รีวิว Mantis ตั๊กแตนนักฆ่า (Netflix) ภาคต่อจาก Kill Boksoon ที่ทำทุกอย่างได้แย่ลงไปอีก

Mantis
Summary
หนังแอ็กชั่นภาคต่อจาก Kill Boksoon โดยทำเป็นสปินออฟแยกเรื่องราวออกมาใหม่ โดยคงพวกกฏเกณฑ์โครงสร้างเรื่องนั้นไว้หมด โดยไม่มีการเล่าอธิบายให้เข้าใจ ทำให้ผู้ชมควรดูภาคแรกก่อน แต่หนังก็ไม่ได้ดีกว่าภาคแรกสักเท่าไหร่ ซึ่งที่ชัดๆ เลยคือฉากแอ็กชั่นน้อยมาก เน้นดราม่าความรักระหว่างสองตัวเอกนักฆ่าที่ปกปิดความลับนี้ไว้ ซึ่งก็พาให้เรื่องราวเอ้อละเหยไปกับความรักยืดยาวของทั้งสองคน ซึ่งไม่ได้ทำให้อินได้เลย เพราะใส่ปมว่าซึนเดะเระกันทั้งคู่ แค่คนละแบบทำให้ความรักนี้ไม่ลงตัวสมหวังได้สักที แถมเรื่องยังออกแนวติดตลกทำให้ความเข้มข้นจริงจังหายไปเยอะ แล้วเรื่องก็เดินไปแบบเรียบๆ คาดเดาได้หมด ทำให้ไม่เหลืออะไรที่เด่นจนชวนให้ดูได้สักอย่าง ผ่านไปเลยดีกว่า ดูฆ่าเวลายังไม่คุ้มเลยครับ
Overall
4/10User Review
( votes)Pros
- ภาคต่อจาก Kill Boksoon
- ตัวเอกนักแสดงดัง
- มีพากย์ไทย
Cons
- ฉากแอ็กชั่นน้อย
- ดราม่าความรักไม่ทำให้อิน
- เรื่องราวไม่มีความสดใหม่เลย
ADBRO
Mantis ตั๊กแตนนักฆ่า หนังเกาหลีสปินออฟจากจักรวาล Kill Boksoon ที่ลงใน Netflix เอง โดยเล่าเรื่องของนักฆ่าชั้นยอด ฮันอุล (รับบทโดย อิมชีวา) ที่กลับมาสู่อุตสาหกรรมนักฆ่าที่กำลังวุ่นวาย มีการแข่งขันชิงความเป็นหนึ่งกับคู่แข่ง แจอี (รับบทโดย พัคกยูยอง) รวมถึงอดีตนักฆ่าระดับตำนานประธานของ MK ผู้ออกกฏควบคุมดูแลเหล่าบริษัทนักฆ่าทั้งหมด
อ่านรีวิว Kill Boksoon https://www.playinone.com/folkplay/kill-boksoon-review-netflix/
รีวิว Mantis ตั๊กแตนนักฆ่า
ด้วยความที่หนังเป็นภาคต่อแบบเนื้อเรื่องแยกขาดจากตัวละครชุดเดิม แต่ไม่ได้เล่าเรื่องราวของเดิมใส่ไว้เท่าไหร่ ผู้ชมจึงควรจะไปรับชม Kill Boksoon มาก่อนเพราะนี่เป็นโลกนักฆ่าที่มีกฏมากมายกำกับไว้ โดยเกี่ยวข้องทั้งในการฆ่าและการท้าดวล ซึ่งหนังในภาคนี้ตัดการเล่าเรื่องพวกนี้ออกไปหมด ทำให้ผู้ชมมีงงแน่นอน
และด้วยการที่เป็นภาคต่อ แต่มาจากผู้เขียนบทภาคแรกที่ยังเขียนบทให้ ผู้กำกับไม่ใช่คนเดิม ดังนั้นฉากแอ็กชั่นที่เป็นจุดขายของเรื่องจึงดรอปลงแบบชัดเจน ซึ่งภาคก่อนก็ว่าพยายามก็อปสไตล์จอห์นวิคมาใช้ใส่ลงไปให้ดูเหมือนเยอะ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่ภาคนี้คือน้อยมาก มีฉากใหญ่ๆ จริงแค่ตอนแรกกับตอนท้าย นอกนั้นคือกล้อมแกล้มนิดหน่อยระหว่างทาง แถมบางฉากยังตัดช่วงต่อสู้ออกไปเหลือแค่เปิดกับปิดจบเอาง่ายๆ ซึ่งใครที่หวังจะได้ดูฉากแอ็กชั่นมันส์ๆ มีหวังได้ง่วงหาวหลับไปก่อนแน่นอน
