รีวิว The Beast in Me (Netflix) ซีรีส์ที่สำรวจ “อสูรร้ายในใจเรา” ที่มีกันอยู่ทุกคน….
The Beast in Me
Summary
ซีรีส์สืบสวนดราม่าทริลเลอร์ที่ค่อยๆ ไต่ความกดดันแบบช้าๆ แต่ลงลึกใช้ประเด็นจิตวิทยาและแผลในใจตัวเอกเป็นแกนหลัก มากกว่าความซับซ้อนของเนื้อเรื่องที่แทบไม่แตกต่างจากแนวนี้โดยทั่วไป โดยเป็นการปะทะด้วยจิตวิทยาคับเคี่ยวกันของ แคลร์ เดนส์ และแมทธิว รีส ที่แสดงได้อย่างทรงพลัง ทำให้เรื่องเต็มไปด้วยความคลุมเครือ น่ากลัว และสะเทือนใจในแบบเรียลๆ ถึงแม้พล็อตไม่หวือหวา แต่ความนิ่งและลึกของมันกลับค่อยๆ เปิดเผย “อสูรร้ายในใจคน” ออกมาได้อย่างเฉียบคม โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของเรื่องที่แอบเซอร์ไพรส์แบบเรียบๆ แต่คาดไม่ถึง เป็นคำตอบที่ช่วยตอกย้ำประเด็นของชื่อเรื่องนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับคนชอบงานดราม่าจิตวิทยาที่เน้นพลังการแสดงเป็นหลักครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- แนวสำรวจจิตใจของมนุษย์
- การแสดงที่ทรงพลัง
- มีพากย์ไทย
Cons
- เรื่องราวไม่ซับซ้อนคาดเดาได้ง่าย
ADBRO
The Beast in Me อสูรร้ายในใจเรา ลิมิเต็ดซีรีส์ Original จาก Netflix ความยาว 6 ตอนจบ แนวดราม่าทริลเลอร์ ว่าด้วยเรื่องราวหลังความสูญเสียครั้งใหญ่ที่กัดกินหัวใจจนชีวิตไร้ความหมาย แอ๊กกี้ วิกส์ (แคลร์ เดนส์) ตัดสินใจเข้าไปพัวพันกับ ไนล์ จาร์วิส (แมทธิว รีส) ชายผู้เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมภรรยา ความหมกมุ่นค่อยๆ กัดกิน และอันตรายก็เริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ
รีวิว The Beast in Me – อสูรร้ายในใจเรา (ไม่สปอยล์)
นี่คือซีรีส์ดราม่าทริลเลอร์ที่ไม่เน้นความซับซ้อนของพล็อต แต่เลือกมุ่งสำรวจจิตใจตัวละครตามชื่อเรื่อง “อสูรร้ายในใจเรา” ซึ่งเป็นชื่อหนังสือที่นางเอกกำลังเขียนจากการสัมภาษณ์ไนล์ จาร์วิส เพื่อนบ้านนักธุรกิจที่ร่ำรวย แต่ถูกมองว่าเป็นฆาตกรเพราะภรรยาหายตัวไปอย่างลึกลับ แม้กฎหมายจะไม่สามารถเอาผิดเขาได้จากการไม่พบศพ แต่สังคมส่วนใหญ่เชื่อว่าเขาคือคนลงมือ และมองเขาด้วยสายตาตราหน้า นั่นทำให้หนังสือเล่มนี้เหมือนจะเป็นการขุดค้นหาความจริงแบบงานเชิงสืบสวนเพื่อตีแผ่ความจริงออกมา ซึ่งดูเป็นพล็อตที่แข็งแรง แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่สุดของเรื่อง
หัวใจหลักที่ซีรีส์ต้องการเล่า คือปัญหาสภาพจิตใจของแอ๊กกี้ ผู้สูญเสียลูกชายจากอุบัติเหตุที่เธอเชื่อว่าเป็นเพราะคนขับเมาแล้วไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ทันที จนคดีถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด ความไม่ยุติธรรมนี้ฝังแน่นในใจเธอมานานถึง 4 ปี ทำให้ชีวิตจากนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ต้องกลายเป็นคนที่ถึงทางตัน จนเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นหายตัวไปหลังเธอเล่าเรื่องนี้ให้ไนล์ฟัง เธอก็เริ่มเชื่อว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเขาและคดีภรรยาที่หายไป จึงขอเขามาเขียนหนังสือเพื่อค้นหาความจริง
แต่สิ่งที่เรื่องเล่าจริงๆ กลับเป็นการสำรวจจิตใจของแอ๊กกี้เอง และตั้งคำถามกับผู้ชมว่า “อสูรร้ายที่แท้จริง” คือใครกันแน่
คือไนล์? ชายที่สังคมเชื่อว่าเป็นฆาตกร
หรือแอ๊กกี้? ที่พยายามโยนความผิด ความแค้น และความเจ็บปวดให้คนอื่นเพราะไม่อยากยอมรับความจริงบางอย่าง
หรือว่าไนล์เองก็ซ่อนความดำมืดไว้ภายใต้ใบหน้าคนรวยใจดี?
