รีวิว Brick (Netflix) Cube เวอร์ชั่นโลกปัจจุบันที่ไม่ได้สยอง แต่เฉลยปริศนาได้เข้าท่าอยู่

Brick กำแพง ภาพยนตร์เยอรมัน Original Netflix แนวทริลเลอร์ มีพากย์ไทย เรื่องราวของอพาร์ตเมนต์ของคู่รักคู่หนึ่งถูกล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐลึกลับอย่างกะทันหัน พวกเขาจึงต้องร่วมมือกับเพื่อนบ้านไขปริศนานี้เพื่อหาทางออก

รีวิว Brick กำแพง (ไม่สปอยล์)

หนังเรื่องนี้เชื่อว่าคงได้ไอเดียมาไม่มากก็น้อยจาก Cube กล่องเกมมรณะ หนังแฟรนไชนส์ตำนานที่มีคนไปตื่นในห้องปริศนาที่ต้องหาทางออกให้ได้ แต่ Cube มีความเป็นแนวไซไฟซับซ้อนเต็มไปด้วยปริศนาลึกมาก จนต้องทำออกมาอีกหลายภาคเพื่อเคลียร์ปม แต่เรื่องนี้นำไอเดียนี้มาปรับให้ดูไม่ล้ำ ไม่ซับซ้อน แล้วก็เป็นยุคสมัยปัจจุบัน ทำให้มีความต่างออกไปและน่าสนใจได้เหมือนกันครับ 

หนังใช้เวลาๆ สั้นเป็นปัญหาคู่รักปูทางโรยทางมาก่อนว่าฝ่ายหญิงตั้งใจแยกทางกันกับฝ่ายชายที่มุ่งแต่งาน โดยเขามีอาชีพสร้างเกมขาย แต่พอฝ่ายหญิงตัดสินใจจะออกจากห้องที่พักในคืนนั้นกลับเจอกำแพงปริศนาที่พังออกไปไม่ได้ แล้วก็รู้ว่าห้องที่อยู่ถูกตัดขาดจากสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ยกเว้นแค่ไฟฟ้า ทำให้รู้ว่าถ้าอยู่ต่อไปตายแน่ พวกเขาจึงทุบกำแพงข้างห้องเพื่อหาทางไปต่อและก็ได้พบเพื่อนบ้านที่อยู่ในสภาพเดียวกัน จากนั้นก็กลายเป็นการหาทางไขปริศนานี้ว่าคืออะไร? โดยที่บทหนังก็ตั้งใจให้ตัวละครในเรื่องคิดเหมือนอย่างที่ผู้ชมทุกคนก็คงคิดว่า มันอาจจะเป็นแนวเกมคนรวยสร้างมาอย่าง สควิดเกม The Matrix Escape Room บลาๆ หรือไม่? แต่หนังก็ไม่ได้ใส่พวกกฏหรือสิ่งบอกเหตุเลยว่าพวกเขากำลังเจอกับอะไร นอกจากปริศนาบางอย่างเล็กๆ ที่ช่วยผลักดันทำให้เรื่องเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยซ่อนปมความเชื่อมโยงกันไว้ก่อนไปเฉลยในตอนท้าย ซึ่งก็ทำได้น่าสนใจอยู่ว่าสุดท้ายเรื่องจะประกอบปริศนาพวกนี้ทั้งหมดเข้ากันได้ยังไง จนสุดท้ายก็หาทางเฉลยปริศนาทั้งหมดได้ดี มีความแหวกแนวจากทุกเรื่องที่ผ่านมา แต่ข้อเสียเดียวคือมัน “จบแบบไม่หวือหวา” แล้วก็เล่นตามสูตรมากไปไม่มีหักมุมเลย จนเหมือนคิดแนวนี้ออกมาได้ แต่ก็ไม่กล้าท้าทายให้เรื่องไม่มีประเด็นไปต่อยอดตกผลึกถกเถียงกันหลังจากนั้น ทั้งๆ ที่มันทำได้สำเร็จไปแล้ว

หนังมีตัวละครเพื่อนบ้านที่เจอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ใส่มาให้เป็นปัญหาเล็กน้อยมากเกินไป โดยไม่ได้ทำมาในแนวเกมที่สุดท้ายผู้เล่นกดดันฆ่ากันเองเลย แม้เรื่องจะบีบให้เป็นแบบนั้นได้ง่ายๆ เพียงแต่ให้มีการซ่อนปมบางอย่างไว้แค่นั้น ซึ่งทำให้เรื่องก็ไม่ได้มีฉากระทึกขวัญอะไรเลย มีฉากสยองอยู่บางฉากจากความผิดพลาดในการแก้ปัญหามากกว่าจะเป็นปัญหาคนกดดันจนฆ่ากันเอง แต่ก็มีการใส่ตัวละครคนร้ายที่วางไว้เหมือนบอสสุดท้าย แต่ก็ใส่มาแบบไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ มีไว้เพียงแค่เป็นอุปสรรคสุดท้ายนอกจากการไขปริศนากำแพงนี้เท่านั้นครับ

สิ่งที่หนังใส่มาแล้ววางไว้ค่อนข้างผิดพลาดอักอย่างคือ เรื่องไม่ได้ใช้พวกปมดราม่าที่ตัวเอกทั้งคู่เตรียมแยกทางกันสักเท่าไหร่เลย ทั้งๆ ที่มีการให้ตัวละครเพื่อนบ้านคู่รักคนอื่นก็มีปัญหาต่างกันไป แต่หนังวางปมพวกนี้มาแค่เสริมๆ แล้วก็ไม่รู้จะหาเวลาไหนไปคลี่คลาย สุดท้ายก็เลยทิ้งไปดื้อๆ เหลือแค่การหาทางออกไปให้ได้เท่ากันก็นับว่าเป็นการคืนดีกันแล้ว ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องใส่มาเลยก็ได้เพราะหนังแนวนี้ผู้ชมก็สนใจแค่ว่าบทจะเฉลยปริศนาออกมาได้ดีแค่ไหนเท่านั้นครับ

สรุป

หนังแนวห้องปริศนาที่เหมือนเอาไอเดียจาก Cube มาสร้างเป็นเวอร์ชั่นยุคปัจจุบัน ลดความซับซ้อนของปริศนาลง ไม่ได้เน้นให้มีฉากสยอง ไม่ได้เป็นแนวตัวละครกดดันต้องฆ่ากันเอง ใส่ความระทึกขวัญกับฉากกดดันมาเบาบางมาก หนังยังละทิ้งปมดราม่าคู่รักที่วางไว้ในตอนแรกไปหมด ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญกับเรื่องแนวนี้ที่มักมีซ่อนปมกับปูมหลังตัวละครไว้ แต่ไปเน้นที่การไขปริศนาว่ากำแพงปิดตายพวกนี้คืออะไรเท่านั้น ซึ่งก็มีคำอธิบายในตอนจบที่ถือว่าแหวกแนวดีใช้ได้เลย เพียงแต่มันเป็นการจบตามสูตรมากไปจนดูชิลๆ ทั้งๆ ที่สามารถทะเยอทะยานไปได้ไกลกว่านั้นมาก ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ก็ซื้อไอเดียนี้ในฐานะหนังสตรีมมิ่งที่กล้าสร้างอะไรใหม่ๆ ก็ยังอยากให้ลองรับชมกันดูครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่