ตัวหนังจริงๆ แทบจะเรียกว่าเป็นแนวรักผสมตลกแซมนิดๆ ลงไปมากกว่า เนื้อเรื่องจริงๆ คือนักฆ่าตัวท็อป 2 คนที่แข่งกันเป็นที่หนึ่งของวงการ แต่ที่ 1 อย่าง ฮันอุล (ฉายาตั๊กแตน) ดันแอบหลงรักที่ 2 แจอีที่พยายามตั้งบริษัทเองหลังจากถูกขับออกจาก MK ทำให้เขาต้องมาคอยเกาะแกะอยู่ใกล้เธอ โดยที่ความสัมพันธ์อันน่าอึดอัดนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ โดยมีประธาน MK คอยจับตาดูอยู่และก็เห็นว่า แจอีคือปัญหาที่คอยฉุดความสามารถฮันอุลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสุดท้ายคำตอบของความรักครั้งนี้จึงต้องจบลงด้วยการที่ใครสักคนต้องตายไปมากกว่าจะได้สมหวังกันอย่างหนังรักเกาหลี ซึ่งไอเดียนี้มันก็พอขายได้ แต่หนังมันก็ไม่ได้ทำให้อินเลิฟกับความสัมพันธ์นี้เท่าไหร่ ทั้งเรื่องมีแต่อิมชีวาเป็นคนแบกบทชายผู้ยอมถูกกระทำทุกอย่างให้หญิงที่รักสมหวัง แต่การกระทำนั้นกลับทำให้เรื่องแย่ลงเพราะเป็นการดูถูกเธอมากกว่าช่วยเธอจริงๆ
ด้วยความที่มันเป็นหนังรักมากกว่าแอ็กชั่นแบบนี้จึงทำให้ดราม่าในเรื่องค่อนข้างเยิ่นเย้อยืดยาว หนังวนเวียนอยู่กับการที่ทั้งสองคนพยายามเปิดบริษัทนักฆ่ารับงานเล็กๆ พยายามหาทางให้บริษัทอยู่รอดให้ได้ กลายเป็นความพยายามทำให้โลกของนักฆ่านี้ดูเป็นแนวธุรกิจสตาร์ทอัพนักฆ่าที่ต้องหาทุนใหญ่มาปั้นให้ดังได้ ผ่านบริษัทเกมที่กำลังสร้างเกมฆ่าคนมาขาย โดยบอกว่านี่คือธุรกิจใหม่ที่ทำเงินได้ดีกว่า แต่ทุกอย่างมันก็ดูมั่วๆ เข้ากันไม่ได้จนรู้สึกตลกกับความพยายามจับยัดสร้างแนวทางโลกนักฆ่าแบบใหม่ในตลาดวงการหนังแอ้กชั่นนักฆ่าตอนนี้ที่จริงๆ มันก็แทบตันพล็อตไอเดียกันหมดแล้ว และเรื่องนี้ก็ยังไม่มีความแปลกใหม่อะไรให้เห็นเลยเช่นกัน
สรุป
หนังแอ็กชั่นภาคต่อจาก Kill Boksoon โดยทำเป็นสปินออฟแยกเรื่องราวออกมาใหม่ โดยคงพวกกฏเกณฑ์โครงสร้างเรื่องนั้นไว้หมด โดยไม่มีการเล่าอธิบายให้เข้าใจ ทำให้ผู้ชมควรดูภาคแรกก่อน แต่หนังก็ไม่ได้ดีกว่าภาคแรกสักเท่าไหร่ ซึ่งที่ชัดๆ เลยคือฉากแอ็กชั่นน้อยมาก เน้นดราม่าความรักระหว่างสองตัวเอกนักฆ่าที่ปกปิดความลับนี้ไว้ ซึ่งก็พาให้เรื่องราวเอ้อละเหยไปกับความรักยืดยาวของทั้งสองคน ซึ่งไม่ได้ทำให้อินได้เลย เพราะใส่ปมว่าซึนเดะเระกันทั้งคู่ แค่คนละแบบทำให้ความรักนี้ไม่ลงตัวสมหวังได้สักที แถมเรื่องยังออกแนวติดตลกทำให้ความเข้มข้นจริงจังหายไปเยอะ แล้วเรื่องก็เดินไปแบบเรียบๆ คาดเดาได้หมด ทำให้ไม่เหลืออะไรที่เด่นจนชวนให้ดูได้สักอย่าง ผ่านไปเลยดีกว่า ดูฆ่าเวลายังไม่คุ้มเลยครับ