playinone.com
รีวิวหนัง ซีรีส์ Netflix HBO Prime Disney+ Apple TV+ สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว MONSTER: The Ed Gein Story (Netflix) วัฒนธรรมฉกฉวยเรื่องราวฆาตกรไปทำเงินที่น่ารังเกียจ…

Summary

ซีรีส์ยังคงหนักแน่นจริงจังในการเล่าเรื่องอีกด้านของฆาตกรโหด ในโทนที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจปัญหาการเกิดขึ้นมาของ “Monster” อย่างลึกซึ้งถึงด้านที่เป็นมนุษย์จริงๆ ในแบบวิปริต ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกโจมตีมาตั้งแต่ซีซั่นแรกว่าทำให้ฆาตกรดูน่าเห็นใจและไม่มองในมุมเหยื่อที่ถูกกระทำ ผู้สร้างเอาเรื่องราวพวกนี้มาหากิน แต่ซีชั่นนี้คือการเอาประเด็นนี้มาเล่นย้อนกลับเพราะ เอ็ด กีน คือฆาตกรที่เป็นต้นแบบของหนังสยองขวัญดังอย่าง Psycho และ The Texas Chain Saw Massacre รวมถึงฆาตกรคนอื่นๆ ในอเมริกาที่ต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเขาและเชิดชูเขาให้เป็นไอดอล ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องการฉกฉวยบิดเบือนข้อเท็จจริงของฆาตกรมากกว่าการเล่าเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นจริงๆ ซะอีก โดยที่ซีรีส์ถึงจะทำส่วนนี้ออกมาได้ดีในแง่การเกิดวัฒนธรรมบันเทิงแบบใหม่ แต่ก็ทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้อินกับหนังสองเรื่องนั้นรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินที่ถูกเล่าตัดสลับกับเรื่องจริงออกมาได้ชวนสับสนมากกว่า ซึ่งตัวคดีเองจริงๆ ก็ยังเอาเรื่องราวในจินตนาการของเอ็ด กีน ที่มีมากมายมาเล่ารวมไปเหมือนเรื่องจริงไปด้วย ทำให้ซีรีส์มีเนื้อหาส่วนเกินจากเรื่องจริงเกิดขึ้นมากไปจนดูยืดยาวหลายตอน แต่ว่าตัวเรื่องจริงที่เล่าโดยมีเพื่อนสาวที่พัฒนามาเป็นแฟนของเอ็ด กีน ก็ทำได้ดีมาก ซีรีส์ทำให้เห็นอีกด้านของเอ็ด กีนที่มีความรักจริงอยู่ แล้วต่างก็พัฒนาส่วนของความรักแบบโรคจิตไปด้วยกัน ซึ่งมันดูเข้าใจยาก แต่ก็เป็นส่วนที่ทำให้เอ็ด กีน ดูมีที่มาที่ไปที่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้เกิดมาเลวร้ายเป็นฆาตกรโรคจิตแต่แรก แล้วช่วงท้ายตอน 7-8 ก็พาเขากลับมาอยู่ในจุดของเรื่องจริงมากที่สุดก็คือการติดอยู่ในโรงพยาบาลบ้าที่เขาดูมีความสุขและทุกข์แบบไม่รู้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีรีส์ก็วกกลับมาในจุดที่สะท้อนปัญหาว่าฆาตกรโหดต่างเป็นที่ชื่นชอบของสังคมเองจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมฉกฉวยเอาเรื่องพวกเขามาเล่าใหม่ให้กลายเป็นสินค้าทำเงิน ที่เอ็ด กีนเองก็ไม่เคยได้รับส่วนแบ่งหรือต้องการสิ่งนี้เลยครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
3 (2 votes)

Pros

  • ยังคงเล่าท่วงทำนองเบื้องลึกที่น่าเห็นใจของฆาตกรได้ดี
  • ทำให้เห็นวัฒนธรรมบันเทิงอเมริกาที่ผูกโยงกับความรุนแรงในโลกจริง
  • นักแสดงตัวเอกเล่นได้ดีสมบทบาทมาก
  • ฉากโหดน่ากลัวสมจริง
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ส่วนของจินตนาการในเรื่องเยอะมากจนชวนสับสน
  • การเล่าเรื่องยืดเยื้อเกินจำเป็นไปเยอะ

