playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bloodride เส้นทางเลือดโชก 6 เรื่องสยองก่อนนอนจาก Netflix (มีSpoil)

  • การเสียสละขั้นสุดยอด - 7/10
    7/10
  • สามพี่น้องสุดวิปริต - 7/10
    7/10
  • นักประพันธ์โฉด - 7/10
    7/10
  • หนูในห้องทดลอง - 6.5/10
    6.5/10
  • โรงเรียนเก่า - 5.5/10
    5.5/10
  • ปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง - 6/10
    6/10

สรุป

รวมหนัง 6 เรื่อง 6 รสชาติในซีรีย์เดียว ไม่จำเป็นต้องดูเรียงลำดับ สามารถเลือกดูเฉพาะตอนที่สนใจได้ หนังสั้นตอนละประมาณ 25-30 นาที เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาจะดูเรื่องยาว ซีรีส์นี้ได้รวมความสนุกมาให้คุณแล้ว

แต่อาจจะขัดใจที่พอมันเป็นหนังสั้น มันทำให้ไม่เต็มอิ่มในส่วนของการคลายปม มองอีกมุมก็คือฝากให้ไปคิดต่อเอาเอง

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ยำรวมหนังสยองขวัญครบทุกรูปแบบ
  • การเรียงลำดับการเล่าเรื่องเข้าใจง่ายไม่งง
  • ฉากสยอง สำหรับคนที่ชอบความดิบๆหน่อย

Cons

  • อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน (เล็กน้อย)
  • รวบรัดเกินไป
  • เรื่องที่ 5 ดำเนินเรื่องเนิบนาบไป

Bloodride เส้นทางเลือดโชก (Netflix) ซีรีส์สยองขวัญสัญชาตินอร์เวย์ ที่ดูแล้วจะไม่พูดว่า No way แน่นอน แม้จะเป็นตอนสั้นเพียง 6 ตอน แต่เป็นคนละเรื่องที่ให้ทุกรูปแบบของความเป็นหนังสยองขวัญ ตัวละครในทุกเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกัน คุณจะข้ามไปดูตอนไหนก่อนก็ย่อมได้

 ตัวอย่างเรื่อง Bloodride เส้นทางเลือดโชก

 

ภาพรวมของการตีความคำว่า เส้นทางเลือดโชกในความหมายของผู้กำกับ และจากการดูของเราแล้วหมายถึงการมีวิบากกรรมที่มันรันทดคดแค้น แทบลากเลือด หรือในบางรายก็ได้เลือดโชกกันตามชื่อหนังเลยล่ะ การจั่วหัวเรื่องในซีรีส์ 6 ตอนนั้นจะเริ่มจากรถบัส 1 คันและคนขับหน้าตาเจ้าเล่พิกล หากฉายภาพไปที่ใครแล้วมีเลือดไหลหรือเจ็บปวดแปลว่าในตอนนั้นจะเป็นเรื่องของบุคคลคนนั้น ซึ่งต่างจากที่คิดว่าในตอนแรกว่าจะมีเหตุการณ์อะไรในรถไหมก็คือไม่มี เหมือนแค่มาเป็นไตเติ้ลเฉยๆ แอบผิดหวังเล็กน้อย แต่พอไปดูตามเนื้อซีรีย์แต่ละตอนแล้วก็พอจะให้อภัยได้อยู่

ตอนที่ 1 การเสียสละขั้นสุดยอด

 

Ep.1 การเสียสละขั้นสุดยอด - Bloodride
Ep.1 การเสียสละขั้นสุดยอด – Bloodride

ครอบครัว 2 พ่อแม่ลูกพึ่งย้ายจากในเมืองใหญ่มาสู่ชนบท โดยที่ผู้เป็นแม่ไม่เห็นด้วยกับการต้องมาอยู่ชนบทนัก แต่พวกเขาจำเป็นด้วยขัดสนเรื่องเงิน จนกระทั่งเธอได้พับกับพฤติกรรมสุดแปลกของเหล่าเพื่อนบ้าน ต่อสัตว์เลี้ยงที่พวกเขามี ความลับของเมืองที่เธอบังเอิญถูกพบจะเปลี่ยนความคิดของเธอที่มีต่อเมืองนี้

การดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วอาจด้วยความเป็นหนังสั้น ทำให้ขาดรายละเอียดจนทำให้ไม่สามารถปะติปะต่อได้บางอย่าง แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างเข้าใจได้  ตอนจบที่หักมุม แต่เนื้อเรื่องช่วงอื่นก็เดาง่ายสำหรับใครที่ดูหนังแนวสยองขวัญบ่อย สำหรับผู้เขียนแล้วขอยกให้อยู่ในอันดับ 2 จาก 6 เรื่อง เนื่องจากผู้สร้างยกออกมาเป็นเรื่องแรกในซีรีส์ มันก็เลยมีความประทับใจแรกมากพอสมควร

