รีวิว My Oxford Year (Netflix) หนังรักขายฝันที่ทิ้งความสมจริงทุกอย่างเพื่อจิ้นกันสุดๆ

My Oxford Year
Summary
หนังรักโรแมนติกอเมริกันที่ตั้งชื่อเรื่องเพื่อเอาโลเกชั่นอ็อกฟอร์ดมาวางไว้เป็นโลเกชั่นประดับสวยๆ ในเรื่องเท่านั้น เรื่องจริงก็ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับที่นี่มาก โดยเป็นเรื่องราวโรแมนติกแบบนิยายขายฝันกันสุดๆ ระหว่างลูกศิษย์สาวแสนสวยที่มาพบรักกับอาจารย์หนุ่มรูปหล่อ และไม่ต้องมาเร้ารีรอสานความรักให้เสียเวลา เพราะนางเอกเป็นสาวอเมริกันสมัยใหม่ที่อ่อยผู้ชายหาคู่นอนกันได้ตรงๆ ตั้งแต่เปิดเรื่องไม่นาน ก่อนที่จะใส่ฉากอีโรติกเล็กๆ ที่ให้ผู้ชม “จินตนาการเองล้วนๆ” เพราะตัวนักแสดงเธอไม่ขายเรือนร่างแบบนั้น แต่นั่นก็ทำให้หนังดูไม่สมจริงจนรู้สึกตะหงิดๆ ตลอดเพราะพยายามยัดฉากแบบนี้มาอยู่เรื่อย ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องจริงในครึ่งหลังที่พลิกกลับเป็นอีกแนวหนังคนละม้วน โดยที่เรื่องราวไม่ได้แปลกใหม่ แต่ผู้ชมที่อินกับแนวขายฝันน้ำเน่ามากๆ ก็น่าจะชอบและถูกใจกับอะไรแบบนี้ ซึ่งหนังก็ถือว่าทำได้ดีเพราะนักแสดงมีเสน่ห์มากทั้งคู่ ชวนให้จิ้นฟินชวนฝันผสมดราม่าเรื่องราวรันทดที่พยายามบิ้วอารมณ์กันสุดๆ แต่ถ้ามองเรื่องความสมจริงของตัวละครคู่ไปกับเรื่องราว หนังเรื่องนี้สอบตกให้ F ได้เลยเพราะมันไม่มีอะไรให้น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นแบบนั้นได้ ซึ่งสุดท้ายก็แล้วแต่ว่าผู้ชมชอบแบบไหนเท่านั้น ยังไงหนังก็ยังถือว่ามีดีกว่าหนังรักเน็ตฟลิกซ์เกร่อๆ ทั่วไปมากเหมือนกันครับ
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- หนังรักโรแมนติกขายฝัน
- ถ่ายทำในมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดจริง
- นักแสดงมีเสน่ห์
- มีพากย์ไทย
Cons
- ตัวละครกับเรื่องราวเน้นขายฝันจนไม่ต้องสมจริงเลย
- ยัดฉากอีโรติกเยอะแต่ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ADBRO
My Oxford Year อ็อกซ์ฟอร์ดในฝันของสาวอเมริกัน ภาพยนตร์ Original Netflix แนวโรแมนติกดราม่า เมื่อแอนนา หญิงสาวชาวอเมริกันผู้ทะเยอทะยาน เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเพื่อทำตามความฝันในวัยเด็ก ชีวิตของเธอก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามแผนทุกอย่าง จนกระทั่งเธอได้พบกับอาจารย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของทั้งสองคนอย่างลึกซึ้ง
รีวิว My Oxford Year (ไม่สปอยล์)
หนังรักโรแมนติกสร้างจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน ซึ่งงานสร้างจากนิยายก็มีข้อดีชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังรักเกร่อๆ ที่เน็ตฟลิกซ์สร้างมาลงสตรีมมิ่งให้ดูไปงั้นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ยังเป็นหนังรักสูตรสำเร็จที่ยังใช้โครงเรื่องเก่าซ้ำมากๆ แบบเฉลยไปคำเดียวคือจบเลยไม่ต้องดูกันแล้ว ซึ่งรีวิวนี้ก็จะไม่สปอยล์ แต่ก็คงทำให้ผู้อ่านพอเข้าใจได้ว่ามันคึออะไรเหมือนกันครับ
