รีวิว Jingle Bell Heist โจรกรรมจิงเกิลเบล (Netflix) โรแมนติกคอมเมดี้ผสมโจรกรรมที่ผสานกันได้อย่างลงตัว
Jingle Bell Heist
Summary
หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ผสานแนวโจรกรรม+หนังคริสต์มาสเข้าไว้ด้วย กลายเป็นการยกระดับหนังสูตรสำเร็จประจำเดือนของเน็ตฟลิกซ์ให้แปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิมมาก ถึงหนังจะยังคงมีเส้นเรื่องแนวรักโรแมนติกสูตรสำเร็จอยู่ แต่ว่าระหว่างกลับใช้แนวโจรกรรมเป็นเมนหลักจริงจังในการเล่าเรื่องแผนการคิดไปทำไปและค่อยๆ เริ่มรู้สึกผูกผันกันไป โดยมีความลับของสองตัวละครค่อยๆ เผยออกมาทำให้เห็นว่าทั้งคู่จริงๆ แล้วก็เป็นคนดีที่ถูกสังคมคนรวยเอาเปรียบ ซึ่งหนังมีฉากโจรกรรมที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็มีฉากหักมุมในตอนท้าย 2 รอบที่ทำเอาแอบว้าวเล็กๆ เหมือนกัน ซึ่งอย่าลืมว่าหนังเรื่องนี้ยังคงเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่ปกติตามสูตรสำเร็จมักเล่นง่ายจบกันแบบชิลๆ แต่เรื่องนี้มีความแตกต่างออกไป ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมผู้กำกับ Michael Fimognari ที่ยังคงทำหนังรักสตรีมมิ่งได้แปลกใหม่เหมือนผลงานก่อนนี้ของเขาครับ (To All the Boys: P.S. I Still Love You กับ To All the Boys: Always and Forever หรือชื่อไทย “แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก”)
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- ผสานแนวโรแมนติกคอมเมดี้เข้ากับแนวโจรกรรมได้ลงตัว
- มีความแตกต่างไม่สูตรสำเร็จมาก
- มีพากย์ไทย
Cons
- นักแสดงตัวเอกไม่เด่นมาก
- ฉากโจรกรรมไม่ได้แปลกใหม่
ADBRO
Jingle Bell Heist โจรกรรมจิงเกิลเบล ภาพยนตร์ Original Netflix แนวโรแมนติกคอมเมดี้ผสมโจรกรรม เรื่องราวของสองโจรหนุ่มสาวที่ร่วมกันวางแผนปล้นเจ้าของห้างสรรพสินค้าในคืนคริสต์มาสอีฟ แต่กลับตกหลุมรักและค้นพบความลับที่ต่างฝ่ายต่างซ่อนไว้
รีวิว Jingle Bell Heist โจรกรรมจิงเกิลเบล (ไม่สปอยล์)
โซเฟีย (รับบทโดย โอลิเวีย โฮลท์) พนักงานห้างสรรพสินค้าที่เป็นนักล้วงกระเป๋าและ นิค (รับบทโดย คอนเนอร์ สวินเดลส์) ช่างติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ตกอับ ทั้งคู่ร่วมมือกันวางแผนปล้นห้องนิรภัยของห้างในคืนวันคริสต์มาสอีฟ และเมื่อความลับต่าง ๆ เริ่มเปิดเผยและความรู้สึกที่มีต่อกันลึกซึ้งขึ้นมาก็ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอันตราย
หนังจาก Michael Fimognari ผู้กำกับเรื่อง To All the Boys: P.S. I Still Love You กับ To All the Boys: Always and Forever หรือชื่อไทย “แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก” ซึ่งก็ถือว่าเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้วัยรุ่นที่มีความแปลกใหม่ในพล็อตเรื่องซ้ำๆ ของตลาดหนังสตรีมมิ่งที่แสนจำเจ
การกลับมาใหม่คราวนี้เขาก็นำเสนอความแปลกใหม่ในแนวเดียวกัน แต่เป็นส่วนผสมของหนังโจรกรรมกับโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งจริงๆ ผู้เขียนก็นึกไม่ออกว่าเคยมีมาก่อนหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือมันมีความสดใหม่อยู่ในตัวเองพอสมควร ตั้งแต่การออกแบบตัวละครนักล้วงกระเป๋าสาวที่ทำงานเป็นพนักงานสรรพสินค้ากับหนุ่มไอทีที่ทำระบบรักษาความปลอดภัย แล้วต้องจับมือกันปล้นสมบัติในห้องนิรภัยของเจ้าของห้าง ซึ่งหนังแนวนี้มักใช้ความบังเอิญเดินทางไปเจอกันแล้วก็ปิ๊งรักระหว่างที่ใช้ชีวิตร่วมกันสั้นๆ ก่อนตอนจบจะมีการผิดหวังจากอีกฝ่าย แล้วก็ตามมาด้วยการขอคืนดีจนสำเร็จแฮปปี้เอนดิ้งกันแบบฟินๆ กันทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้บอกเลยว่าไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จแบบนั้นนัก
