รีวิว Motorheads (prime) ซีรีส์วัยรุ่นที่เน้นดราม่ารักมากกว่าความมันส์ของการแข่งรถ

Motorheads
Summary
ซีรีส์วัยรุ่นที่เหมาะกับผู้ชมที่ชอบเรื่องรถยนต์ โดยมีการแข่งรถเป็นน้ำจิ้มนิดหน่อยไม่ใช่แนวแข่งรถกันจริงจัง แม้เรื่องจะพยายามผูกปมให้มีฉากแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ ซีรีส์เน้นไปที่ความสัมพันธ์ตัวละครที่มีทั้งเรื่องรักและการฟื้นฟูรถยนต์มากกว่า ซึ่งจุดนี้เรื่องทำได้ดีเลย โดยมีกลิ่นไอของแนวย้อนโหยหาอดีตอยู่ตลอดเวลา และมีเพลงประกอบดังๆ ในอดีตใส่เข้ามามากมาย แต่ด้วยความที่ตัวละครในเรื่องเยอะมาก แล้วก็พยายามทำให้ทุกตัวละครมีเนื้อเรื่องของตัวเอง ทำให้เรื่องดูยืดยาวเพราะมีถึง 10 ตอนในเวลาเกือบชั่วโมงเต็มทุกตอน แล้วก็ไม่เคลียร์ปมไม่จบในซีซั่นแรกเยอะมาก ซึ่งถ้าไม่ใช่คนชอบรถคลาสสิคที่เป็นจุดเด่นจุดขายก็คงเฉยๆ มากครับ
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- รวมรถคลาสสิคเยอะ
- นักแสดงมีเสน่ห์
- มีพากย์ไทย
Cons
- ฉากแข่งรถน้อยเกินไป
- ตัวละครเสริมเยอะทำให้เรื่องยืด
- เคลียร์ปมไม่จบในซีซั่นแรกเยอะมาก
ADBRO
“Motorheads” เดิมพันรถ เดิมพันรัก ซีรีส์ Prime Video 10 ตอนจบแนว เรื่องราววัยรุ่นในรูปแบบ “coming-of-age” ที่ผสมผสานความหลงใหลในรถยนต์และการแข่งรถเข้ากับชีวิตประจำวันของกลุ่มตัวละครในเมืองเล็กของอเมริกา
รีวิว Motorheads (ไม่สปอยล์)
ซีรีส์แนวแข่งรถวัยรุ่น ซึ่งก็เหมือนฟาสแอนด์ฟิวเรียสแบบย่อส่วนลงมา โดยย่อให้มาอยู่ในเมือง Ironwood รัฐ Pennsylvania ซึ่งเป็นเมืองในเขต Rust Belt ที่ในอดีตเคยเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมโรงงานรถยนต์ เพื่อให้เข้ากับธีมที่แทบทุกคนในเมืองรักรถสุดหัวใจ
ซีรีส์นี้เริ่มต้นด้วยการตามหาตัวตนและมรดกของครอบครัว เมื่อแฝดอย่าง Caitlyn (Melissa Collazo) และ Zac (Michael Cimino) ย้ายจาก Brooklyn กลับไปยัง Ironwood พร้อมแม่ (Nathalie Kelley) เพื่ออยู่ในความดูแลของลุง Logan (Ryan Phillippe) ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถและเป็นพี่ชายของพ่อที่หายตัวไปเมื่อ 17 ปีก่อน แต่การกลับมาครั้งนี้พวกเขาได้ปลุกอดีต “แมดด็อก” พ่อผู้เป็นตำนานของเมืองนี้กลับมาอีกครั้ง
ถ้าใครคิดว่านั้เป็นเรื่องราวแนวพระเอกเก่งขับรถแล้วต้องมีฉากแข่งรถมันส์มากมาย ก็ต้องบอกว่าผิดถนัดเลย เพราะซีรีส์วางให้ตัวเอก Zac นั้นคิดว่าตัวเองเก่งมีพรสวรรค์จากพ่อที่ไม่เคยแข่งรถแพ้ใคร แต่ความจริงเขากลับไม่สามารถชนะในการแข่งรถทางเรียบได้ ทำให้เรื่องนั้นเสียเวลาในการปลุกปั้นตัวเอกยาวนานมากถึง 7 ตอนถึงค่อย “เก่งขึ้นมาหน่อย” โดยมีฉากแข่งรถเล็กๆ เข้ามาประปรายระหว่างทาง ที่รู้สึกว่ามีก็เหมือนไม่มี เพราะมันไม่ได้เหมือนพวกหนังแข่งรถจริงจังเลยแม้แต่น้อยเพราะเป็นการแข่งทางตรงบนถนนปกติเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ฉากไคลแม้กซ์ท้ายเรื่องนี้ที่เป็นการดวลของตัวเอกกับคู่กัดในโรงเรียนก็ธรรมดามากมาย ไม่สามารถปลุกเร้าอารมณ์อะไรได้เลยสักนิด ถ้าให้คะแนนฉากแข่งรถในเรื่องได้ 5-6 ก็มากพอแล้วครับ