ADBRO

MONSTER: The Ed Gein Story ปีศาจ: เรื่องราวของเอ็ด กีน ซีรีส์ Original Netflix 8 ตอนจบ ลำดับที่สามในชุดรวมเรื่องสั้น “Monster” เล่าเรื่องชีวิตและอาชญากรรมของหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่อื้อฉาวที่สุดของอเมริกาอย่าง เอ็ด กีน ที่เป็นต้นแบบของหนังสยองขวัญดังอย่าง Psycho และ The Texas Chain Saw Massacre โดยที่เขาก็ไม่เคยได้รับโทษแต่ติดอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชไปตลอดจนสิ้นชีวิต

 

รีวิว MONSTER: The Ed Gein Story

ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงรูปแบบเดิมคือ นี่ไม่ใช่สารคดีและก็ไม่ใช่เรื่องจริงแบบเก็บรายละเอียดโดยตรงให้ถูกต้อง แต่มีการเติมแต่งตัดต่อเรื่องราวใหม่แทรกลงไป โดยยังคงเป็นซีรีส์ที่เน้นสำรวจเบื้องลึกของฆาตกรต่อเนื่องในรูปแบบทำให้ผู้ชมได้เห็นอีกด้านที่ “ดูแล้วจะรู้สึกเห็นใจฆาตกร” ซึ่งประเด็นนี้เคยถูกโจมตีตั้งแต่เรื่องแรก เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ มนุษย์กินคนที่แสดงโดย ‘อีวาน ปีเตอร์ส’ และได้รับลูกโลกทองคำ แถมซีรีส์ก็ไม่ได้ไปขออนุญาตเรื่องราวของเหยื่อมาถ่ายทำ ซึ่งแม่ของเหยื่อในคดีนั้นก็บอกว่า “มันน่ารังเกียจที่ผู้คนเอาโศกนาฏกรรมของเราไปหาเงิน เหยื่อไม่เคยเห็นเงินพวกนั้นสักแดงเดียว ทั้งที่พวกเราต่างหากที่ต้องอดทนกับความเจ็บปวดในทุก ๆ วัน” ซึ่งเรื่องนี้ก็ย้อนกลับมากลับมาเล่าในท่วงทำนองเดิมอีกครั้ง แต่เป็นการเล่าเรื่องของ เอ็ด กีน ที่ถูกฮอลลีวูดฉกฉวยเรื่องราวของเขาไปดัดแปลง โดยที่ซีรีส์เรื่องนี้เน้นการบอกเล่าตรงนี้ออกมามากกว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวของเอ็ด กีน เพียงอย่างเดียว

ด้วยความที่ไม่ใช่ซีรีส์ที่เล่าเรื่องคดีจากฆาตกรโดยตรง แต่เป็นการเล่าถึงเรื่องราวของเขาไปพร้อมกับช่วงเวลาในอนาคตที่เรื่องของเขาถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ มันจะเป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างทำให้ผู้ชมสับสนไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะผู้ชมรุ่นหลังที่อาจจะไม่ได้อินกับหนังทั้งสองเรื่องนั้น ซึ่งซีรีส์พยายามเล่าเรื่องราวของผู้กำกับไซโค อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ก่อน โดยอยู่ๆ ก็มีฉากที่ตัดจากการเล่าเรื่องเอ็ด กีน มาที่เขาแล้วก็ขั้นตอนการเขียนบท การเลือกนักแสดงชายที่เป็นเกย์มาเล่น ในยุคที่เรื่องแบบนี้ยังไม่ได้ถูกยอมรับนัก จนหนังฉายได้รับความนิยมกับผลลัพธ์ที่น่าสะอิดสะเอียนจากผู้ชมในโรงที่ทนดูไม่ไหว แล้วก็กระโดดเรื่องราวมาอีกทีที่ผู้กำกับ The Texas Chain Saw Massacre กำลังอยู่ในช่วงเวลาโกรธแค้นจากสงครามเวียดนาม แล้วก็เลยเอาเรื่องของเอ็ด กีน มาแต่งใหม่ให้เป็นแนวโหดร้ายรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีกด้วยภาพฆาตกรโรคจิตใส่หน้ากากหนังมนุษย์พร้อมเลื่อยยนต์ไล่ฆ่าคน ซึ่งหนังให้เวลากับทั้งสองเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง เป็นการตัดสลับไปมาเล่าเรื่องไปพร้อมกับเอ็ด กีนที่ยังไม่ถูกจับได้ ซึ่งทำให้เนื้อหาซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนการเล่าถึงผลกระทบกับวัฒนธรรมบันเทิงอเมริกามากกว่าอย่างอื่น ซึ่งในจุดนี้อาจจะดูยืดเยื้อบ้าง แต่ก็ทำให้ผู้ชมได้เห็นวิวัฒนาการอุตสาหกรรมบันเทิงอเมริกาที่ติดกับการหยิบเรื่องของฆาตกรมาปั้นให้เป็นสิ่งบันเทิงที่ทำเงินที่ผู้ชมเองก็ชื่นชอบด้วย

