รีวิว Heads of State ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต (prime) หนังแอ็กชั่นที่ครีเอทความมันส์ต่อเนื่องมากกว่าตลกอย่างที่คิด!

Heads of State
Summary
นี่คือหนังแอ็กชั่นสุดมันส์มากกว่าภาพของหน้าตาภายนอกที่ดูเป็นหนังตลก จากลุคของ จอห์น ซีนา กับ ไอดริส เอลบา ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Nobody ที่ครีเอทฉากแอ็กชั่นที่แปลกใหม่ ละเลงความมันส์ตั้งแต่ต้นจนจบเกินกว่ามาตรฐานหนังสตรีมมิ่งไปเยอะมาก ซึ่งบอกเลยมันตอบโจทย์ความบันเทิงสุดๆ แถมยังรวมดาราขาประจำของ Prime กันมาอย่างครบเลยทั้งตัวเอกตัวร้าย ทุกคนต่างมีบทที่สร้างสีสันที่แม้ออกแค่ฉากเดียวก็ยังน่าจดจำ อีกทั้งโครงเรื่องราวแนวฮีโร่อเมริกากับอังกฤษมาช่วยกันปราบผู้ก่อการร้ายก็ไม่ได้ทำแบบเส้นตรงขอไปที แต่เล่นเรื่องทันสมัยอย่างอเมริกาเฟิร์สกับนาโต้มาสร้างปัญหาทำให้ทั้งคู่พึ่งรู้ว่าพวกกรูมันพวกชั่วร้ายเลยนี่หว่า ซึ่งหนังจิกกัดเสียดสีเรื่องนี้ได้อย่างเจ็บแสบพอประมาณ แต่ก็ยังเล่าในแนวทางฮีโร่แอ็กชั่นได้สนุกแบบเดิม ส่วนที่หนังอาจจะทำได้ไม่ดีนักก็ตรงบทพูดจิกกัดของสองตัวเอกที่มีความแตกต่างทั้งด้านวัฒนธรรม การเมือง และเรื่องชีวิตส่วนตัว ซึ่งบทพูดอาจจะดูฝืดๆ อยู่บ้าง ไม่ตลกอย่างที่คาดไว้ แต่ก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไรนักเพราะนักแสดงทั้งคู่ก็ยังรับบทนี้ได้ดีพอจนทำให้ยังไงหนังก็ยังดูเพลินมากๆ ได้อยู่ดีครับ
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- ฉากแอ็กชั่นมันส์ๆ ครีเอทใหม่ทั้งเรื่อง
- บททันสมัยตามสถานการณ์โลก
- นักแสดงคู่ จอห์น ซีนา กับ ไอดริส เอลบา
- รวมดาราเด่นจาก Prime
- มีพากย์ไทย
Cons
- บทพูดจิกกัดกันของสองตัวเอกยังไม่ตลกมาก
ADBRO
Heads of State ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต ภาพยนตร์แอ็กชั่นตลก Original Amazin prime ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ขัดแย้งกันต้องมาร่วมมือกันสู้กับผู้ก่อการร้ายที่หวังทำลายพวกเขาและนาโต้ โดยมีสายลับ MI6 สาวแกร่งมาเป็นผู้ช่วยกู้โลก
รีวิว Heads of State ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต (ไม่สปอยล์)
หนังแอ็กชั่นที่ฟอร์มหน้าตาเป็นหนังตลกตั้งแต่เห็นครั้งแรก เพราะนี่คือการเอา จอห์น ซีนา มาเล่นคู่กับ ไอดริส เอลบา ซึ่งทั้งคู่ก็เคยจับคู่กันแบบนี้มาแล้วในหนัง The Suicide Squad และด้วยลุคของ จอห์น ซีนา เองที่มาในแนวหนังแอ็กชั่นตลกต่อเนื่องติดๆ กัน ก็ทำให้ยอมรับเลยว่ามองหนังเรื่องนี้แบบ ก็หนังตลกสตรีมมิ่งธรรมดานั่นแหละน่า แต่พอได้ดูแล้วก็ผิดคาด จริงๆ แล้วนี่มันคือหนังแอ็กชั่นจัดเต็มชัดๆ ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Ilya Naishuller ที่ทำหนังแอ็กชั่นมันส์ๆ อย่าง Nobody (ปี 2021) นั่นเอง