ซีรีส์มีปมเรื่องหลักที่วางไว้แต่แรกคือพ่อของแฝดทั้งคู่คือใครกันแน่ โดยมีคลิปหนีตำรวจพร้อมเงิน 12 ล้านเหรียญเป็นเรื่องเล่าว่าพ่อของพวกเขาหายตัวไป จากนั้นก็ค่อยๆ ย้อนกลับไปเล่าทีละนิดว่าตัวละครมากมายในเรื่องนี้ต่างเกี่ยวพันกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งซีรีส์เน้นเล่าเรื่องการก่ออาชญากรรมทั้งในอดีตกับปัจจุบันแบบชิลๆ มาก โดยที่ไม่มีการรับโทษที่ก่อเลย ซึ่งแรกๆ อาจจะพอมองข้ามได้ แต่หลังๆ เหมือนบทไม่ค่อยใส่ใจว่าต้องให้ตัวละครที่ก่อเรื่องหลายคนต้องได้รับบทเรียน เลยกลายเป็นฉากก่ออาชญากรรมที่ใส่ในเรื่องไว้เพื่อให้มีซีนตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ เท่านั้น แต่มันก็ตัดจบง่ายๆ ไปหมดทุกครั้ง
แต่สิ่งที่ซีรีส์เล่าเรื่องได้ดีกว่าคือแนวชีวิตดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ ผ่านธีมหลักเรื่องการฟื้นฟูอู่ การกู้ซากรถให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา โดยเรื่องราวเป็น Caitlyn กับ Zac อยากฟื้นคืนชีพรถของพ่อที่เป็นตำนานของเมืองกลับมา แล้วก็ได้เพื่อนใหม่ในเมืองมาช่วยกันซ่อมแซมมัน โดยมี Logan ลุงของทั้งคู่กำลังลำบากจากอู่รถที่ขาดทุนอย่างหนัก ทุกคนมาช่วยกันทั้งซ่อมรถแล้วก็หาทางกอบกู้ธุรกิจของครอบครัวนี้ขึ้นมา ซึ่งซีรีส์ก็จะพาไปพบกับรถสวยๆ คลาสสิคมากมายให้ได้ชมกัน โดยออกแนวย้อนยุคโหยหาอดีต (Nostaliga) ซึ่งซีรีส์ใส่เรื่องพวกนี้ไว้อย่างเต็มเปี่ยม แม้แต่เพลงดังในยุคเก่าเกือบ 20 ปีก่อนก็ขนกันมาเพียบ
ในเรื่องรักวัยรุ่นซีรีส์ก็ทำได้ดี โดยมีการผูกปมตัวละครตามสูตร รวย-จน แบดบอย ลูสเซอร์บ้านแตก พ่อแม่มีปัญหา LGTB ซึ่งทั้งหมดมันก็เป็นปมพื้นๆ ที่แนววัยรุ่นปกติก็หยิบมาใช้กัน แต่เคมีของนักแสดงรุ่นใหม่ในเรื่องทำได้ดี โดยเฉพาะ Caitlyn พี่สาวของ ZAC ที่มีบทบาทกับเรื่องมากกว่าใคร ตั้งแต่เป็นช่างซ่อมรถสุดเก่ง แล้วยังโปรยเสน่ห์ทั้งชายทั้งหญิง กลายเป็นตัวละครที่เดาใจไม่ออกว่าเธอชอบเพศไหน ซึ่งหน้าตาเธอก็คมเข้มมากเพราะมีเชื้อสเปน กลายเป็นจุดสนใจเด่นมากกว่า ZAC ที่เป็นพระเอกของเรื่องเสียอีก (อาจจะเพราะบททำให้เขาไม่เก่งด้วย)
สรุป
“Motorheads” เป็นซีรีส์วัยรุ่นที่เหมาะกับผู้ชมที่ชอบเรื่องรถยนต์ โดยมีการแข่งรถเป็นน้ำจิ้มนิดหน่อยไม่ใช่แนวแข่งรถกันจริงจัง แม้เรื่องจะพยายามผูกปมให้มีฉากแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ ซีรีส์เน้นไปที่ความสัมพันธ์ตัวละครที่มีทั้งเรื่องรักและการฟื้นฟูรถยนต์มากกว่า ซึ่งจุดนี้เรื่องทำได้ดีเลย โดยมีกลิ่นไอของแนวย้อนโหยหาอดีตอยู่ตลอดเวลา และมีเพลงประกอบดังๆ ในอดีตใส่เข้ามามากมาย แต่ด้วยความที่ตัวละครในเรื่องเยอะมาก แล้วก็พยายามทำให้ทุกตัวละครมีเนื้อเรื่องของตัวเอง ทำให้เรื่องดูยืดยาวเพราะมีถึง 10 ตอนในเวลาเกือบชั่วโมงเต็มทุกตอน แล้วก็ไม่เคลียร์ปมไม่จบในซีซั่นแรกเยอะมาก ซึ่งถ้าไม่ใช่คนชอบรถคลาสสิคที่เป็นจุดเด่นจุดขายก็คงเฉยๆ มากครับ