รีวิว Death by Lightning (Netflix) ประธานาธิบดี 4 เดือนที่ต่อสู้แก้การโกงกิน 50 ปี!

Death by Lightning ฟ้าผ่าชี้ชะตาเมือง ลิมิเต็ดซีรีส์ original Netflix 4 ตอนจบ แนวดราม่าประวัติศาสตร์ เรื่องราวของประธานาธิบดีเจมส์ การ์ฟิลด์ ผู้ถูกลอบสังหารโดยชาลส์ กีโต ซึ่งมีอาการหลอนเชื่อว่าตัวเองคือผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้เขาชะเลือกตั้ง

รีวิว Death by Lightning

ซีรีส์ประวัติศาสตร์เรื่องนี้ไม่ได้ถูกเล่าในแนวสารคดี แต่เลือกเล่าในแนวหนังดราม่าที่มีความบันเทิงจากชีวิตประธานาธิบดีคนสำคัญของอเมริกาที่มีส่วนสำคัญในการเริ่มตัดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของประธานาธิบดีในสมัยนั้นที่สามารถแต่งตั้งใครก็ได้กว่า 1,000 ตำแหน่งเพียงคนเดียวมา 50 ปี ทำให้รัฐบาลอเมริกาเกิดปัญหาการเล่นพวกพ้องเอาคนเก่าออกคนใหม่เข้ามาตลอด (ก็เหมือนที่รัฐบาลไทยเป็นอยู่ทุกวันนี้) โดยการ์ฟิลด์ต้องต่อสู้กับคองคลิน สว.ที่กุมอำนาจการหาเงินเข้ารัฐบาลจากด่านศุลกากรที่เป็นรายได้ 2 ใน 3 ของรัฐบาล โดยมี เชสเตอร์ เอ. อาเทอร์ รองประธานาธิบดีที่เป็นลูกน้องของคองคลินอีก นั่นทำให้การเมืองในรัฐบาลนี้วุ่นวายตั้งแต่แรกเข้ามาด้วยการสู้รบกันเองภายในพรรครีพับลีกันที่ต้องห้ำหั่นกันด้วยคะแนนเสียงที่มีอยู่ของแต่ละคนและการเล่นนอกระบบข่มขู่คนของประธานาธิบดีที่วางไว้  ซึ่งซีรีส์ทำส่วนนี้ได้ค่อนข้างดีดูทำให้เห็นเกมการเมืองชิงอำนาจในยุคเก่ากับเรื่องราวการผลักดันแก้ปัญหาของประธานาธิบดีที่แสนยากลำบากและก็ทำไม่สำเร็จเพราะโดนลอบยิงเสียชีวิตไปก่อน โดยมีเรื่องราวดราม่าที่เขาพยายามซื้อใจรองประธานาธิบดีที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเพียงเพราะเชื่อว่าลึกๆ แล้วเขายังเป็นคนดีจากผลงานในอดีต แต่ต้องมาตกอยู่ในระบบอุปถัมภ์ทางการเมืองของคองคลิน สว.ตัวร้ายของเรื่อง แต่การลอบสังหารนั้นก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้ในที่สุด 

ซีรีส์ยังเล่าเรื่องราวชีวิตติดดินบ้านๆ ของการ์ฟิลด์ที่เป็นอดีตทหารฮีโร่ แต่ทำตัวเป็นเพียงคนธรรมดา และเพียงแค่การปราศรัยที่ทำให้คนในพรรคประทับใจเขาเลยได้เข้ามาทำหน้าที่นี้ ซึ่งตัวการ์ฟิลเองก็อาศัยความจริงใจในการต่อสู้ผลักดันเรื่องเสรีภาพกับสิทธิต่างๆ ให้คนผิวดำเป็นหลัก โดยมีนโยบายหาเสียงแบบนั่งอยู่ที่บ้านให้คนมาพบพูดคุยกันที่ชานเรือนกลายเป็นเทคนิคการหาเสียงที่ประทับใจผู้คนที่ต่อคิวมาพูดคุยกับเขามาก ซึ่งนี่ก็พราะแค่เขาไม่อยากจากภรรยาไปหาเสียงนอกรัฐเท่านั้นเอง

