รีวิว ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร (Netflix) การตีความใหม่จากผู้กำกับ นนทรีย์ มินิบุตร ที่ลึกซึ้งกว่าเวอร์ชั่นอื่นมาก

ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร ภาพยนตร์ Original Netflix แนวดราม่าแอ็กชั่น เรื่องราวรีเมค “ตี๋ใหญ่” จากผู้กำกับนนทรีย์ มินิบุตร โจรเจ้าเล่ห์ผู้ก่อเหตุปล้นอุกอาจหลายครั้ง ได้กลายเป็นบุคคลลึกลับที่สร้างความฉงนให้ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน จนตำรวจนายหนึ่งปักใจหมายมั่นว่าจะต้องจับเขาให้ได้

รีวิว ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร (ไม่สปอยล์)

นี่คือผลงานลำดับที่สองบน Netflix ของผู้กำกับ อุ๋ย–นนทรีย์ นิมิบุตร ต่อจาก “มนต์รักนักพากย์” ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก คราวนี้เขากลับมาพร้อมการรีเมกเรื่องราวของ “จอมโจรชื่อดังที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย” ที่ถูกนำมาสร้างซ้ำหลายครั้ง และการตีความใหม่ของนนทรีย์จึงต้องมีเหตุผลและความหมายพิเศษ ซึ่งผู้ชมจะสัมผัสได้จากรายละเอียดที่เปลี่ยนไปในแทบทุกส่วน

หนังยังคงเล่าเหตุการณ์สำคัญจากชีวิตจริงของตี๋ใหญ่โดยไม่ดัดแปลงโครงหลักมากนัก ใครที่เคยดูเวอร์ชันเก่าอาจรู้สึกว่าเนื้อหาคุ้นเคย แต่สำหรับผู้ชมรุ่นใหม่ นี่คือการนำเรื่องราวคลาสสิกมาปรับให้ร่วมสมัย คล้ายกับแนวทางของ “ขุนพันธ์” ที่ผสานความเชื่อเรื่องอาคมเข้ากับประวัติศาสตร์จริงของยุคนั้น เมื่อสื่อมวลชนเน้นขายข่าวจนทำให้ “ตี๋ใหญ่” ถูกยกให้เป็นเหมือนพระเอก ในขณะที่ตำรวจกลับถูกมองเป็นผู้ร้าย ซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทยยุคที่ผู้คนยังเชื่อในไสยศาสตร์และข่าวลือมากกว่าความจริง

หนังเปิดเรื่องด้วยฉากการจับกุมตี๋ใหญ่ครั้งแรก ก่อนที่เขาจะกระโดดหนีจากรถไฟ แล้วตัดเข้าสู่เหตุการณ์ที่ตำรวจสองนายท้าทายให้เขาแสดงอาคมที่ร่ำลือกัน หนังกระตุ้นความสงสัยตั้งแต่ต้นว่า “ตี๋ใหญ่มีอาคมจริงหรือไม่” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาช่างเหลือเชื่อเกินจะอธิบายได้ ก่อนย้อนเล่าชีวิตวัยเด็กของตี๋ใหญ่ ผ่านมิตรภาพในวัดกับเพื่อนรัก “ฤกษ์” ลูกชายของนักมายากลที่ถูกตำรวจยัดข้อหา การกลับมาขอเครื่องรางจาก “หลวงพ่อสุด สิริธโร” เพื่อป้องกันตัว กลายเป็นจุดเริ่มต้นของคำถามใหญ่ — สิ่งที่ปกป้องตี๋ใหญ่คือพลังอาคมจริง หรือฝีมือของเพื่อนผู้มีความลับบางอย่างกันแน่

หนังเล่นกับประเด็นนี้ได้อย่างชาญฉลาด แทรกฉากต่อสู้ที่มีสีสันเหนือธรรมชาติให้ผู้ชมตั้งคำถามตลอดเวลา แม้แต่นายตำรวจใหญ่ผู้ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ยังต้องเริ่มลังเลเมื่อได้เห็นเหตุการณ์กับตา ซึ่งล้วนมีพื้นฐานจากเหตุการณ์จริงในอดีต การเฉลยในช่วงท้ายจึงทั้งน่าเชื่อถือและตอบโจทย์ทุกปริศนาได้ครบถ้วน

นอกจากมุมของจอมโจรแล้ว หนังยังให้ความสำคัญกับ “มิตรภาพของพวกพ้องตี๋ใหญ่” มากกว่าเวอร์ชันก่อน ๆ โดยมีตัวละครสำคัญคือ “ฤกษ์” เพื่อนรักของตี๋ใหญ่, “ดาว” หญิงโสเภณีคนรักของฤกษ์ และ “คิด” เด็กหนุ่มที่ติดตามกลุ่มโจรมาตลอด ซึ่งทั้งหมดแม้จะเป็นตัวละครสมมติ แต่ก็ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับคดีจริงอย่างแนบเนียน โดยเฉพาะ “คิด” ที่เป็นลูกชายของเหยื่อจากคดีปล้นครั้งแรก และเลือกจะช่วยโจร เพราะมองว่าพ่อ ไม่ใช่คนดีในสายตาของตัวเอง

