รีวิว Boots (Netflix) ซีรีส์เกย์ในค่ายทหารที่ฉีกแนวแปลกใหม่ เต็มไปด้วยมิตรภาพและความอบอุ่น

Boots
Summary
ซีรีส์เกย์ที่ฉีกแนวเล่าเรื่องได้แปลกใหม่ โดยอิงจากเรื่องจริงของทหารเกย์ในยุค 90 ที่มีตัวตนจริง และยุคนั้นการเป็นเกย์ก็มีความผิดทางกฏหมาย เรื่องเล่าออกมาเป็นแนววัยรุ่นเกย์ในค่ายทหารที่ฝ่าฟันเอาตัวเองให้รอดภายใต้ครูฝึกที่มองเขาออกเพราะเป็นเกย์เหมือนกัน ที่พยายามให้บททดสอบอันโหดร้ายให้เขาผ่านมันให้ได้ ซึ่งเรื่องไม่ได้เน้นแนวเกย์อย่างว่าเลย แต่เน้นเล่าเรื่องปัญหาการปกปิดตัวเองทั้งวัยรุ่นและครูฝึก ที่ต่างก็มีปัญหาของตัวเองที่ต้องแก้ไปพร้อมกับการฝึกให้สำเร็จ ซึ่งซีรีส์ก็ทำบทสรุปเรื่องราวของเกย์ทั้งคู่ออกมาได้อบอุ่นไม่ดาร์ค โดยที่ยังคงเล่าเรื่องการฝึกในค่ายทหารได้ค่อนข้างสมจริงร่วมกับตัวละครอื่นๆ ในหน่วยที่ต่างมีปัญหาของตัวเอง ทำให้เรื่องออกมาดูเป็นซีรีส์วัยรุ่นที่เต็มไปด้วยมิตรภาพในค่ายทหาร มีความกลมกล่อมไม่ดูเป็นซีรีส์เกย์ที่มักวนเวียนอยู่กับปัญหาชีวิตแบบเดิมๆ และเรื่องก็จบสมบูรณ์ได้ในซีซั่นเลย แม้จะมีทิ้งท้ายไว้เผื่อทำต่ออยู่นิดหน่อยก็ตามครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- แนววัยรุ่ยเกย์ในค่ายทหารยุค 90
- ตลกร้ายแบบอบอุ่นด้วยมิตรภาพแนว Coming of age
- ทีมนักแสดงเล่นได้ดีสมบทบาท
- มีพากย์ไทย
Cons
- บทแม่ดี แต่ออกมาน้อยมาก
- เล่าเรื่องหลายตัวละครทำให้บทไม่ลงลึกมาก
ADBRO
Boots หลักสูตรชีวิตนาวิกน้องใหม่ ซีรีส์ Original Netflix 8 ตอนจบ แนวดราม่าคอมเมดี้ ติดตามชีวิตของ คาเมรอน โคป เด็กหนุ่มอายุ 18 ปีที่เก็บซ่อนความเป็นเกย์ไว้ และไร้ทิศทางในชีวิต และเพื่อนสนิทของเขา เรย์ แมคแอฟฟีย์ ลูกชายของทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนาม ทั้งสองได้เข้าร่วมฝึกเป็นนาวิกโยธิน ในช่วง ทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่การเป็นเกย์ในกองทัพยังถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
รีวิวซีรีส์ Boots
ซีรีส์เกย์ที่เล่าเรื่องอิงจากประสบการณ์เรื่องจริงของวัยรุ่นเกย์ที่ถูกข่มเหงมาตลอดชีวิต เขาตัดสินใจเข้าร่วมหน่วยนาวิกโยธินช่วงยุค 90 เมื่อการรักร่วมเพศยังผิดกฎหมายในกองทัพ เพราะเพื่อนสนิทที่มีพ่อเป็นทหารผ่านศึกชักชวนเพื่อให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งที่นั่นทำให้เขาได้พบบททดสอบทหารที่โหดร้าย โดยมีครูฝึกที่มองออกว่าเขาเป็นเกย์และพยายามกดดันให้เขาออกไป แต่ไม่ใช่เขาเพียงคนเดียวที่มีปัญหา ทุกคนต่างมีบททดสอบส่วนตัวที่ยากจะผ่านได้เช่นกัน
แนวเกย์เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ดราม่าวัยรุ่นทหารผสมฉากตลกร้ายเกย์นิดๆ ไม่มากเหมือนแนวเกย์อื่นๆ ในเรื่องนี้ไม่มีฉากอย่างว่า แต่มีการโชว์เนื้อหนังมังสาหนุ่มๆ ทหารอยู่บ้าง ซึ่งพอซีรีส์ไม่ได้เน้นเรื่องอย่างว่าโดยตรง แต่ไปเน้นที่การแอบซ่อนความเป็นเกย์โดยที่ครูฝึกก็รู้ โดยที่ตัวครูฝึกเองก็อยู่ในสภาพเดียวกันมาก่อน ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวการเล่าเรื่องปลดปล่อยความรู้สึกของเกย์ที่แอบซ่อนในกลุ่มทหารได้แปลกใหม่น่าสนใจ และเขาก็เล่นเป็น 2 บทบาทพูดคุยกับตัวเอกงในร่างเกย์อยู่ตลอด ออกแนววัยรุ่นทำให้เห็นตัวตนที่แตกต่างถกเถียงกันเพื่อตัดสินใจในเหตุการณ์ที่กำลังเจอ เป็นแนวดราม่าค้นหาตัวตนแบบ Coming of age ผ่านบรรยากาศค่ายฝึกอันโหดร้ายจริงจัง ซึ่งสุดท้ายการได้เป็นนาวิกนั้นคือเส้นทางที่ผิดพลาดหรือไม่ ซีรีส์ให้คำตอบในแง่มุมของทหารออกมาได้ดี รวมถึงใส่ปัญหาของทหารเกย์แอบรักกันในยุคนั้นผ่านตัวครูฝึกที่ปกปิดเรื่องนี้มายาวนานจนกลายเป็นบาดแผลในใจที่ทำร้ายเขาอยู่ทุกวัน ซึ่งกลายเป็นภาพสะท้อนที่ คาเมรอน โคป ที่กำลังจะเลือกเป็นนาวิกโยธินจะต้องเจอในอนาคต ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องปัญหานี้อย่างจริงจัง และจบมันลงได้ค่อนข้างลงตัวในแบบที่ไม่เหมือนแนวเกย์เรื่องอื่นๆ มีความอบอุ่นเป็นมิตรกว่าการจบแบบดาร์คๆ ที่แนวเกย์ปกติชอบทำออกมา
ซีรีส์ก็ไม่ได้เล่าแค่เรื่องเกย์ แต่เล่าเรื่องทหารทั้งหน่วยไปด้วย มีตัวละครสำคัญมากมายในเรื่อง อย่าง เรย์ แมคแอฟฟีย์ ลูกชายของทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนาม ที่ถูกพ่อฝึกมาตั้งแต่เด็กให้เป็นทหารเปอร์เฟ็กต์ แต่เขาเป็นลูกครึ่งจีนอเมริกันก็ทำให้กลายเป็นโดนบูลลี่อยู่ตลอด และความที่พอฝึกมาตั้งแต่เด็กทำให้เขารับความล้มเหลวไม่ได้ กลายเป็นว่าเขาต้องถูกโคปเพื่อนเกย์ช่วยเหลือนั่นทำให้ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้ ซึ่งซีรีส์ก็พาให้เขาก้าวข้ามผ่านปัญหาต่างๆ นี้ในแบบ Coming of age เหมือนกัน โดยมีตัวละครอื่นที่ร่วมมีบทบาทสีสันมากมายหลายคน และต่างก็พบกับบททดสอบที่หนักหน่วงทั้งในค่ายและชีวิตส่วนตัว ซึ่งในเรื่องมีฉากสะเทือนใจที่น่าจะมาจากเรื่องจริงของทหารต้องพลัดพรากจากแฟนสาวและทำให้เขาต้องตัดสินใจจบชีวิตลงในค่ายแห่งนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีบทแม่ของตัวเอก บาบาร่า โคป (เล่นโดย Vera Farmiga นางเอกจาก The Conjuring) แม่ที่มีนิสัยโกหกเอาตัวรอดมาทั้งชีวิต แต่ก็รักโคปในแบบที่ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆ จนทำให้โคปเองรู้สึกผิดหวังกับแม่คนนี้มาทั้งชีวิต และก็ทำให้เขาตัดสินใจมาเป็นนาวิกเพราะเหตุนี้ด้วย ซึ่งแม้บทของเธอจะไม่มาก แต่ก็สร้างสีสันตลกร้ายนิดๆ ให้เรื่องราวช่วงหนึ่งดีเมื่อเธอพยายามขายเครื่องสำอางค์ที่ทำอยู่ให้กับกลุ่มแม่นาวิก โดยที่หลอกพวกเธอว่าลูกชายตายในสงคราม
สรุป
ซีรีส์เกย์ที่ฉีกแนวเล่าเรื่องได้แปลกใหม่ โดยอิงจากเรื่องจริงของทหารเกย์ในยุค 90 ที่มีตัวตนจริง และยุคนั้นการเป็นเกย์ก็มีความผิดทางกฏหมาย เรื่องเล่าออกมาเป็นแนววัยรุ่นเกย์ในค่ายทหารที่ฝ่าฟันเอาตัวเองให้รอดภายใต้ครูฝึกที่มองเขาออกเพราะเป็นเกย์เหมือนกัน ที่พยายามให้บททดสอบอันโหดร้ายให้เขาผ่านมันให้ได้ ซึ่งเรื่องไม่ได้เน้นแนวเกย์อย่างว่าเลย แต่เน้นเล่าเรื่องปัญหาการปกปิดตัวเองทั้งวัยรุ่นและครูฝึก ที่ต่างก็มีปัญหาของตัวเองที่ต้องแก้ไปพร้อมกับการฝึกให้สำเร็จ ซึ่งซีรีส์ก็ทำบทสรุปเรื่องราวของเกย์ทั้งคู่ออกมาได้อบอุ่นไม่ดาร์ค โดยที่ยังคงเล่าเรื่องการฝึกในค่ายทหารได้ค่อนข้างสมจริงร่วมกับตัวละครอื่นๆ ในหน่วยที่ต่างมีปัญหาของตัวเอง ทำให้เรื่องออกมาดูเป็นซีรีส์วัยรุ่นที่เต็มไปด้วยมิตรภาพในค่ายทหาร มีความกลมกล่อมไม่ดูเป็นซีรีส์เกย์ที่มักวนเวียนอยู่กับปัญหาชีวิตแบบเดิมๆ และเรื่องก็จบสมบูรณ์ได้ในซีซั่นเลย แม้จะมีทิ้งท้ายไว้เผื่อทำต่ออยู่นิดหน่อยก็ตามครับ