หนังมีความแปลกตรงใช้วิธีการเล่าเรื่องในแนวจารกรรมเป็นหลักในการต่อยอดไปยังเรื่องราวชีวิตเบื้องหลังของทั้งคู่ จากเปิดเรื่องหนังเผยให้เห็นวิถีชีวิตแล้วทั้งคู่ก็คือโจรที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคมทำมาหากินธรรมดา ก่อนที่จะมาร่วมมือกันเพราะนิคบังเอิญไปเห็นผ่านกล้องวงจรปิดว่าโซเฟียแอบจิ๊กเงินของลูกค้านิสัยไม่ดี ก่อนที่เรื่องจะใช้ขั้นตอนการวางแผนปล้นแต่ละครั้งนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ช่วยทำให้รู้จักตัวตนกันมากขึ้น โดยมีจุดเฉลยของความลับตัวละครที่ค่อยๆ เผยออกมาทีละอย่างว่าที่เราเห็นในตอนแรกนั้นมันไม่ใช่ ทั้งคู่ต่างมีความลับที่เป็นจุดหักมุมเล็กๆ ให้พออึ้งเป็นระยะ ซึ่งนี่ก็คือการผสานหนังรอมคอมเข้ากับแนวจารกรรมที่แทบไม่มีฉากฟินโรแมนติกเลย แต่ผู้ชมก็รับรู้ได้แหละว่าทั้งคู่ค่อยๆ มีใจกันให้กันเมื่อตัวตนจริงที่ซ่อนอยู่หลังชีวิตโจรค่อยๆ เผยออกมา แล้วก็ไม่ได้เป็นแนวสูตรสำเร็จแบบตลาดๆ แต่หนังยังเน้นย้ำการเล่าเรื่องราวฉากจารกรรมอย่างมั่นคงไปตลอดแทบไม่มีเขวเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งนี่เป็นข้อดีจริงๆ ของเรื่องนี้ แล้วก็ทำตอนจบออกมาได้หักมุมเป็นไคลแม็ก 2 ครั้ง แม้มันจะไม่ถึงกับว้าวอเมซิ่งมาก เป็นบทง่ายๆ ในการหักมุมที่ผู้ชมก็พอเดาได้ แต่อย่าลืมว่านี่จริงๆ มันคือหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอที่จะชื่ชมว่าหนังมีไอเดียที่แตกต่างจากตลาดสตรีมมิ่งในทุกวันนี้ได้มากพอแล้วจริงๆ โดยเฉพาะถ้านับว่านี่เป็นหนังเทศกาลคริสต์มาสอีฟประจำเดือนของเน็ตฟลิกซ์ด้วยก็ยิ่งทำให้นี่เป็นการรวมองค์ประกอบที่ผสมกันออกมาได้ดีจนต้องชื่นชมจริงๆ
แต่สิ่งที่หนังอาจจะดูอ่อนไปหน่อยก็คือตัวนักแสดงไม่ได้มีชื่อเสียงมาก อาจจะเพราะนี่เป็นหนังอังกฤษด้วย นักแสดงที่เล่นก็อยู่ในเกรดรอง ทำให้หนังดูไม่มีเคมีในตัวนักแสดงมากพอ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายมาก เพราะอย่างน้อยตัวบทก็วางให้ทั้งคู่เป็นคนธรรมดาที่ต้องหาทางพลิกชีวิตด้วยการเป็นโจร จากปัญหาสังคมที่รุมเร้าทำให้ต้องเลือกทางนี้ ซึ่งถ้ามองในบทนี่ทั้งคู่ก็ถือว่าผ่าน อย่างน้อยผู้ชมก็คงรู้สึกเห็นใจตัวละครทั้งคู่อยู่บ้างครับ
สรุป
หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ผสานแนวโจรกรรม+หนังคริสต์มาสเข้าไว้ด้วย กลายเป็นการยกระดับหนังสูตรสำเร็จประจำเดือนของเน็ตฟลิกซ์ให้แปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิมมาก ถึงหนังจะยังคงมีเส้นเรื่องแนวรักโรแมนติกสูตรสำเร็จอยู่ แต่ว่าระหว่างกลับใช้แนวโจรกรรมเป็นเมนหลักจริงจังในการเล่าเรื่องแผนการคิดไปทำไปและค่อยๆ เริ่มรู้สึกผูกผันกันไป โดยมีความลับของสองตัวละครค่อยๆ เผยออกมาทำให้เห็นว่าทั้งคู่จริงๆ แล้วก็เป็นคนดีที่ถูกสังคมคนรวยเอาเปรียบ ซึ่งหนังมีฉากโจรกรรมที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็มีฉากหักมุมในตอนท้าย 2 รอบที่ทำเอาแอบว้าวเล็กๆ เหมือนกัน ซึ่งอย่าลืมว่าหนังเรื่องนี้ยังคงเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่ปกติตามสูตรสำเร็จมักเล่นง่ายจบกันแบบชิลๆ แต่เรื่องนี้มีความแตกต่างออกไป ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมผู้กำกับ Michael Fimognari ที่ยังคงทำหนังรักสตรีมมิ่งได้แปลกใหม่เหมือนผลงานก่อนนี้ของเขาครับ