รีวิว Mercy For None ดับแค้นไร้ปรานี (Netflix) John Wick เวอร์ชั่นเกาหลี! ซัดกันด้วยหมัดแทนปืน

Mercy For None
Summary
ซีรีส์เกาหลีที่เน้นฉากโหดเถื่อนแนวแอ็คชั่นเดินหน้าฆ่ามัน ดูแล้วก็พอคาดเดาได้ว่าคงได้แรงบันดาลใจจาก John Wick เพราะพยายามสร้างโลกและตัวละครที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง แต่ปรับมาเป็นหมัดกับไม้เบสบอลซัดกับอีกฝ่ายที่ใช้แต่มีดกับขวานกันแทบทั้งเรื่อง (ปืนใส่มาแบบหยุมหยิมพอให้รู้ว่ามี) พระเอกเป็นแนวเดินหน้าเข้าไปลุยฆ่าไม่ต้องมีวางแผน บุกเข้าไปอัดกันตรงๆ ฉากเหล่านี้มีเยอะอัดแน่นมาตลอด โหดสะใจแบบไม่ต้องมีเซ็นเซอร์เลย
ข้อดีคือเรื่องไม่ได้มีแค่เรื่องล้างแค้นให้น้องชายแล้วก็จบ แต่มีปมภายหลังที่ลึกซับซ้อนขึ้นเป็นปัญหาระหว่างแก๊งใหญ่ในโซล แม้ปมตัวร้ายบอสใหญ่จะยังมีความเป็นการ์ตูนมาก เนื่องจากเรื่องทำมาจาก Webtoon ก็ถือว่าเข้าใจได้ เพราะสุดท้ายเรื่องนี้เน้นความโอเวอร์และโม้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- แอ็กชั่นโหดดิบเถื่อนแบบไม่ใช้ปืน
- ฉากแอ็กชั่นแนวพระเอกเก่งโอเวอร์มากๆ
- ไม่มีเซ็นเซอร์ความรุนแรงเลย
- มีพากย์ไทย
Cons
- ปมของบอสใหญ่ดูเบียวๆ แนวการ์ตูนไปหน่อย
- ปืนน้อยมาก แถมพอใช้ก็ดูตลกๆ ไม่ยิงเข้าจุดสำคัญ
ADBRO
Mercy For None ดับแค้นไร้ปรานี ซีรีส์เกาหลี Netflix Original แนวแอ็คชั่น 7 ตอนจบ เล่าเรื่องราวของ “กีจุน” ชายผู้เคยหันหลังให้กับวงการอาชญากรรมใต้ดิน แต่กลับต้องหวนคืนสู่โลกเก่าอีกครั้งหลังจากผ่านไป 11 ปี เพื่อค้นหาความจริงเบื้องหลังการตายของ “กีซอก” น้องชายผู้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าแก๊ง และแก้แค้นให้ถึงที่สุด
รีวิว Mercy For None ดับแค้นไร้ปรานี
ซีรีส์เรื่องนี้สร้างมาจาก Webtoon โดยมีแกนหลักคือการแก้แค้นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ต้องคาดหวังอะไรซับซ้อนมาก เพราะนี่คือการนำสูตรสำเร็จของแอ็คชั่นนอนสต็อปแบบ John Wick มาดัดแปลง เพียงแต่เอาปืนออกไป แทนที่ด้วยหมัดล้วนๆ ผนวกกับไม้เบสบอลสั่งทำพิเศษสำหรับตัวเอก ในขณะที่ฝ่ายศัตรูใช้แต่หมัดกับมีดกันตลอดทั้งเรื่อง
ซีรีส์กลายเป็นเรื่องที่ดูแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะเน้นฉากซัดกันทุกตอน และเสิร์ฟฉากแอ็คชั่นมาตลอดโดยแทบไม่ให้พระเอกได้พักเลย วันๆ เดินหน้าฆ่าทุกคนที่มาขวางหน้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กู (พระเอก) ก็จะตามไปฆ่ามึงให้ได้ คอนเซ็ปต์ในหัวของพระเอกมีแค่นี้เอง บทพูดก็น้อยมากแทบไม่มีอะไรนอกจากกูจะแก้แค้นแค่นั้น ซึ่งซีรีส์ก็ทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้อย่างโหดเหี้ยม ดิบเถื่อน เลือดสาดปาดคอแทงยับไม่มีการเซ็นเซอร์ ทุกฉากเต็มไปด้วยความรุนแรงสุดขีด