ส่วนตัวเรื่องของเอ็ด กีน เองก็ไม่ได้เน้นที่เขาโดยตรงที่มาจากปัญหาแม่พยายามบังคับไม่ให้เขามีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องจนเป็นสาเหตุสำคัญของการลงมือฆาตกรรม แต่ใส่เรื่องราวของ “แอเดไลน์” ตัวละครจริงที่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่เข้าใจ เอ็ด กีน เข้ามา และทั้งคู่ก็พัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรัก ซึ่งเนื้อเรื่องในส่วนนี้ทำได้ดีทั้งความสยองขวัญที่ผู้ชมก็คงรู้สึกว่าหรือเธอจะเป็นเหยื่อคนหนึ่งของเขา แต่ซีรีส์ได้พัฒนาเรื่องราวของทั้งคู่ไปตามแนวทางที่แม้จะเติมแต่ง แต่ก็มีข้อเท็จจริงว่าแอเดไลน์เธอเข้าใจเอ็ด กีน จริงๆ และเธอเองก็มีปัญหาทางจิตป่วยแบบไม่รู้ตัวเช่นกัน จากความหลงไหลในการถ่ายภาพศพ ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องเธอแยกออกไปถึงขนาดให้เห็นว่าเธอไปหางานในเมืองนิวยอร์คและถูกช่างภาพที่เธอบูชาขับไล่ เพราะไม่เชื่อว่าภาพศพที่เธอถ่ายมาให้เขาดูเป็นของจริง ซึ่งตัวเธอเองเป็นเหมือนคนที่ไปช่วยพัฒนาทำให้เอ็ด กีน มีรสนิยมหลงไหลในนาซี การข่มขืนศพ เพราะเธอไม่ยอมมีอะไรกับเขาแม้จะเป็นแฟนกันและแนะนำให้เขาไปข่มขืนศพจนกลายเป็นการติดใจสภาพเย็นเยียบของเนื้อตัวศพ ซึ่งทำให้เขาดูวิปริตขึ้นไปอีก แต่ซีรีส์ก็ถ่ายทอดเรื่องของเธอออกมาได้ดี เรียกว่าในความดิบโหดที่เขาก่อขึ้น เธอก็ยังเป็นแสงสว่างในใจของเอ็ด กีน ที่แม้จิตใจจะบิดเบี้ยวมากมายแค่ไหนเขาก็ยังรักเธอเสมอ ซึ่งซีรีส์จับอารมณ์ตรงนี้ได้อยู่หมัดแม้ว่าจะเข้าใจความรักของทั้งคู่ที่แปลกประหลาดนี้ยากสักหน่อยครับ