ความลับของเมืองคือการฆ่าสัตว์เลี้ยงแล้วจะได้โชค ยิ่งฆ่าตัวที่รักและผูกพันจะยิ่งได้โชคเยอะ แต่กรณีของตัวเอกเริ่มจากการฆ่าสิ่งที่ไม่ผูกพันโชคจึงได้น้อยทำให้เธอหน้ามืดถึงขั้นจะฆ่าสามี แต่สุดท้ายเรื่องกลับพลิกล็อกเมื่อลูกสาวแอบตามเธอออกไปในตอนนั้นและเข้าขัดขวางแผนการของเธอ กลับกลายเป็นว่าลูกสาวกลายเป็น CEO จากการฆ่าพ่อของตัวเอง ในขณะที่แม่กลายเป็นคนวิปริตไปโดยปริยาย

ตอนที่ 2 สามพี่น้องสุดวิปริต

รีวิว Bloodride
Ep.2 สามพี่น้องสุดวิปริต

เอริกชายหนุ่มอดีตคนไข้แผนกจิตเวช หลังจากที่เข้ารับการบำบัด 3 เดือนจนได้ออกจาโรงพยาบาล ก็ตัดสินใจขับรถไปที่กระท่อมเก่าของครอบครัวอีกครั้งพร้อมกับพี่ชายอีก 2 คน  เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อมีหญิงสาวแปลกหน้ามาร่วมในครั้งนี้ด้วย

ปูทางเนื้อเรื่องมาดีมากแทบไม่สะดุดหรือเอะใจเลย เรื่องนี้ไม่ได้มีเงื่อนงำอะไรมากมาย ไม่ได้ต้องคิดตามอะไรเยอะ ในหนังมีคำตอบแบบโจ่งแจ้ง เป็นเรื่องเดียวที่มีคำตอบกระจ่างที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ขอจัดให้อยู่ในอันดับ 3 จาก 6

ในตอนท้ายเรื่องแม่ตามหาเอริกจนไปเจอว่าอยู่ที่กระท่อมแล้วทุกอย่างก็กลายเป็นว่าเอริกแค่ประสาทหลอนไปเอง เขาไม่มีพี่ชาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนเลยคนที่ติดรถมาด้วยเป็นแค่ป้ายร้านค้า และเอริกไม่มีพ่อ เพราะพ่อทิ้งไปตั้งแต่เอริกยังเด็ก แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดเอริกจึงมีอาการประสาทหลอนแบบนี้ แต่การบำบัด 3 เดือนไม่ช่วยให้เขาดีขึ้นเลย

 

ตอนที่ 3 นักประพันธ์โฉด

รีวิว Bloodride
Ep.3 นักประพันธ์โฉด

โอลิเวียตัดสินใจเข้าคลาสเรียนเขียนนิยาย บทเรียนที่เธอได้รับและการได้พบเพื่อนใหม่นั้น ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปโดยปริยาย

ยกให้เป็นอันดับ 1 จาก 6 เรื่อง  สำหรับความชอบส่วนตัว ในส่วนของการดำเนินเรื่องหักมุมจนแทบตามไม่ทัน ลุ้นระทึกที่สุดจากทุกเรื่องในซีรีส์ ให้ข้อคิด 1 อย่างว่าควรแยกโลกจริงกับโลกจินตนาการให้ออก อย่าคิดไปเองคนเดียว

เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นเป็นแค่เรื่องแต่งในนิยายของผู้หญิงอ้วนคนหนึ่งที่ไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้และแอบน้อยใจที่สามีไม่เข้าข้าง จนในที่สุดในโลกความจริงลูกชายพาลูกสะใภ้มาหาเธอจึงเอาส้อมเหล็กแมงเข้าทีท้องลูกสะใภ้ และคิดว่าทุกอย่างนั้นลบทิ้งได้เหมือนในนิยายที่เธอแต่ง กลายเแ็นว่าเธอตกในภาวะแยกโลกจริงกับโลกจินตนาการไม่ออกนั่นเอง

ตอนที่ 4 หนูในห้องทดลอง

รีวิว Bloodride
Ep.4 หนูในห้องทดลอง

วงการยานั้นอยู่ยาก เมื่อยาต้นแบบที่พึ่งถูกค้นพบถูกขโมยไป ทั้งที่ในบ้านมีเพียงแขกไม่กี่คน รวมถึงการ์ดและภรรยาของเขา กระบวนการสอบสวนและจับขโมยจึงได้เริ่มต้นขึ้น เขาได้จับให้ทุกคนเข้าไปในห้องทดลองและเปิดแก๊สอัดลงไป พร้อมกับตั้งรหัสในห้องทดลองเป็นรหัสเดียวกับตู้เซฟที่เก็บยาเอาไว้ หากใครเป็นหัวขโมยก็จะสามารถออกมาจากห้องได้นั่นเอง