จุดเด่นของเรื่องจริงๆ ก็คือตัวนางเอก Sofia Carson ซึ่งเธอเล่นหนังเน็ตฟลิกซ์มา 2 เรื่องติดแล้วคือ Carry-On กับ The Life List ซึ่งหนังก็ดีมากทั้งสองเรื่องและเธอก็รับบทนางเอกที่มีบทบาทดีมากทั้งสองเรื่องเช่นกัน ซึ่งมาเรื่องนี้เอาจริงๆ ก็เหมือนเธอยังทำผลงานการแสดงที่ดีได้แบบทำแฮททริก 3 เรื่องติด ในบทของนักศึกษาสาวอเมริกันแสนสวยที่มาตกหลุมรักอาจารย์หนุ่มรูปหล่อที่แสนฉลาดและรู้ใจเธอ เธอจึงอ่อยเขาตรงๆ แล้วก็คิดว่าแค่มีซัมติงสนุกๆ ก็พอตามสไตล์สาวอเมริกันที่เราเห็นกันจนเป็นปกติทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกัน โดยวางบทให้เธอคิดและทำตัวแบบนั้นในฐานะสาวรุ่นใหม่ที่คิดว่าควบคุมชีวิตตัวเองได้ แต่แล้วมันก็กลายเป็นการตกหลุมรักมากขึ้นเรื่อยๆ และพาเธอไปพบกับประสบการณ์ชีวิตในอีกมุมมองใหม่ที่มีครบรส ซึ่งหนังก็ทำฉากหวานๆ ซึ้งโรแมนติกแบบใส่เข้ามารัวๆ จนรู้สึกว่าจะไวไปไหมกับการผูกเรื่องให้ใครสักคนรักกัน แต่จริงๆ แล้วตัวหนังเองไม่ใช่อย่างที่เห็น เมื่อมันมีเรื่องราวลึกลงไปมากกว่านั้นค่อนข้างเยอะ
หนังตั้งใจหลอกผู้ชมให้คิดว่านี่เป็นหนังรักสูตรสำเร็จธรรมดาในครึ่งแรก ก่อนจะเปิดเผยเรื่องราวอีกด้านในครึ่งหลัง ซึ่งในครึ่งแรกก็มีการวางพล็อตเรื่องราวรอไว้ที่จุดนี้ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่เราเห็นในครึ่งแรกคือการเตรียมตัวเพื่อหลอกผู้ชมให้เข้าใจผิดเพื่อจะหักมุมกระชากความรู้สึกไปอีกทางทันที ซึ่งหนังก็ถือทำได้ดีในระดับพอที่จะทำให้อึ้งนิดๆ คนที่อินกับแนวรักซึ้งๆ ก็น่าจะชอบและอินไปกับเรื่องราวในครึ่งหลังได้ไม่ยาก เมื่อเจมี่พระเอกของเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ไม่ได้มีสถานะแค่อาจารย์อย่างที่เข้าใจในตอนแรก ซึ่งหนังก็ใส่บทบาทใหม่ให้เขาสมบูรณ์พร้อมเหมือนเจ้าชายจนดูเป็นนิยายขายฝันไปเลย แต่ก็ใส่ปมหลุมชีวิตขนาดใหญ่ที่เขาอุดไม่ได้ไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อนางเอกรู้ความลับเรื่องนี้นั่นก็คือแก่นแท้ของเรื่องนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมา ซึ่งหนังก็พยายามมากกับการทำให้คนอินกับแนวเรื่องที่เปลี่ยนไปทางดราม่าชีวิตรักที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแม้ว่าความรักจะคงอยู่แค่ไหน แล้วก็ใส่ดราม่าครอบครัวของพระเอกเพิ่มเข้ามาอีกให้ปมลึกไปถึงพ่อกับพี่ชายที่ตายไปของเขา โดยมีนางเอกเป็นตัวช่วยคลายปมชีวิตของพระเอกที่เขาไม่สามารถจัดการเองได้ หนังพยายามดิ่งลึกลงไปในความสัมพันธ์ที่เรื่องขมวดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ว่าจะกล้าจบแบบตามฝันเทพนิยายหรือตามชีวิตจริง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหนังทำบทสรุปออกมาได้ดี โดยที่ยังคงความโรแมนติกไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