ชื่อเรื่อง “ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร” จึงเป็นการเล่นคำอย่างมีชั้นเชิงกับชื่อของเพื่อนทั้งสองคน “ฤกษ์” และ “ดาว” ที่เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนและเงาสะท้อนอีกด้านของชีวิตตี๋ใหญ่ การเล่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเหล่านี้ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวมากขึ้น พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ร่วมทางของตี๋ใหญ่ แต่คือฟันเฟืองสำคัญของเส้นเรื่อง ที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน ความทรยศ และการหักหลัง จนตอนท้ายที่ตี๋ใหญ่ถูกยิงเสียชีวิตในรถ — ซึ่งจากข่าวลือจริงว่ามีการทรยศในหมู่เพื่อน — หนังก็ขยายจุดนี้ให้ลึกซึ้งและสะเทือนใจขึ้นอย่างมาก
นอกจากมุมของจอมโจรแล้ว หนังยังให้ความสำคัญกับ “มิตรภาพของพวกพ้องตี๋ใหญ่” มากกว่าเวอร์ชันก่อน ๆ โดยมีตัวละครสำคัญคือ “ฤกษ์” เพื่อนรักของตี๋ใหญ่, “ดาว” หญิงโสเภณีคนรักของฤกษ์ และ “คิด” เด็กหนุ่มที่ติดตามกลุ่มโจรมาตลอด ซึ่งทั้งหมดแม้จะเป็นตัวละครสมมติ แต่ก็ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับคดีจริงอย่างแนบเนียน โดยเฉพาะ “คิด” ที่เป็นลูกชายของเหยื่อจากคดีปล้นครั้งแรก และเลือกจะช่วยโจร เพราะมองว่าพ่อ ไม่ใช่คนดีในสายตาของตัวเอง

ชื่อเรื่อง “ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร” จึงเป็นการเล่นคำอย่างมีชั้นเชิงกับชื่อของเพื่อนทั้งสองคน “ฤกษ์” และ “ดาว” ที่เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนและเงาสะท้อนอีกด้านของชีวิตตี๋ใหญ่ การเล่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเหล่านี้ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวมากขึ้น พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ร่วมทางของตี๋ใหญ่ แต่คือฟันเฟืองสำคัญของเส้นเรื่อง ที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน ความทรยศ และการหักหลัง จนตอนท้ายที่ตี๋ใหญ่ถูกยิงเสียชีวิตในรถ — ซึ่งจากข่าวลือจริงว่ามีการทรยศในหมู่เพื่อน — หนังก็ขยายจุดนี้ให้ลึกซึ้งและสะเทือนใจขึ้นอย่างมาก

ในแง่งานสร้าง นนทรีย์ยังคงถนัดกับหนังย้อนยุคเช่นเคย ฉากและบรรยากาศช่วงปี 2516–2524 ถูกสร้างขึ้นอย่างสมจริง ด้วยงบประมาณและคุณภาพการผลิตระดับ Netflix ที่เหนือกว่ามาตรฐานหนังไทยทั่วไป

อย่างไรก็ตาม หนังมีบางช่วงที่การเล่าเรื่องดูสะดุดและไม่ลื่นไหลเท่า มนต์รักนักพากย์ อาจเพราะต้องผสมผสานระหว่างข้อเท็จจริงกับเนื้อเรื่องแต่ง ทำให้บางตอนขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงท้าย ///มีสปอยล์บางส่วน ///— เมื่อฤกษ์ถูกจับและมีข่าวว่าตาย แต่กลับกลับมาปรากฏตัวโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน หรือแรงจูงใจในการร่วมมือกับตำรวจที่ยังอธิบายไม่มากพอ เช่นเดียวกับคิดที่มารู้ความจริงได้ยังไงก็ยังไม่ชัดเจนพอ รวมทั้งการที่นายตำรวจที่ไล่ล่าตี๋ใหญ่หักหลังลูกน้องเพราะอะไร? ซึ่งหนังก็พยายามอุดช่องว่างบางส่วนในช่วงเอนด์เครดิตด้วยการเล่าเหตุการณ์เพิ่มเติมเล็กน้อย

โดยรวมแล้ว ตี๋ใหญ่ เวอร์ชันนี้คือการตีความใหม่ที่ผสานระหว่างตำนานและความจริง ถ่ายทอดด้วยสายตาของผู้กำกับที่เข้าใจยุคสมัย และมอบความรู้สึกทั้งเข้มข้น น่าติดตาม และสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่