รีวิว The Four Seasons (Netflix) ซีรีส์รีเมคหนังเก่ามาขายผู้ชมสูงวัยได้เชยสุดๆ

The Four Seasons ร้อนหนาวที่เราผ่าน ซีรีส์ดราม่าเลิฟคอมเมดี้ 8 ตอนจบซีซั่นแรก นำเสนอเรื่องราวมิตรภาพอันยาวนานหลายทศวรรษระหว่างสามคู่สามีภรรยาที่ต้องเผชิญบททดสอบครั้งสำคัญ เมื่อหนึ่งในนั้นตัดสินใจหย่าร้าง ส่งผลให้ประเพณีการพักผ่อนร่วมกันทุกไตรมาสกลายเป็นเรื่องซับซ้อนโดยไม่คาดคิด

รีวิว The Four Seasons

ซีรีส์ Netflix เรื่องนี้รีเมคจากภาพยนตร์ปี 1981 แต่การปรับมาเป็นซีรีส์ไม่ประสบความสำเร็จนัก ด้วยเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างล้าสมัย เล่าถึงกลุ่มเพื่อนสามคู่ที่มีความแตกต่างกันแต่มีธรรมเนียมรวมตัวพักผ่อนร่วมกันทุกฤดูกาล ทุกครั้งที่พบกันมักเกิดความขัดแย้งและปัญหานานัปการ แม้ซีรีส์พยายามขยายเนื้อหาให้ลึกซึ้งขึ้นเพื่อให้ดำเนินเรื่องได้ยาวนาน แต่ทั้งหมดกลับเต็มไปด้วยความจำเจและการเล่าเรื่องที่แสนจะธรรมดา

เนื้อหาทั้ง 8 ตอนถูกแบ่งเป็นเรื่องราวตามฤดูกาลละ 2 ตอน ครบทั้ง 4 ฤดูตามชื่อเรื่อง โดยใช้ธีมของแต่ละฤดูมาเป็นตัวสะท้อนเหตุการณ์และอารมณ์ในช่วงนั้นๆ:

• ฤดูใบไม้ผลิ (2 ตอนแรก) เปิดเรื่องด้วยอารมณ์สดใส แนะนำตัวละครคู่รักทั้งหมดที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยจนปัจจุบันอายุ 50 กว่า ดูเหมือนทุกคู่จะไม่มีปัญหาชีวิตคู่ แต่กลับมีการเปิดเผยว่าคู่ที่ดูรักกันมากที่สุดตัดสินใจแยกทาง เมื่อฝ่ายชายไปมีคู่ใหม่ที่อายุน้อยกว่าถึงรุ่นลูก ตอนที่ 2 จบแบบห้วนๆ
• ฤดูร้อน (ตอน 3-4) เรื่องมูฟออนไปสู่การท่องเที่ยวครั้งใหม่โดยไม่ได้เล่าปัญหาของคู่แรกโดยตรง แต่ค่อยๆ เผยเรื่องราวย้อนหลัง ปัญหาจากคู่แรกกลายเป็นชนวนเหตุให้คู่อื่นๆ เริ่มมีความขัดแย้งตามมา
• ฤดูใบไม้ร่วง (ตอน 5-6) ทุกคู่เผชิญวิกฤตความสัมพันธ์จนถึงขั้นแยกทางกันหมด
• ฤดูหนาว (ตอน 7-8) บทสรุปเศร้าเมื่อหนึ่งในเพื่อนต้องเผชิญความตาย กลายเป็นงานศพที่แฝงความรักและความทรงจำ พร้อมทิ้งท้ายเพื่อต่อยอดซีซั่น 2

การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างราบเรียบ ไร้จุดพีคหรือมุมตลกที่โดดเด่น โครงเรื่องธรรมดาที่พยายามสื่อว่าความรักไม่มีความแน่นอน ทุกคู่ล้วนมีเหตุผลที่อาจนำไปสู่การแยกทาง แม้แต่คู่รักเพศเดียวกันก็เผชิญปัญหาไม่ต่างจากคู่รักทั่วไป อย่างปัญหาการห่วงใยมากเกินไปจนอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด

ข้อจำกัดสำคัญคือการปรับจากหนังมาเป็นซีรีส์ ทำให้กลายเป็นการรับชมเรื่องราวยาวนานถึง 4 ชั่วโมง แทนที่จะใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเหมือนภาพยนตร์ต้นฉบับ

นอกจากนี้ ตัวละครส่วนใหญ่เป็นวัย 50+ ทำให้เนื้อหาเต็มไปด้วยประเด็นชีวิตวัยกลางคนใกล้เกษียณ นักแสดงเป็นรุ่นใหญ่ที่ไม่ค่อยมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชม ซีรีส์พยายามแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มตัวละครคู่รักรุ่นใหม่ และในฤดูสุดท้าย มีการนำเพื่อนรุ่นเดียวกับตัวละครวัยรุ่นเข้ามา สร้างให้เห็นช่องว่างระหว่างวัยเมื่อกลุ่มตัวละครหลักสื่อสารด้วยมุกที่คนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจ ประเด็นนี้กลับน่าสนใจกว่าเนื้อหาหลักของเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อปัญหาความรักต่างวัยกลายเป็นปมที่นำไปสู่งานศพในฤดูสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่ซีรีส์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากเท่าที่ควร

โดยสรุป ซีรีส์ที่ปรับบทจากภาพยนตร์ปี 1981 มาเป็นซีรีส์ 8 ตอนด้วยเนื้อหาที่เชยมากจนดูล้าสมัย นำเสนอวิกฤตความรักของคนวัย 50+ ที่มีปัญหาแตกต่างกันแต่ก็ไม่มีความโดดเด่น การเล่าเรื่องเรียบสนิท ขาดความตลกและจุดพีคน่าติดตาม แม้พยายามเชื่อมโยงฤดูกาลกับอารมณ์ตัวละครแต่ก็ไม่ได้ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมได้เลย การตัดจบแต่ละฤดูทุก 2 ตอนอย่างกะทันหันทำให้เนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่อง ผู้ชมต้องปะติดปะต่อเองระหว่างช่วงเวลาที่หายไป คิดว่าเน็ตฟลิกซ์ต้องการเจาะกลุ่มผู้ชมสูงวัยที่เพิ่มจำนวนขึ้นถึงทำเรื่องนี้ออกมา แต่แม้แต่ผู้ชมกลุ่มนี้เองก็คงไม่ต้องการรับชมเนื้อหาจำเจและเชยขนาดนี้นักหรอกครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่