แต่ปัญหาของเรื่องก็คือจุดนี้เช่นกัน เมื่อหนังตั้งใจมากกับความพยายามขายฝันแบบนิยายประโลมโลกมากเกินไปจริงๆ โดยให้ตัวละครพระเอกดูเพียบพร้อมทุกอย่างแม้ในช่วงวิกฤตหนักๆ ของชีวิตมากๆ เขาก็ยังคงดูเป็นตัวละครหนุ่มหล่อเนี๊ยบหุ่นดีแบบเจ้าชายในฝันของหญิงสาวสุดๆ ซึ่งมันดูขัดแย้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก จนเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยดีกว่า ผู้ชมที่อินกับตรงนี้ได้ก็คือต้องเคลิ้มไปกับรูปร่างหน้าตามากกว่าจะมองหาเรื่องราวความสมจริงที่หนังแทบไม่มีให้เลย แต่ก็เป็นความตั้งใจของผู้สร้างที่จะให้เป็นแบบนั้นด้วยครับ (จุดนี้เห็นว่านิยายรันทดสมจริงกว่ามาก) ซึ่งถ้าใครอินก็มองข้ามปัญหาพวกนี้ไปได้เลยเช่นกันครับ
ส่วนที่ผู้เขียนผิดหวังมากกว่าคือ หนังเรื่องนี้เน้นฉากโรแมนติกแนวอีโรติกเยอะมาก ตามประสาสาวอเมริกันขี้อ่อย ซึ่ง Sofia Carson ก็สวยทรงเสน่ห์ยั่วยวนมากทุกฉากที่เธอออกมาจริงๆ แต่ทั้งเรื่องไม่มีฉากไหนที่เห็นเกินเลยไปกว่าหัวไหล่เธอ จนรู้เลยว่าเธอตั้งใจเป็นนักแสดงที่ไม่ขายร่างกายเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันหาได้ยากมากในยุคนี้ ความผิดไม่ใช่เพราะเธอไม่ถอดเสื้อผ้าหรอก แต่ผมรู้สึกว่าถ้าแบบนั้นก็อย่าให้เธอมารับบทสาวอเมริกันขี้อ่อยยั่วผู้ชายแบบนี้เลยจะดีกว่า เพราะมันดูขัดกับบทบาทมากไป อย่างฉากแรกหาที่ทางไม่ได้นางเอกก็เสนอพระเอกเลยว่าปิดประทุนมีอะไรกันในรถเลยได้ไหม ซึ่งหนังก็ตัดฉากไปดื้อๆ โผล่มาอีกทีคือนั่งหน้ารถขับกลับบ้านแล้วยิ้มให้กัน ซึ่งหนังทำฉากแบบนี้บ่อย แต่มันไม่สมจริงเลยนั่นแหละที่เป็นปัญหา แล้วยิ่งการไปใส่ฉากที่มีเปลือยขึ้นอีกนิดนึงในตอนท้ายกับฉากสโลวโมชั่นเซ็กส์ซีนมันก็ดูเป็นเหมือนฉากหลอกๆ ที่หวังจะเอาทดแทนทั้งเรื่องที่มันไม่มี ซึ่งมันไม่เวิร์คเลยจริงๆ ครับ
สรุป
หนังรักโรแมนติกอเมริกันที่ตั้งชื่อเรื่องเพื่อเอาโลเกชั่นอ็อกฟอร์ดมาวางไว้เป็นโลเกชั่นประดับสวยๆ ในเรื่องเท่านั้น เรื่องจริงก็ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับที่นี่มาก โดยเป็นเรื่องราวโรแมนติกแบบนิยายขายฝันกันสุดๆ ระหว่างลูกศิษย์สาวแสนสวยที่มาพบรักกับอาจารย์หนุ่มรูปหล่อ และไม่ต้องมาเร้ารีรอสานความรักให้เสียเวลา เพราะนางเอกเป็นสาวอเมริกันสมัยใหม่ที่อ่อยผู้ชายหาคู่นอนกันได้ตรงๆ ตั้งแต่เปิดเรื่องไม่นาน ก่อนที่จะใส่ฉากอีโรติกเล็กๆ ที่ให้ผู้ชม “จินตนาการเองล้วนๆ” เพราะตัวนักแสดงเธอไม่ขายเรือนร่างแบบนั้น แต่นั่นก็ทำให้หนังดูไม่สมจริงจนรู้สึกตะหงิดๆ ตลอดเพราะพยายามยัดฉากแบบนี้มาอยู่เรื่อย ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องจริงในครึ่งหลังที่พลิกกลับเป็นอีกแนวหนังคนละม้วน โดยที่เรื่องราวไม่ได้แปลกใหม่ แต่ผู้ชมที่อินกับแนวขายฝันน้ำเน่ามากๆ ก็น่าจะชอบและถูกใจกับอะไรแบบนี้ ซึ่งหนังก็ถือว่าทำได้ดีเพราะนักแสดงมีเสน่ห์มากทั้งคู่ ชวนให้จิ้นฟินชวนฝันผสมดราม่าเรื่องราวรันทดที่พยายามบิ้วอารมณ์กันสุดๆ แต่ถ้ามองเรื่องความสมจริงของตัวละครคู่ไปกับเรื่องราว หนังเรื่องนี้สอบตกให้ F ได้เลยเพราะมันไม่มีอะไรให้น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นแบบนั้นได้ ซึ่งสุดท้ายก็แล้วแต่ว่าผู้ชมชอบแบบไหนเท่านั้น ยังไงหนังก็ยังถือว่ามีดีกว่าหนังรักเน็ตฟลิกซ์เกร่อๆ ทั่วไปมากเหมือนกันครับ