อันดับ 5 จาก 6 ปูทางเรื่องมาดีมากแต่เสียดายที่รวบเรื่องจนทุกอย่างรวดเร็วมาก ถ้าให้เทียบกับหนังแนวคล้ายกันเรื่องนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แอบหวังว่าจะมีเงื่อนงำมากกว่านี้แต่พอเฉลยแล้วก็แล้วเลย เฉยๆไปหน่อย แต่แอบมีสะใจตอนท้ายเล็กน้อย

หัวขโมยยาต้นแบบนั้น คือผู้ช่วยสาวของเขาเอง เธอสารภาพว่าต้องการนำยาไปให้บริษัทคู่แข่ง ท้ายที่สุดเหมือนเรื่องจะจบแต่ CEO กลับเอะใจได้ว่าผู้ช่วยขโมยยาและแอบนำยาใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทของเขาตอนที่เข้ามาค้นตัว และแอบนำออกไปอีกครั้งในตอนที่จากกัน (มีกอดกันแล้วเธอก็ล้วงเอายาจากในเสื้อ) แต่สุดท้ายก็โดนจับได้ CEO จึงกลับมาที่บริษัทและพบว่าภรรยาของเขาไม่ยอมให้อภัยที่เขาแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ช่วยส่วนตัว เขาจึงถูกส่งไปในห้องทดลองแล้วเปิดแก๊สอัดลงไปแบบเดียวกับที่เขาทำกับเธอและคนอื่นๆ ภรรยาได้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่เป็นวันเกิดของภรรยานั่นเอง เธอให้เหตุผลว่าถ้ารักกันจริงก็จะสามารถจำได้และออกมาจากห้องได้ (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าควรจำวันเกิดคนรักให้ได้แล้วจะปลอดภัย)

ตอนที่ 5 โรงเรียนเก่า

รีวิว Bloodride
Ep.5 โรงเรียนเก่า

คุณครูสาวที่พึ่งย้ายมาสอนที่โรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่งที่เคยปิดตัวไปถึง 40 ปี เสียงประหลาดภายในโรงเรียนทำให้เธอสงสัยเกี่ยวกับโศกนาฎกรรมที่ไม่เคยถูกเปิดเผย

แปลกแยกที่สุดในซีรีส์ก็ว่าได้ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่มีวิญญานเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีเหตุการณ์เกิดไปก่อนที่ตัวละครจะมาเจออยู่แล้ว ส่วนอีก 5 เรื่องนั้นเป็นแบบตัวละครพึ่งจะพบเจอ เนื้อเรื่องเนือยๆไม่มีอะไรมาก เหมือนหนังผีทั่วไป แต่ไม่น่ากลัว เพราะความที่มันเป็นแค่ตอนสั้นๆ ไม่สามารถทำให้ขนหัวลุกได้มากมายอะไร


ตอนที่ 6 ปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง

รีวิว Bloodride
Ep.6 ปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง

พนักงานหมู่สองคนพยายามค้นหาความจริงในงานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัท ความสัมพันธ์ลับๆของเพื่อนร่วมงานและหญิงสาวผู้โชคร้าย จะถูกเปิดโปงโดยพวกเขาหรือไม่

อันดับ 4 จาก 6 ค่อนข้างคาดหวังกับเรื่องสุดท้ายนี้มากว่ามันจะต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนไม่มีใครอยากยุ่ง  มีเบื้องหลังเบื้องลึก แบบหนังเกรดเอ แต่ปรากฎว่าก็ไม่ได้นำพานัก จัดอยู่ในระดับกลางๆ ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ว้าวมาก อารมณ์ดูแล้วก็ได้แต่หัวเราะ หึๆ


ดูต่อหรือพอแค่นี้ ?

โดยรวมแล้วเหมือนเป็นการยำรวมหนังสยองขวัญในทุกแบบที่จะมีได้ ไม่ได้แปลกใหม่ไปจากที่สร้างกันมาก่อนอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าทำได้ดีและสามารถดูได้ ไม่ติดขัดอะไร เพียงเรื่องเดียวที่ขอติก็คือหนังมีความสั้นและรวบรัดเกินไป ซึ่งเป็นทั้ง 6 เรื่อง แต่ก็จะมีบางเรื่องอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ายังพอสรุปได้กระจ่างและเข้าใจ ในส่วนของความขัดใจอีกอย่างคือถ้าไม่คุ้นภาษานอร์เวย์อาจจะรำคาญหน่อยๆ เพราาะไม่มีพากย์ไทย ส่วนพากย์อังกฤษมี แต่ว่าพากย์ได้ไม่ถึงอารมณ์หนังทเ่าไหร่ แนะนำให้ดูเสียงต้นฉบับจะดีกว่ามาก

 

อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆของผู้เขียนคลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!