ตอบโจทย์สายแอ็คชั่นแน่นอน เป็นแนวคนเดียวเดินหน้าฆ่าทั้งแก๊ง แม้ศัตรูจะมาเป็นร้อยคน พระเอกคนเดียวก็เอาอยู่หมดโดยไม่เกี่ยงพื้นที่ ไม่มีการวางแผน คิดจะไปลุยก็เข้าไปตรงๆ ไม่มีการหลบเลี่ยงหรือหยุดคิด เจ็บแค่ไหนก็ไม่สนใจ อึดทนแบบนรกเรียกพ่อ เดินหน้าลุยฆ่าอย่างเดียวไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายแก้แค้นให้น้องชายได้ โดยลเบื้องหลังความเก่งของพระเอกก็มีการรองรับว่าเขาคือคนในตำนาน ที่ 2 แก๊งใหญ่ในกรุงโซลยอมรับมาตลอด ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ John Wick เป๊ะ แม้จะดูเหมือนลอกเลียนแบบ แต่ก็ไม่น่าติเพราะมันเป็นแนวทางการเล่าเรื่องแบบโอเวอร์ที่ใครจะหยิบไปใช้ก็ได้อยู่แล้ว
สิ่งที่ซีรีส์ทำได้ดีคือความพยายามสร้างเรื่องให้ซับซ้อนมากกว่าที่เห็น ตอนแรกปมการตายของน้องชายดูไม่ซับซ้อนนัก เพียงแค่น้องพระเอกไปข่มขู่ลูกชายของแก๊งอื่นจนทำให้หัวหน้าแก๊งเสียหน้า จึงสั่งคนมาฆ่า วิธีการสั่งฆ่าก็คล้าย John Wick ตรงที่มีบริษัทรับงานตัวกลางกระจายข่าวตามหาคนมาทำ ช่วงแรกพระเอกก็แค่ต้องตามหาคนว่าจ้าง ซึ่งผู้ชมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าใคร แต่หลังจบ 4 ตอนแรก เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป เมื่อความจริงซับซ้อนกว่านั้น มีผู้บงการวางแผนซ้อนไปอีกชั้น เรื่องราวผูกปมให้เห็นปัญหาระหว่างแก๊งที่มีตำรวจและอัยการเข้ามาเกี่ยวข้อง กลายเป็นว่าพระเอกจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องทลายแก๊งทั้งหมดลงมา โดยมีแรงจูงใจของผู้บงการที่เกี่ยวพันกับพระเอกโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ปมเหล่านี้จะออกแนวการ์ตูนค่อนข้างมาก ไม่ได้เข้มข้นจริงจังแบบซีรีส์ยากูซ่าญี่ปุ่นที่มีความดาร์คและสมจริงมากกว่า แต่ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว
สรุป
Mercy for None เป็นซีรีส์เกาหลีที่เน้นฉากโหดเถื่อนแนวแอ็คชั่นเดินหน้าฆ่ามัน ดูแล้วก็พอคาดเดาได้ว่าคงได้แรงบันดาลใจจาก John Wick เพราะพยายามสร้างโลกและตัวละครที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง แต่ปรับมาเป็นหมัดกับไม้เบสบอลซัดกับอีกฝ่ายที่ใช้แต่มีดกับขวานกันแทบทั้งเรื่อง (ปืนใส่มาแบบหยุมหยิมพอให้รู้ว่ามี) พระเอกเป็นแนวเดินหน้าเข้าไปลุยฆ่าไม่ต้องมีวางแผน บุกเข้าไปอัดกันตรงๆ ฉากเหล่านี้มีเยอะอัดแน่นมาตลอด โหดสะใจแบบไม่ต้องมีเซ็นเซอร์เลย
ข้อดีคือเรื่องไม่ได้มีแค่เรื่องล้างแค้นให้น้องชายแล้วก็จบ แต่มีปมภายหลังที่ลึกซับซ้อนขึ้นเป็นปัญหาระหว่างแก๊งใหญ่ในโซล แม้ปมตัวร้ายบอสใหญ่จะยังมีความเป็นการ์ตูนมาก เนื่องจากเรื่องทำมาจาก Webtoon ก็ถือว่าเข้าใจได้ เพราะสุดท้ายเรื่องนี้เน้นความโอเวอร์และโม้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