมาวุ่ยวายด้วยนิดหน่อยเท่านั้น ตรงนี้หนังใช้จุดเล็ก ๆ เพียงจุดเดียวมาสร้างความกดดันให้ วิล นั่นก็คือการใช้ “หนู” เป็นตัวเชื่อมเส้นเรื่องทั้งหมด วิธีการก็คือให้ วิล เห็นหนูซ้ำๆ เพื่อจะได้นึกถึงเหตุการณ์ที่เค้าฆ่าภรรยา จนเกิดเป็นความรู้สึกกลัว และรู้สึกผิดไปเอง แต่ลูกชายของเค้าไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้

ครั้งแรกที่ วิล รู้สึกสยองจากการเห็นหนูคือตอนที่ไปเปิดบ่อน้ำเพื่อเช็คสภาพศพภรรยา แต่ภาพที่เห็นคือหนูกำลังแทะศพ สำหรับมันชวนอ้วกมาก หลังจากนั้นทุกครั้งที่เค้าเห็นหนู เค้าจะนึกถึงภาพนั้นตลอด พอเห็นหนูบ่อยเข้า ก็เริ่มเห็นผีอาร์เล็ตต์จนเป็นของคู่กัน ปัจจุบันที่ วิล นั่งเขียนจดหมายอยู่ เค้าก็ยังคงกลัวหนูอยู่เหมือนเดิม 

เฮนรี ไม่ใช่ตัวละครที่บทบาทเท่าไหร่นัก แต่เป็นพาร์ทที่สำคัญพอสมควร เนื่องจากเป็นตัวละครที่สะท้อนการกระทำของพ่อตัวเองว่าสิ่งที่ทั้งคู่ตัดสินใจทำลงไปนั้นเป็นการพาชีวิตดิ่งลงเหวนรก ยิ่งไปกว่านั้นการที่ผู้เป็นพ่อไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่ใหญ่เกินตัวของลูกชายได้ ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดไปกันใหญ่ เพราะ เฮนรี กลับมองว่าสุดท้ายแล้วคงดีกว่าถ้า อาร์เล็ตต์ ยังอยู่ 

เฮนรี ทำแฟนสาวท้อง แล้วตัดสินพาเธอหนี เพราะ วิล ทำอะไรไม่ได้เลย เงินไปขอก็ไม่มี ช่วยค่าเบี้ยเลี้ยงที่ครอบครัวฝ่ายหญิงร้องขอก็ไม่ได้ เมื่อหนีไปแล้ว เฮนรี ก็หาเงินด้วยการปล้น ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นผลจากการที่พ่อของเค้าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาเป็นตัวอย่างนั่นเอง

สรุป หนังเรื่องนี้ยังคงน่าติดตาม แต่ถ้าจะให้เริ่มติ่นเต้นจริง ๆ ก็คงเป็นหลังจากการฆาตกรรมนั่นแหละครับ ในเรื่องการนำเสนอแบบ เรื่องเล่าในการเล่าเรื่อง นี่เป็นมุกเก่า แต่สร้างความประหลาดใจกับดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดี ส่วนตัวยังคงมองว่าหนังมีความเนิบ แต่ยานอนหลับไม่ได้แรง ดูแล้วไม่ง่วง ระดับความจิตหลอนก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามสเต็ป ไม่ตุ้งแช่แต่มีเรื่องให้คิดตามแน่นอน

ขอทิ้งท้ายไว้เล็กน้อยว่าหนังไม่ได้จบลงที่เรื่องราวในอดีต แต่มาจบที่โรงแรมในปันจุบันโดยสมบูรณ์

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!