ซีรีส์เล่าในลักษณะคลุมเครือตลอดเรื่อง แม้จะมีการเฉลยความจริงบางส่วนกลางเรื่อง แต่ประเด็นอสูรร้ายในใจคนก็ยังคงถูกขยายและไต่ระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนถึงคำตอบสุดท้ายที่ไม่ใช่การหักมุมหวือหวา แต่เป็นความจริงแบบเรียลๆ ที่กระแทกใจ และสอดคล้องกับชื่อเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะไม่ใช่ซีรีส์ที่เต็มไปด้วยจังหวะเร้าใจ แต่มันเฉียบคมมากในด้านจิตวิทยาและการตีแผ่มนุษย์ด้านมืด

จุดเด่นของเรื่องจริงๆ ก็คือการแสดงของสองตัวเอกที่คับเคี่ยวหวาดเสียวกันตลอดเรื่อง แคลร์ เดนส์รับบทเป็น แอ๊กกี้ วิกส์นักเขียนที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียลูกชายและบาดแผลทางจิตใจ เธอสามารถแสดงอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ทั้งความเศร้า ความกลัว ความสงสัย และความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเธอมาในโทนที่กดดันและเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทำให้ผู้ชมเข้าถึงความเจ็บปวดและความสับสนของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง และยังสามารถให้ความรู้สึกที่น่าเชื่อถือทั้งในฉากเผชิญหน้าที่ดราม่าและฉากที่ต้องใช้จิตวิทยาเข้มข้น
ในขณะที่ แมทธิว รีส รับบท ไนล์ จาร์วิส เพื่อนบ้านและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นตัวละครลึกลับและมีเสน่ห์ แต่ก็เต็มไปด้วยเงื่อนงำและความน่าสงสัย เขาแสดงความแตกต่างระหว่างความใจดีและความลึกลับในตัวละครได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะในฉากที่ต้องสื่ออารมณ์แบบสองหน้า ทำให้ผู้ชมไม่แน่ใจว่าสามารถไว้วางใจเขาหรือไม่ การแสดงของเขาทำให้ตัวละครมีมิติ มีความซับซ้อนและน่าติดตาม
ทั้งคู่มีเคมีที่ดีต่อกันในซีรีส์นี้ ซึ่งช่วยเสริมความตึงเครียดและการเดินเรื่องให้สมบูรณ์แบบ การแสดงแบบ “เล่นเกมแมวไล่หนู” ระหว่างสองตัวละครนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้ซีรีส์ดูแล้วระทึกเข้มข้นหวาดเสียวจากการแสดงของทั้งคู่ตรงๆ และเพิ่มความลึกของเรื่องราวให้น่าติดตามมาก
สรุป
ซีรีส์สืบสวนดราม่าทริลเลอร์ที่ค่อยๆ ไต่ความกดดันแบบช้าๆ แต่ลงลึกใช้ประเด็นจิตวิทยาและแผลในใจตัวเอกเป็นแกนหลัก มากกว่าความซับซ้อนของเนื้อเรื่องที่แทบไม่แตกต่างจากแนวนี้โดยทั่วไป โดยเป็นการปะทะด้วยจิตวิทยาคับเคี่ยวกันของ แคลร์ เดนส์ และแมทธิว รีส ที่แสดงได้อย่างทรงพลัง ทำให้เรื่องเต็มไปด้วยความคลุมเครือ น่ากลัว และสะเทือนใจในแบบเรียลๆ ถึงแม้พล็อตไม่หวือหวา แต่ความนิ่งและลึกของมันกลับค่อยๆ เปิดเผย “อสูรร้ายในใจคน” ออกมาได้อย่างเฉียบคม โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของเรื่องที่แอบเซอร์ไพรส์แบบเรียบๆ แต่คาดไม่ถึง เป็นคำตอบที่ช่วยตอกย้ำประเด็นของชื่อเรื่องนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับคนชอบงานดราม่าจิตวิทยาที่เน้นพลังการแสดงเป็นหลักครับ