รีวิว A Deadly American Marriage (Netflix) สารคดีที่เรื่องราวซับซ้อนมาก แต่ก็ไม่ได้ให้คำตอบตามที่หวังไว้เลย
A Deadly American Marriage
Summary
เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องได้ดีชวนติดตาม ด้วยการนำเสนอเหตุการณ์จริงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งในระดับครอบครัวและระบบยุติธรรมสองประเทศอเมริกากับไอแลนด์ที่แตกต่างกัน ที่พาให้คดีนี้กลายเป็นปัญหาระหว่างสองประเทศนี้มา 8 ปี จุดแข็งอยู่ที่การเล่าเรื่องที่มีหลายมิติซับซ้อนและการตั้งคำถามกับความจริงในคดีอาชญากรรมที่ถูกตัดสินไปแล้ว เป็นเหมือนการแก้ต่างสร้างภาพใหม่ให้ แต่สุดท้ายสารคดีก็ไม่ได้ให้คำตอบชัดเจน ถ้าคิดว่าต้องการดูเฉลยปริศนาคดีฆาตกรรมนี่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- สารคดีจากคดีดังที่เป็นปัญหาระหว่างประเทศอเมริกากับไอซ์แลนด์
- เรื่องราวซับซ้อนมาก
- มีพากย์ไทย
Cons
- ไม่ได้มีคำตอบให้ผู้ชม
- มีการใช้คลิปคำให้การเด็กที่ดูสุ่มเสี่ยงทางจริยธรรม
ADBRO
รีวิว A Deadly American Marriage ชีวิตคู่ถึงฆาต สารคดีอังกฤษแนว true crime บน Netflix ที่ถ่ายทอดคดีฆาตกรรมอันโด่งดังของ Jason Corbett ชาวไอริชที่ถูกภรรยาใหม่ Molly Martens และพ่อของเธอ Tom Martens สังหารอย่างโหดเหี้ยมที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา
รีวิว A Deadly American Marriage
สารคดีเริ่มต้นด้วยการพาผู้ชมไปรู้จักกับชีวิตของ Jason Corbett ในไอร์แลนด์ หลังจากสูญเสียภรรยาคนแรกจากอาการหอบหืด เขาต้องเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง จนได้พบกับ Molly Martens ซึ่งมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ก่อนทั้งคู่จะย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แต่งงานกันที่อเมริกา
เหตุการณ์หลักเกิดขึ้นในคืนหนึ่งปี 2015 เมื่อ Jason ถูก Molly และ Tom Martens ทำร้ายจนเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง โดยทั้งสองคู่อ้างว่าเป็นการป้องกันตัว เพราะ Jason กำลังทำร้าย Molly
สารคดีนำเสนอทั้งมุมมองของฝ่ายครอบครัว Jason และฝ่าย Martens ผ่านการสัมภาษณ์, ภาพจากที่เกิดเหตุ, บันทึกเสียง, และคำให้การในศาล โดย Tom Martens ก็เป็นอดีต FBI ที่มีความเชี่ยวชาญผ่านการฝึกฝนมาก่อน ทำให้เรื่องราวช่วงครึ่งแรกเหมือนว่าพ่อลูกคู่นี้กำลังวางแผนปกปิดร่องรอยฆาตกรรมโดยอ้างว่าป้องกัน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยความจริงอีกด้านตอนกลางเรื่อง สารคดีเลือกที่จะนำเสนอคำให้การของ Molly และ Tom ตัดกับครึ่งแรก ด้วยการบอกเล่าในจุดที่แตกต่างที่ใช้สู้คดีในศาล ซึ่งสร้างความรู้สึกเหมือนดูซีรีส์แนวสืบสวนมากกว่าสารคดีศาลปกติ โดยเน้นสร้างอารมณ์และความตื่นเต้นผ่านการใช้ภาพและเสียงที่กระตุ้นความรู้สึกคนดูมากกว่าสารคดีปกติ
จุดเด่นคือการเล่าเรื่องสองวัฒนธรรม สารคดีเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่านิยมครอบครัวและระบบยุติธรรมของไอร์แลนด์กับอเมริกาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ชมเข้าใจแรงกดดันและความคาดหวังที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่ายที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
สารคดีมีการการนำเสนอเชิงจิตวิทยา โดยมีการสัมภาษณ์นักจิตวิทยาเด็กเกี่ยวกับผลกระทบต่อ Jack และ Sarah ลูกของ Jason ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องการที่มีผู้ใหญ่เป็น “โค้ช” ชี้นำคำให้การของเด็ก อีกทั้งยังการนำภาพและเสียงของเด็กตอนให้การกับตำรวจมาใช้ รวมถึงการให้พื้นที่กับฝ่ายผู้ต้องหาเต็มที่ จนดูเหมือนเปิดโอกาสให้พวกเขาแก้ต่างหรือสร้างภาพลักษณ์ใหม่หลังจากรับโทษไปแล้ว
แต่สารคดีนี้ก็ไม่ได้ให้คำตอบในข้อเท็จจริงเลย ก็คงเพราะเรื่องนี้ลุกลามเป็นประเด็นใหญ่ระหว่างสองชาติในช่วง 8 ปี ด้วยเรื่องราวข้อเท็จจริงที่ซับซ้อนมาก แม้อีกฝ่ายจะติดคุกและออกมาแล้ว สารคดีก็ยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่าความจริงคืออะไร แต่เลือกนำเสนอข้อมูลที่ขัดแย้งกันไปมา ทำให้ผู้ชมต้องตัดสินใจเอง ซึ่งก็น่าผิดหวังนิดๆ จากที่ก่อนดูครับ
สรุปโดยรวม A Deadly American Marriage เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องได้ดีชวนติดตาม ด้วยการนำเสนอเหตุการณ์จริงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งในระดับครอบครัวและระบบยุติธรรมสองประเทศอเมริกากับไอแลนด์ที่แตกต่างกัน ที่พาให้คดีนี้กลายเป็นปัญหาระหว่างสองประเทศนี้มา 8 ปี จุดแข็งอยู่ที่การเล่าเรื่องที่มีหลายมิติซับซ้อนและการตั้งคำถามกับความจริงในคดีอาชญากรรมที่ถูกตัดสินไปแล้ว เป็นเหมือนการแก้ต่างสร้างภาพใหม่ให้ แต่สุดท้ายสารคดีก็ไม่ได้ให้คำตอบชัดเจน ถ้าคิดว่าต้องการดูเฉลยปริศนาคดีฆาตกรรมนี่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