พรีวิว Final Fantasy VII Remake ปัดฝุ่นตำนานขึ้นหิ้ง
Final Fantasy VII Remake เป็นการรีเมคจากตัวเกมฉบับดั้งเดิมที่วางจำหน่ายในปี 1997 โดยทีมพัฒนาที่นำโดย โยชิโนริ คิตาเสะ และ เท็ตซึยะ โนมูระ ในวันนี้เราจะมาสัมผัสด่านแรกของเกมกันค่ะ ว่าผลงานฉบับรีเมคนี้ยังคงเสน่ห์ของตำนานแห่ง JRPG เอาไว้ได้หรือไม่
พรีวิว Final Fantasy VII Remake (แบบวิดีโอ)
- FINAL . FANTASY VII Remake – PART I
- Platforms: PS4, PS4 PRO
- Release Date: 10 เมษายน 2020
- Genre: RPG
- Developer: Square Enix
Gameplay
ระบบต่อสู้ในฉบับรีเมค เป็นลูกผสมระหว่างแอคชั่นกับการใช้ระบบ ATB นั่นก็คือไม่ใช่แอคชั่นจ๋าแล้วก็ไม่ใช่เทิร์นเบสซะทีเดียว เราสามารถบังคับตัวละครได้ทีละหนึ่งตัว การกดโจมตีธรรมดาไปด้วยปุ่ม [ ] เรื่อยๆ เกจ ATB จะขึ้น เมื่อเกจเต็มแล้ว จึงจะใช้คอมมานด์ท่า เวท ไอเทม ได้ เท่ากับเราต้องกดโจมตีไปเรื่อยๆ แทนที่จะรอให้เกจ ATB ขึ้นเองแบบของเก่า ศัตรูมีเกจ stagger คล้ายกับ FFXIII ถ้าเกจแตกแล้วเราจะทำดาเมจเข้าได้มากขึ้น

ในส่วนของปาร์ตี้ เราสามารถสลับตัวที่บังคับได้ตลอดเวลา โดยตัวที่เราไม่ได้ควบคุม ATB จะขึ้นช้ากว่า สำหรับในเดโมฉากแรกนี้เพื่อนร่วมทีมอีกคนที่บังคับได้คือแบร์แรต พี่ล่ำมือปืนผู้ถนัดการโจมตีศัตรูบนอากาศ
นอกจากท่าโจมตีปกติ ท่าพิเศษที่ใช้เกจ ATB แล้ว แต่ละตัวละครจะมีฟังก์ชั่นพิเศษที่กดด้วยปุ่ม △ ของแบร์แรตคือการรีชาร์จปืนเพื่อยืงกระสุนลูกใหญ่ ในขณะที่ของคลาวด์เป็นการเปลี่ยนแสตนช์เข้าโหมดฟันแรง ที่มีจุดอ่อนคือคลาวด์จะเคลื่อนที่ช้าลง เราสามารถเคลื่อนไหวได้อิสระระหว่างสู้ จะการ์ดหรือจะกลิ้งหลบการโจมตีก็ได้

ในเดโมนี้ถึงจะเป็นต้นเกมแต่ก็ยังสนุก ในด้านแอคชั่นมีลูกเล่นให้พลิกแพลงได้ อย่างการกะจังหวะหลบ กะจังหวะฟันเพื่อทำให้ศัตรูเสียจังหวะ ไม่ใช่แค่การกดโจมตีค้างไปมั่วๆ ส่วนระบบ ATB ก็ทำให้ต้องวางแผนการใช้งานต้องมีกลยุทธ์ด้วย จะใช้ไอเทมก็ต้องมีเกจ ATB ทำให้ใช้ยาบ่อยๆไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี และต้องหยุดคิดว่าหากเสี่ยงเอาเกจไปใช้โจมตีท่าพิเศษแทนให้ศัตรูชะงักจะดีกว่าหรือเปล่า เป็นต้น คือต้องชั่งน้ำหนักว่าจะใช้เกจยังไง
จุดที่ยังไม่ค่อยลื่นไหลตอนนี้จะมีเรื่องมุมกล้อง ถึงจะปรับระยะห่างจากตัวละครได้มากขึ้นแต่ในบางครั้งช่วงเวลาที่ต่อสู้ติดพันมุมกล้องก็จะมีขัดใจบ้าง โดยเฉพาะตอนเล่นแบร์แรตยิงตัวสูงๆมุมกล้องเสียขึ้นบนก็จะมองศัตรูยากเสียหน่อย
Graphic & Presentation
