รีวิว The Pickup (Netflix) ตลกคู่หูจำเจ แต่ฉากแอ็กชั่นยาวนานพอคุ้มค่าอยู่

The Pickup ภาพยนตร์ Amazon Prime Video แนวแอ็กชั่นคอมเมดี้ เรื่องราวของ 2 พนักงานขับรถหุ้มเกราะกับภารกิจขนเงินสดธรรมดาที่ถูกไล่ล่าโดยอาชญากรสาวตัวฉกาจ และกลายมาเป็นภารกิจโจรกรรมที่ซับซ้อน

รีวิว The Pickup 

หนังที่ได้ เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์รับบทเป็น Russell คนขับรถขนเงิน ผู้ที่บนเส้นทางจะต้องร่วมมือกับ Travis (พีท เดวิดสัน) เจ้าหน้าที่มือใหม่ หนังวางตัวเป็นแนวตลกคอมเมดี้ชัดเจนตั้งแต่แรกด้วยเรื่องฮาๆ ในธนาคารที่ Travis เข้าใจผิดเล่นใหญ่กับสาวที่เขาเข้าใจผิดว่าเป็นโจรปล้นธนาคาร ก่อนจะมาเป็นคนขับรถให้ Russell เจ้าหน้าที่อาวุโสมือฉกาจที่ต้องมารับมือกับเจ้าหนุ่มช่างพูดที่บ้าๆ เพี้ยนๆ ฝันอยากเป็นตำรวจ แต่มีสกิลดีแค่ขับรถเก่ง ก่อนมาเจอกับ Zoe (เคเค พาเมอร์) ผู้หญิงที่วางแผนปล้นรถขนเงินที่พวกเขาขนอยู่ ซึ่งหนังวางเรื่องราวให้ซับซ้อนหักมุมกับแนวรักตลกไปพร้อมกัน เมื่อเธอคือผู้หญิงที่เขาไปเดทด้วยล่าสุดแล้วก็โดนมอมเหล้าจนพูดหมดเปลือกถึงเส้นทางการขนเงินครั้งนี้ ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องตลก เมื่อเขาต้องปกปิดเรื่องนี้สุดชีวิตเพราะถ้าความแตกเมื่อไหร่เขาคือหนอนบ่อนไส้ให้กับโจรสาวดีๆ นี่เอง ในขณะที่ Russell ก็ต้องพยายามกลับไปให้ทันวันครบรอบ 25 ปีแต่งงานเพื่อมอบแหวนให้ภรรยาให้ได้ ซึ่งหนังก็ถือว่าทำได้ตลกอยู่กับมุกตัวละครที่มีนิสัยแตกต่างเบอะบะกับมืออาชีพต้องมาร่วมมือกัน เกลียดขี้หน้ากันแล้วก็ค่อยๆ ละลายพฤติกรรมกลับมายอมรับกันในภายหลัง ซึ่งมันก็เป็นสูตรหนังจำเจที่คาดเดาได้ง่ายๆ นี่แหละ 

แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้เด่นมากคือฉากแอ็กชั่นขับรถที่ตัวเรื่องวางไว้ยาวมากตั้งแต่ต้นจนจบอยู่กับภารกิจการใช้รถหุ้มเกราะคันนี้ลุยสารพัดอย่าง โดยทุกฉากที่เห็นไม่ใช่ CG แต่เป็นฉากสตันท์ขับรถจริงๆ ไลล่ากันด้วยรถหลายแบบกับผู้รายที่พยายามจะขึ้นมายึดรถให้ได้ภายในช่วงเวลาที่รถไม่มีสัญญาณ 90 นาที จนแทบจะเป็นเหมือนฟาสแอนด์ฟิวเรียสเวอร์ชั่นเบาๆ โดยมีคนขับรถที่นิสัยบ้าๆ บอๆ ทำให้ฉากขับรถสู้กับตัวร้ายมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่าหนังทำตรงนี้ได้สนุกมากในครึ่งแรก โดยเฉพาะถ้ามองเป็นหนังสตรีมมิ่งด้วยก็ลงทุนเล่นใหญ่ในงบจำกัดได้ดีเลย ก่อนที่จะหยุดพักด้วยฉากจารกรรมที่ใส่ปมดราม่าลงไปทำให้ตัวละครโจรอย่าง Zoe มีความน่าเห็นใจว่าทำไมต้องกลายมาเป็นโจร แล้วก็ไปต่อด้วยฉากซิ่งปิดท้ายที่เน้นไล่ล่ากันจริงจัง แต่ก็ไม่ได้สนุกเท่าครึ่งแรกที่ทำได้ดีกว่า 

