playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Superboys Of Malegaon (Prime) บทรักและฝันของนักสร้างหนังอินดี้ในอินเดีย

Superboys Of Malegaon

Summary

“Superboys Of Malegaon” คือจดหมายรักของคนทำหนังแบบเดียวกับ “Cinema Paradiso” ของอิตาลี หรือ “มนต์รักนักพากย์” ของไทย แต่มาในบริบทของวงการหนังอิสระอินเดีย สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มคนที่มีความฝันใหญ่อยากก้าวสู่บอลลีวู้ด แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์แต่กลับร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ผลงาน ผ่านบททดสอบของชื่อเสียง เงินทอง และมิตรภาพ โดยภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องจริงที่เป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างและดูรวบรัดในตอนท้าย แต่นี่คือภาพยนตร์ที่มีคุณค่าซึ่งคนรักหนังไม่ควรพลาด

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ถ่ายทอดเรื่องราวจริงของนักสร้างหนังอิสระในเมืองเล็กของอินเดีย
  • สะท้อนประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำและชนชั้นในวงการบอลลีวู้ด
  • นำเสนอมุมมองของผู้หญิงและมีบทบาทสำคัญ
  • เป็นจดหมายรักถึงวงการภาพยนตร์และความหลงใหลในการทำหนัง
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ตัวละครแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาที่ผ่านไปนาน
  • ตอนท้ายเรื่องซึ่งเป็นจุดกำเนิดของภาพยนตร์ถูกนำเสนออย่างรวบรัดเกินไป

ADBRO

Superboys Of Malegaon ยอดมนุษย์แห่งมาเลเกา ภาพยนตร์ Original Amazon Prime แนวดราม่า มีพากย์ไทย ถ่ายทอดเรื่องราวอันงดงามของมิตรภาพ ความศรัทธา ความล้มเหลว และความรักในศิลปะภาพยนตร์ ผ่านชีวิตของช่างวิดีโองานแต่งงานผู้มีความฝันที่จะเนรมิตร้านวิดีโอของพี่ชายให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีชีวิตชีวา โดยร่วมมือกับเพื่อนๆ สร้างหนังล้อเลียนภาพยนตร์ดังที่คนในเมืองชื่นชอบ
Superboys of Malegaon (2024) on IMDb

รีวิว Superboys Of Malegaon

ณ มาเลเกา เมืองเล็กแห่งหนึ่งที่ภาพยนตร์เป็นประตูหลบหนีความเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวัน นาซีร์ เชค ผู้กำกับมือสมัครเล่นได้รวบรวมกลุ่มเพื่อนหลากหลายบุคลิกมาร่วมสร้างภาพยนตร์โดยคนมาเลเกาเพื่อคนมาเลเกาโดยเฉพาะ ในเรื่องราวอบอุ่นและสะเทือนใจเกี่ยวกับการสร้างหนังและมิตรภาพ ที่ใจรักเอาชนะข้อจำกัดด้านงบประมาณ ความคิดสร้างสรรค์ก้าวข้ามอุปสรรค และความฝันที่จุดประกายความหวังใหม่ให้กับทั้งเมือง

เรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของกลุ่มคนในเมืองเล็กๆ ที่พยายามสร้างหนังฉายเองในเมืองมาเลเกา ดำเนินเรื่องราวราวกับเป็นบันทึกวิวัฒนาการของกลุ่มนักสร้างหนังอิสระในเมืองนี้ ด้วยทุนสร้างอันแสนจำกัด โดยที่แต่ละคนล้วนเป็นเพียงคนธรรมดาที่มิได้มีพื้นฐานหรือการศึกษาด้านภาพยนตร์ แม้แต่ตัวผู้กำกับเองก็เป็นเพียงช่างถ่ายวิดีโองานแต่งงาน เรื่องราวดำเนินตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนภาพยนตร์ “Cinema Paradiso” ของอิตาลี หรือ “มนต์รักนักพากย์” ของผู้กำกับนนทรีย์ นิมิบุตร ซึ่งถ่ายทอดความหลงใหลในภาพยนตร์จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพในวงการนี้ขึ้นมาจริงๆ