เป็นจุดเด่นของเกมทันทีที่เห็นเลย โมเดลวัตถุต่างๆ,ตัวละคร,เอฟเฟกต์ รวมไปถึงอนิเมชั่นท่าโจมตีทั้งของเราและศัตรู มีความสวยงาม ส่วนความละเอียดภาพและเฟรมเรตถือว่าตามมาตรฐานเกมคอนโซลค่ะ (1080p/30fps) ด้านอาร์ตไดเรคชั่นทำได้ลงตัวมาก ได้ความรู้สึกแบบภาคต้นฉบับในรูปแบบเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยเฉพาะการรีดีไซน์มินิบอสกับบอส ที่ยังคงเสน่ห์ของงานออกแบบสไตล์สตีมพังก์ไว้ได้ดี
ในด้านการดำเนินเรื่องและคัทซีนมีความน่าติดตามด้วยเสียงพากย์ที่สามารถเลือกได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ ระหว่างสำรวจฉากตัวละครจะมีการพูดคุยกันในเรื่องเล็กๆน้อยๆ สร้างบรรยากาศจริงจังบ้างฮาบ้าง เข้ากับเนื้อเรื่องในช่วงนั้นๆ
แบร์แรต : คลาวด์ เอ็งน่ะ ยี่สิบเท่าไหร่นะ
คลาวด์ : ระดับหนึ่ง โซลด์เยอร์ไม่มีถึงระดับยี่สิบ
แบร์แรต : ข้าถามอายุเว้ยยย ไม่ใช่ระดับของเอ็ง
คลาวด์ : ….
และถึงเกมภาคนี้จะเป็นฉบับรีเมคที่ใช้โครงเรื่องเดิม แต่ก็มีการเรียบเรียงเนื้อหาขึ้นมาใหม่หลายๆส่วน ทำให้ตัวละครที่เคยเป็นแค่ตัวประกอบอย่างกลุ่มอวาแลนช์ อย่างบิ๊กส์ เวดจ์ และเจสซี่ ได้มีบทบาทโดดเด่นขึ้นมาอีกมาก ฉะนั้นถึงเป็นแฟมเกมที่เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับมาแล้ว ก็จะยังมีอะไรใหม่ๆให้ค้นหาและมีเซอร์ไพรส์แน่นอน
โดยสรุปแล้ว ตัวเกมฉบับรีเมคนี้ รังสรรค์ระบบการเล่นและเรื่องราวเดิม ออกมาในรูปใหม่ที่ทันสมัยได้อย่างน่าประทับใจ มารอดูกันว่าในเกมฉบับเต็มนั้นจะสามารถจับใจคนได้ตั้งแต่ต้นยันจบเหมือนกับตำนานในปี 1997 หรือไม่
เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 บนเครื่อง Playstation 4 ทั้งในรูปแบบแผ่นและดิจิตอลดาวน์โหลด สำหรับฉบับสะสมจะแบ่งออกเป็น Delux Edition และ 1st Class Edition ประกอบไปด้วยรายละเอียดดังนี้
Deluxe Edition :
- FINAL FANTASY VII REMAKE game
- Art Book
- Mini-Soundtrack
- Steelbook Case
- Cactuar Summon Materia DLC
1st Class Edition :
- FINAL FANTASY VII REMAKE game
- Play Arts Kai Cloud Strife & Hardy Daytona
- Art Book
- Mini-Soundtrack
- Steelbook
- Cactuar Summon Materia DLC
- Carbuncle Summon Materia DLC
- สำหรับแฟนเกมที่ทนรอไม่ไหว สามารถโหลดเดโมมาทดลองเล่นบนเครื่อง PS4 ได้ที่นี่ค่ะ
- รวมบทความของผู้เขียนคลิกที่นี่
แนวหนัง: Stream itSuper Heroแอ็กชั่นดราม่าตลกรักวัยรุ่นComing of Ageทริลเลอร์สืบสวนอาชญากรรมสยองขวัญผีซอมบี้ไซไฟแฟนตาซีอนิเมะAnimationเพลงกีฬาสงครามประวัติศาสตร์สารคดีชีวประวัติเรื่องจริงเด็กครอบครัวผู้หญิงLGTBซีรีส์ฝรั่งซีรีส์เกาหลีซีรีส์จีนซีรีส์ญี่ปุ่นหนังอินเดีย