นอกจากนี้ซีรีส์ยังเน้นเล่าเรื่องจากความบิดเบี้ยวในหัวของเอ็ด กีน มากกว่าเรื่องจริงๆ ที่ดำเนินไป โดยสัดส่วนของเรื่องจริงมีน้อยกว่าเรื่องในหัวของเขาซะอีก อย่างสิ่งที่เขาเชื่อว่าแม่ยังอยู่ในบ้านตลอด มากกว่าหนังไซโคคือแม่เขามาปรากฏตัวอยู่ทั่วไปหมดทุกที่ ตัวละครนาซีที่ “แอเดไลน์” เอามาให้เขาอ่าน หรือ คริสตีน ยอร์เกนเซน ผู้หญิงข้ามเพศชื่อดังในยุคนั้น ซึ่งเขาจินตนาการเรื่องราวของเธอขึ้นมาเอง แล้วก็เอามาผสมกับเรื่องของเขาว่าได้ติดต่อคุยกัน เล่าเรื่องราวออกมาเป็นฉากๆ ซึ่งมีเยอะมาก แล้วซีรีส์ก็ตั้งใจทำให้ผู้ชมสับสนด้วยว่าอะไรคือจริงหรือเท็จ ซึ่งเป็นปัญหามากกว่าส่วนของภาพยนตร์ที่ผู้ชมก็ยังรู้ว่านี่เรื่องจริง แต่เรื่องส่วนนี้ถูกผสมรวมกันจนทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดว่าซีรีส์กำลังเล่าเรื่องจริงของตัวละครพวกนี้แยกออกไปหรือไม่ 

 

ช่วงท้ายเรื่องตอน 7-8 ซีรีส์ปรับโทนมาเล่าเรื่องของเอ็ด กีน ที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชแบบจริงจัง ซึ่งเป็นส่วนที่พยายามทำให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าทำไมเอ็ด กีน ถึงไม่ถูกเอาไปขึ้นศาลก็เพราะเขาบ้าอย่างสมบูรณ์แบบแม้จะมาอยู่ที่นี่ โดยแบ่งเป็นช่วงที่เขาบ้าหลอนกับเรื่องราวที่แต่งขึ้นมาเองในหัวอย่างหนักกับช่วงหลังที่มีการเปลี่ยนยา แล้วก็มี FBI มาขอคำปรึกษาเพื่อให้เขาช่วยจับฆาตกรชื่อดังอย่าง เท็ด บันดี (Ted Bundy) และ ริชาร์ด สเป็ก (Richard Speck) ที่ต่างก็ยอมรับว่าได้อิทธิพลมาจากเอ็ด กีน กันทั้งนั้น ซึ่งส่วนนี้ซีรีส์สาวลึกลงไปว่าเขาพอใจหรือไม่ที่มีแต่ฆาตกรกับคนโรคจิตเขียนจดหมายมาหา เป็นส่วนที่ทำให้เอ็ด กีน เหมือนได้กลับมาเป็นมนุษย์ที่มีจิตจใกล้เคียงคนปกติมากที่สุด ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องส่วนนี้ได้ดีและน่าเห็นใจในแบบที่หันกลับมาตบหน้าฮอลลีวู๊ดเต็มๆ แต่ว่าเรื่องราวตรงนี้ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจริงทั้งหมดเหมือนกันครับ

ส่วนตัวนักแสดงเอ็ด กีนที่ รับบทโดย Charlie Hunnam ก็ถือว่ายังคงแสดงได้ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าตัวละครนี้จะเป็นต้นกำเนิดความวิปริตที่ฆาตกรคนอื่นรับสืบทอดกันต่อๆ มา แต่เขาก็แสดงได้อย่างน่าเห็นใจว่าจริงๆ เขาก็เป็นเพียงชายหนุ่มสุภาพเรียบร้อยที่รักแม่มาก แล้วก็พยายามปฏิบัติตามคำสอนที่แม่บังคับเก็บกดเรื่องเพศไว้จนทำให้เขามีความผิดปกติ เหตุที่เกิดขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่เขาจำไม่ได้เพราะมีบุคลิกแปลกแยกเป็นร่างฆาตกรกับร่างปกติที่พยายามทำตัวเป็นผู้หญิง ซึ่งเวลาปกติจะจำได้เพียงแค่ว่าชอบขุดศพขึ้นมาเก็บไว้ในบ้าน ซึ่งเขายอมรับเรื่องนี้มาตลอด แต่ไม่ยอมรับว่าฆ่าคนตายแม้หลักฐานจะมัดตัวเขาคาบ้าน ซึ่งนักแสดงเล่นบทนี้แบบตีบทแตก ตั้งแต่ต้นจนจบเราจะเห็นความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนจากเขากับคนอื่นตลอดเวลา ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นจริงก็เป็นคำตอบว่าทำไมพยาบาลที่ดูแลเขาจนวาระสุดท้ายถึงบอกให้เขาเขียนชีวประวัติตัวเองขึ้นมาให้คนอื่นอ่าน แทนที่จะให้คนอื่นเขียนเรื่องของเขาเองจนบิดเบือนไปหมด ซึ่งคำตอบที่เอ็ด กีน ตอบไว้ในเรื่องนี้ก็กระทบใจไม่น้อย และก็น่าจะเป็นเรื่องจริงในช่วงวาระสุดท้ายตอนที่เขามะเร็งรู้ตัวว่าใกล้ตายครับ