ถึงหนังมีข้อดีที่โอเคเลยก็จริง แต่ที่จัดว่าแย่เลยก็คือบทหนังหลายๆ จุดไม่เมคเซนส์เล่นง่าย โดยเฉพาะฉากจารกรรมในคาสิโนที่ถือว่าเล่นใหญ่ แต่หนังกลับทำให้ทุกอย่างดูง่ายไปหมด โดยเฉพาะตอนจบที่หนังคลายปมความสัมพันธ์ของทุกคนแบบลวกๆ แล้วก็พยายามจบให้แฮปปี้เอนด์ดิ้งมากเกินไปกับทุกตัวละครจนดูไม่สมเหตุผลจริงๆ แต่เอาเถอะถ้ามองว่านี่มันหนังตลกก็ถือว่าพอมองข้ามไปได้อยู่ เพียงแต่ระหว่างทางที่ดูก็อุตส่าห์คิดว่าคิดว่าจะมีทางออกของเรื่องดีกว่านี้ครับ

ตัวนักแสดง เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์ เองก็แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นดาราตลก เพราะบทยัดให้เขากลายเป็นนักบู้ประจำรถสู้กับผู้ร้าย ซึ่งก็บู้จริงๆ ไม่ได้จะตลกอะไรมากเลย ซึ่งบทตลกก็มาให้ พีท เดวิดสัน เล่นแทน ซึ่งก็ดูเหมาะดีเพราะหน้าท่าทางพี่แกก็กวนๆ บ๊องๆ เข้ากันได้กับบทดีอยู่ ส่วน เคเค พาเมอร์ ก็ต้องเล่นใหญ่เป็นโจรสาวที่มีปมดราม่าชีวิตรันทดขับเคลื่อนให้มาเป็นโจร แต่ก็ดันมาผิดแผนเจอกับเจ้าหนุ่มพนักงานบ๊องๆ ที่เธอหลอกใช้ ซึ่งปัญหาของเรื่องนี้คือทั้ง 3 คน ไม่มีเคมีระหว่างนักแสดงด้วยกันเลย ทำให้ฉากดราม่าของเรื่องดูงั้นๆ แบบขอไปทีครับ

สรุป

หนังตลกที่มีฉากแอ็กชั่นขับรถไล่ล่าระหว่างรถหุ้มเกราะขนเงินกับผู้ร้ายที่มาปล้นยาวนานมากแทบจะทั้งเรื่อง แล้วก็ทำส่วนนี้ได้ดีในระดับหนังสตรีมมิ่งที่ดูแล้วคุ้มอยู่ เพราะแทบทุกฉากที่เห็นใช้แนวสตันท์ของจริง เหมือนฟาสแอนด์ฟิวเรียสเวอร์ชั่นติดตลกเบาๆ แต่การได้ เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์ มาเล่นแต่หนังกลับไม่ได้ใช้เขาเล่นในบทตลกที่ดีเลย โดยโยนให้คู่หูหนุ่มบ๊องรับไปแทน เป็นตลกแนวคู่นิสัยแตกต่างที่ดูแล้วจำเจแค่พอขำได้ มีใส่เรื่องรักระหว่างโจรกับตัวเอกมาแซมนิดหน่อยให้ดูมีดราม่าประกอบปมตัวละครที่ดูยัดเยียดสุดๆ แต่เคมีระหว่างตัวละครมันไม่ได้ แล้วก็มีฉากที่ไม่เมคเซนส์เต็มไปหมดโดยเฉพาะฉากจารกรรมที่เล่นใหญ่เอาง่ายไปหน่อยกับฉากจบโลกสวยให้กับทุกตัวละครจนเกินไป แต่ถ้าไม่คิดมากมองว่าเป็นหนังตลกก็มองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้ครับ

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่