ซีรีส์ทำได้ดีในส่วนชีวิตของการ์ฟิลด์ แต่ว่าในส่วนของคนบ้า ชาลส์ กีโต เรื่องราวของเขาถูกเล่าแทรกปะปนมาตลอดเรื่องอย่างน่ารำคาญสุดๆ อาจจะเพราะเรื่องจริงเขาก็เป็นแค่คนที่หลงอยู่ในโลกของตัวเองว่าเป็นคนที่ช่วยทำให้การ์ฟิลด์ได้เป็นประธานาธิบดี จนทำให้เขารู้สึกอยากได้ตำแหน่งกงศุลฝรั่งเศส ถึงขนาดอ้างว่าตัวเองชื่อฝรั่งเศสตั้งแต่แรกพบ โดยเขาพยายามทุกทางเข้าหาคนในรัฐบาลนี้ให้ได้ ซึ่งเรื่องราวของเขาก็แทบไม่มีน้ำหนักสำคัญอะไร ทุกฉากของเขาก็คือการแสดงอาการหลอนไปเองแต่งเรื่องหลอกคนอื่นว่ารู้จักคนสำคัญในรัฐบาลไปหมด แม้แต่การตัดสินใจยิงประธานาธิบดีก็เชื่อว่าเพื่อประเทศชาติ ซึ่งซีรีส์ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรมากกว่าคนบ้าการเมืองจนถึงขั้นหลอนแค่นั้น

ซีรีส์ยังเก็บรายละเอียดช่วง 2 เดือนสุดท้ายของการ์ฟิลด์ที่ถูกยิงแล้วแต่ไม่ตายในทันที ในยุคร้อยกว่าปีก่อนนั้นการแพทย์ยังไม่ทันสมัย อเมริกาก็ยังไม่ได้รู้จักการติดเชื้อ ทำให้หมอใช้วิธีผ่าสดๆ เพื่อหากระสุนแต่ก็ไม่เจอ ซึ่งนั่นคือเหตุที่ทำให้การ์ฟิลด์ตายมากกว่ากระสุนเม็ดเล็กๆ ที่ฝังในแต่ไม่โดนอวัยวะภายใน ซึ่งซีรีส์เก็บรายละเอียดเรื่องการรักษาที่ผิดพลาดนี้ได้อย่างละเอียดให้เห็นบทเรียนว่าจริงๆ แล้วนี่คือคนที่ฆ่าประธานาธิบดีตัวจริง แถมเป็นหมอมือหนึ่งที่ถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่นี้เองแท้ๆ

สรุป

ซีรีส์ประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีคนที่ 20 ของอเมริกา เจมส์ การ์ฟิลด์ ที่ถูกลอบสังหารในระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือนของการทำงานที่สั้นมาก แต่เป็นคนที่เริ่มนโยบายทำให้อเมริกาหลุดจากปัญหาประธานาธิบดีแต่งตั้งโกงกินกันเองมาตลอด 50 ปี โดยมีเรื่องราวการต่อสู้กันเองภายในพรรครีพับลีกันที่ทำออกมาได้สนุกมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากว่าเขาต้องฝ่าฟันอะไรกับเรื่องนี้ โดยมีวิถีชีวิตประธานาธิบดีที่ติดดินสุดๆ กับประชาชน

ส่วนเรื่องราวชีวิตของมือสังหารที่หลงไหลการเมืองจนเพี้ยนแทรกเข้าในเรื่องเป็นระยะๆ แต่ในส่วนนี้ดูแล้วน่ารำคาญสุดๆ เพราะนี่ไม่ใช่การเจาะชีวิตมือสังหาร เป็นแค่การดูเขาพยายามหาทางเข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาลแบบหาเรื่องทักเขาไปทั่วเหมือนตัวละครเกรียนการเมืองที่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปเลย 

ซีรีส์อาจจะดูเฉพาะทางและไกลตัวคนไทยมกาไปหน่อย แต่ก็ยังเหมาะสำหรับคนที่สนใจปมปัญหาทุจริตการเมืองที่จริงๆ แล้วมันก็เหมือนกันทั้งโลกและต้องแก้ที่ระบบ แต่มันก็แก้ได้ยากมากๆ แม้จะเป็นคนดีมีอำนาจมากแค่ไหน แต่เมื่อมาอยู่ในวงจรการเมืองที่เต็มไปด้วยพวกพ้องต่างตอบแทนกับการแบ่งสรรอำนาจในระบอบประชาธิปไตย สุดท้ายก็ยังต้องยอมให้พวกสีเทาๆ มีอำนาจอยู่ในรัฐบาลได้อยู่ดีครับ 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่