สำหรับเรื่องนี้ ตัวเอกมีความใฝ่ฝันอยากก้าวเข้าสู่วงการบอลลีวู้ด แต่ความฝันนั้นจะเพียงพอหรือไม่ และระหว่างทางต้องแลกมาด้วยอะไร นี่คือประเด็นที่ภาพยนตร์สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมการทำงานที่แท้จริงในวงการภาพยนตร์ ที่แม้แต่หนังอิสระทุนต่ำก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ภาพยนตร์ถ่ายทอดประสบการณ์การทำหนังอิสระแบบอินเดียได้อย่างสมจริง มีการใช้อุปกรณ์เรียบง่าย เช่น จักรยานเป็นอุปกรณ์ดอลลี่ วัวลากรถแทนรางเลื่อนกล้อง การระดมทุนสร้างหนังในเมืองยากจน ที่ต้องแลกมาด้วยการแทรกโฆษณาสินค้าท้องถิ่นลงไปในหนังโดยตรง ซึ่งกลายเป็นจุดขัดแย้งระหว่างเพื่อนนักแต่งกลอนตกอับที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนบทเพื่อพิสูจน์ตนเอง และเขาคือตัวละครที่ขัดแย้งกับนาซีร์ เชค ตลอดเรื่องด้วยอุดมการณ์ที่ต้องการสร้างหนังต้นฉบับ ไม่ใช่หนังล้อเลียนอย่างที่เพื่อนทำ ซึ่งภาพยนตร์ยังแทรกประเด็นเรื่องความฝันในการเข้าสู่วงการบอลลีวู้ดที่เต็มไปด้วยอุปสรรค และความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นที่เกี่ยวข้องโดยตรง แม้ตัวละครนี้จะยึดมั่นในวลีที่ว่า “นักเขียนคือพ่อ” มากเพียงใด แต่ความเป็นจริงก็มักไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

เนื้อเรื่องนำเสนอตัวละคร นาซีร์ เชค อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้วาดให้เป็นคนดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เผยให้เห็นพัฒนาการของเขาผ่านเส้นทางการสร้างภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ที่ต้องอาศัยเพื่อนๆ มาช่วยกัน แต่เขากลับเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับชื่อเสียงและผลตอบแทน จนกลายเป็นความขัดแย้งที่ทำให้ทุกอย่างเริ่มแย่ลง จนกระทั่งในที่สุดเขาสำนึกได้และกลับมาชดใช้ความผิดพลาดด้วยการสร้างหนังเรื่อง “Superman Of Malegaon” ซึ่งเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยได้ผสานความฝันของเพื่อนเขาไว้ในหนังเรื่องนี้ด้วย

ตัวจริงของผู้กำกับและนักแสดง

ตัวภาพยนตร์ยังให้ความสำคัญกับตัวละครหญิงผู้เป็นกำลังสำคัญ ทั้งภรรยาของผู้กำกับ รุ่นน้องที่แอบรักเขามาตลอดและมีการศึกษาสูงกว่า แต่ยินดีหาเงินมาสนับสนุนให้เขาสร้างหนังจนได้เป็นโปรดิวเซอร์ รวมถึงนางเอกประจำที่เขาไปพบบนเวทีงานเลี้ยงในเมือง ซึ่งกลายเป็นทั้งนักแสดงประจำและคู่รักของเพื่อนเขาในเรื่องสุดท้าย

แม้ภาพยนตร์จะถ่ายทอดเรื่องราวได้สมจริงตามเหตุการณ์จริง แต่ยังมีข้อบกพร่องในการนำเสนอช่วงเวลาที่ห่างกันเป็นสิบปี โดยที่ตัวละครแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยจนดูแล้วน่าขัดใจ และประเด็นช่วงท้ายเรื่องซึ่งเป็นจุดกำเนิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกนำเสนอออกมาสั้นเกินไป

น่าเศร้าที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จในโรงภาพยนตร์ ขาดทุนอย่างหนักจากต้นทุนเกือบ 80 ล้านบาท โดยทำรายได้ทั่วโลกเพียง 6 ล้านบาท แต่การที่ Amazon Prime นำมาฉายทั่วโลกอีกครั้ง ถือเป็นโอกาสที่สองบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น

สรุปแล้ว “Superboys Of Malegaon” คือจดหมายรักของคนทำหนังแบบเดียวกับ “Cinema Paradiso” ของอิตาลี หรือ “มนต์รักนักพากย์” ของไทย แต่มาในบริบทของวงการหนังอิสระอินเดีย สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มคนที่มีความฝันใหญ่อยากก้าวสู่บอลลีวู้ด แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์แต่กลับร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ผลงาน ผ่านบททดสอบของชื่อเสียง เงินทอง และมิตรภาพ โดยภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องจริงที่เป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างและดูรวบรัดในตอนท้าย แต่นี่คือภาพยนตร์ที่มีคุณค่าซึ่งคนรักหนังไม่ควรพลาด

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------