ด้วยความที่ลายเซ็นต์ของผู้กำกับชัดว่านี่เป็นหนังแอ็กชั่นผสมตลก ไม่ใช่ตลกผสมแอ็กชั่น ฉากแอ็กชั่นในเรื่องจึงสาดกันออกมายิบๆ อย่างกับปืนกลตั้งแต่แรก ซึ่งโดยทั่วไปหนังสตรีมมิ่งก็มักจะจัดหนักให้ตอนเปิดเรื่องพิเศษ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยผู้ชมก็ต้องหลงดูแล้วคิดว่าคงมีแบบนี้ไปจนจบ แต่หลายเรื่องกลับไม่ใช่แบบนั้นเลยเหมือนงบหมดตอนท้ายทุกที แต่เรื่องกลับจัดหนักต่อเนื่องมันส์ขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้สถานะของสหรัฐอเมริกาที่มีพวกพาหนะพิเศษ อย่าง เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน รถหุ้มเกราะเดอะบีสต์ ที่มีลูกเล่นสารพัดไว้ป้องกันตัวและต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายได้เหมือนอย่างกับแบทแมน ทั้งฉากกลางอากาศที่โดนเครื่องบินตัวร้ายที่มีสารพัดอาวุธไล่ล่า หรือฉากไล่บี้รถในเมืองที่โดนรุมยิงจนพรุนชนิดที่หนักกว่าในสงคราม แต่กลับตอบโต้ด้วยอาวุธพิเศษที่งัดเอามาใช้กันจนได้แม้แต่ถุงเลือดช่วยชีวิตประธานาธิบดีก็ยังมาเป็นอาวุธได้ ทำให้ฉากแอ็กชั่นในเรื่องมีความพิเศษ สนุกแตกต่าง ติดฮาแทรกมานิดๆ ซึ่งแค่ทั้งสองฉากนี้ก็มันส์สุดๆ ชนิดที่ว่าหนังแอ็กชั่นแนวประธานาธิบดีอเมริกาหลายเรื่องยังทำฉากพวกนี้ไม่ได้เท่าเรื่องนี้เลย
แล้วไม่ใช่แค่ว่าพาหนะพิเศษจะทำให้ฉากแอ็กชั่นมันสนุกได้ แต่การออกแบบฉากแอ็กชั่นทุกฉากมีความครีเอทสร้างสรรแตกต่างกันไปหมด อย่างฉากเปิดเรื่องในงานปามะเขือเทศของสเปนก็มีลีลาการต่อสู้ของนักแสดง ปริยังกา โชปรา โจนาส สายลับ MI6 ที่โดดเด่นมากท่ามกลางมะเขือเทศเลอะเปรอะเปื้อนกับการซุมยิงรอบทิศ ซึ่งก่อนนี้เธอก็แสดงเป็นนางเอกในซีรีส์ Citadel ของ prime อยู่แล้ว หรือแม้แต่ฉากที่ฮิวอี้จาก the boys แว่บมาผสมโรงแค่ฉากเดียวก็ยังทำให้ทึ่งกับการใช้ปืนยิ่งทะลุผนังผ่านการมองจอกล้องวงจรปิดที่เท่สุดๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ยังมีฉากเท่ๆ มันส์ๆ อัดกันมาแน่นมาก ชนิดที่ว่าแค่ดูฉากแอ็กชั่นก็สนุกจนเกินคุ้มค่ามากกว่าราคารายเดือนของ prime ไปแล้ว (ซื้อตั๋วดูหนังโรงยังหาแอ็กชั่นอัดกันมามันส์ๆ ขนาดนี้ได้ยากเลยครับ)
นอกจากนี้แล้วหนังยังคงเดินเรื่องได้ดี มีความสดใหม่ แปลกแตกต่าง เกินกว่าความเป็นหนังแอ็กชั่นตลกธรรมดา ด้วยการดึงเรื่อง ‘อเมริกาเฟิร์ส’ ของทรัมป์มาใช้ ผสมกับปัญหาของนาโต้ที่มักถูกถามดังขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีความจำเป็นไหม แล้วก็ไม่ได้วางให้ฝ่ายอเมริกากับอังกฤษหรือนาโต้เป็นฝ่ายดีซะทีเดียว หนังหยิบจับปัญหาจริงๆ ของพวกนี้มาผสมเป็นพล็อตเรื่องที่กลับด้านกับแนวฮีโร่อเมริกาปกติ ทำให้เห็นว่าผู้ร้ายจริงๆ ที่พวกเขาไล่ล่าทำลายแบบไม่เกรงใจใครนั้น จริงๆ แล้วก็อาจจะเป็นแค่คนกำลังพยายามทำสิ่งที่ดีกับประเทศของเขาก็ได้ แต่พวกคุณเพียงแค่มีอำนาจแล้วก็ใช้มันกำหราบทุกคนที่เห็นว่าเป็นภัย จึงกลายเป็นฉากที่ตัวเอกประธานาธิบดีอเมริกากับนายกอังกฤษเองก็พึ่งรู้ว่า “เรานี่มันพวกชั่วร้ายดีๆ นี่หว่า” ซึ่งหนังกล้าที่จะแตกต่าง แล้วก็หยอดความน่าเห็นใจให้ผู้ร้ายจริงๆ แบบใครโดนแบบนี้จะไม่แค้นได้ไง แล้วก็เดินเรื่องเล่นบทฮีโร่ชั่วร้ายที่แค่ผิดพลาดไปและกำลังหยุดยั้งความชั่วร้ายมากกว่าที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งพอเป็นโทนเรื่องมันผสมตลกก็เลยทำให้ทำให้ตรงนี้มันสามารถไปต่อได้เนียนๆ ไม่ซีเรียสแต่ก็ชะงักนิดๆ ให้หยุดคิดว่าผู้กำกับต้องการเสียดสีความจริงที่เกิดขึ้นในสถานการณ์โลกตอนนี้แบบตรงไปตรงมา รวมถึงเรื่องนโยบายอเมริกาเฟิร์สที่ก็สร้างปัญหาผิดๆ ขึ้นมาจากกลไกประชาธิปไตยได้เช่นกัน
แต่สิ่งที่หนังอาจจะพลาดไปบ้างก็คือ บทพูดยิงมุกคู่ของ จอห์น ซีนา กับ ไอดริส เอลบา ดูไม่ค่อยตลกอย่างที่ควรจะเป็น หนังเอาเรื่องความแตกต่างของสองวัฒนธรรมมาชนกัน ระหว่างอเมริกาที่บ้าสร้างสีสรรโฆษณาจนนักแสดงได้เป็นประธานาธิบดีกับนายกอังกฤษที่ไต่เต้าขึ้นมาเองผ่านหน้าที่การงานกับการเมืองที่เข้มข้น คนอังกฤษก็มักเรียบง่ายสายอนุรักษ์แท้ๆ ต่างกับอเมริกาที่เสรีสุดๆ ซึ่งบทพูดที่ขัดกันของทั้งคู่ตลอดเรื่อง ก่อนที่จะกลายเป็นความเข้าใจกันในตอนหลังมันยังดูธรรมดาไม่เจ็บแสบแบบที่ควรเป็น แต่ก็ไม่ได้ถือว่าบทมันแย่อะไรมากมายครับ เพราะความสามารถการแสดงของทั้งคู่ก็ดึงดูดทำให้คาแรกเตอร์ทั้งคู่ดูโดดเด่นสนุกกันได้อยู่แล้ว แต่แค่อาจจะไม่แตกต่างจากบทที่ผ่านๆ มาครับ
สรุป
Heads of State นี่คือหนังแอ็กชั่นสุดมันส์มากกว่าภาพของหน้าตาภายนอกที่ดูเป็นหนังตลก จากลุคของ จอห์น ซีนา กับ ไอดริส เอลบา ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Nobody ที่ครีเอทฉากแอ็กชั่นที่แปลกใหม่ ละเลงความมันส์ตั้งแต่ต้นจนจบเกินกว่ามาตรฐานหนังสตรีมมิ่งไปเยอะมาก ซึ่งบอกเลยมันตอบโจทย์ความบันเทิงสุดๆ แถมยังรวมดาราขาประจำของ Prime กันมาอย่างครบเลยทั้งตัวเอกตัวร้าย ทุกคนต่างมีบทที่สร้างสีสันที่แม้ออกแค่ฉากเดียวก็ยังน่าจดจำ อีกทั้งโครงเรื่องราวแนวฮีโร่อเมริกากับอังกฤษมาช่วยกันปราบผู้ก่อการร้ายก็ไม่ได้ทำแบบเส้นตรงขอไปที แต่เล่นเรื่องทันสมัยอย่างอเมริกาเฟิร์สกับนาโต้มาสร้างปัญหาทำให้ทั้งคู่พึ่งรู้ว่าพวกกรูมันพวกชั่วร้ายเลยนี่หว่า ซึ่งหนังจิกกัดเสียดสีเรื่องนี้ได้อย่างเจ็บแสบพอประมาณ แต่ก็ยังเล่าในแนวทางฮีโร่แอ็กชั่นได้สนุกแบบเดิม ส่วนที่หนังอาจจะทำได้ไม่ดีนักก็ตรงบทพูดจิกกัดของสองตัวเอกที่มีความแตกต่างทั้งด้านวัฒนธรรม การเมือง และเรื่องชีวิตส่วนตัว ซึ่งบทพูดอาจจะดูฝืดๆ อยู่บ้าง ไม่ตลกอย่างที่คาดไว้ แต่ก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไรนักเพราะนักแสดงทั้งคู่ก็ยังรับบทนี้ได้ดีพอจนทำให้ยังไงหนังก็ยังดูเพลินมากๆ ได้อยู่ดีครับ