 

สรุป

ซีรีส์ยังคงหนักแน่นจริงจังในการเล่าเรื่องอีกด้านของฆาตกรโหด ในโทนที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจปัญหาการเกิดขึ้นมาของ “Monster” อย่างลึกซึ้งถึงด้านที่เป็นมนุษย์จริงๆ ในแบบวิปริต ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกโจมตีมาตั้งแต่ซีซั่นแรกว่าทำให้ฆาตกรดูน่าเห็นใจและไม่มองในมุมเหยื่อที่ถูกกระทำ ผู้สร้างเอาเรื่องราวพวกนี้มาหากิน แต่ซีชั่นนี้คือการเอาประเด็นนี้มาเล่นย้อนกลับเพราะ เอ็ด กีน คือฆาตกรที่เป็นต้นแบบของหนังสยองขวัญดังอย่าง Psycho และ The Texas Chain Saw Massacre รวมถึงฆาตกรคนอื่นๆ ในอเมริกาที่ต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเขาและเชิดชูเขาให้เป็นไอดอล ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องการฉกฉวยบิดเบือนข้อเท็จจริงของฆาตกรมากกว่าการเล่าเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นจริงๆ ซะอีก โดยที่ซีรีส์ถึงจะทำส่วนนี้ออกมาได้ดีในแง่การเกิดวัฒนธรรมบันเทิงแบบใหม่ แต่ก็ทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้อินกับหนังสองเรื่องนั้นรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินที่ถูกเล่าตัดสลับกับเรื่องจริงออกมาได้ชวนสับสนมากกว่า ซึ่งตัวคดีเองจริงๆ ก็ยังเอาเรื่องราวในจินตนาการของเอ็ด กีน ที่มีมากมายมาเล่ารวมไปเหมือนเรื่องจริงไปด้วย ทำให้ซีรีส์มีเนื้อหาส่วนเกินจากเรื่องจริงเกิดขึ้นมากไปจนดูยืดยาวหลายตอน แต่ว่าตัวเรื่องจริงที่เล่าโดยมีเพื่อนสาวที่พัฒนามาเป็นแฟนของเอ็ด กีน ก็ทำได้ดีมาก ซีรีส์ทำให้เห็นอีกด้านของเอ็ด กีนที่มีความรักจริงอยู่ แล้วต่างก็พัฒนาส่วนของความรักแบบโรคจิตไปด้วยกัน ซึ่งมันดูเข้าใจยาก แต่ก็เป็นส่วนที่ทำให้เอ็ด กีน ดูมีที่มาที่ไปที่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้เกิดมาเลวร้ายเป็นฆาตกรโรคจิตแต่แรก แล้วช่วงท้ายตอน 7-8 ก็พาเขากลับมาอยู่ในจุดของเรื่องจริงมากที่สุดก็คือการติดอยู่ในโรงพยาบาลบ้าที่เขาดูมีความสุขและทุกข์แบบไม่รู้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีรีส์ก็วกกลับมาในจุดที่สะท้อนปัญหาว่าฆาตกรโหดต่างเป็นที่ชื่นชอบของสังคมเองจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมฉกฉวยเอาเรื่องพวกเขามาเล่าใหม่ให้กลายเป็นสินค้าทำเงิน ที่เอ็ด กีนเองก็ไม่เคยได้รับส่วนแบ่งหรือต้องการสิ่งนี้เลยครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่ 

 

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------