รีวิว Treadstone ซีรีส์เดือดระห่ำ แอ็กชั่นนอนสต็อปจัดเต็มกับฝูงสายลับระดับ “เจสัน บอร์น”

Treadstone เทรดสโตน เป็นเรื่องราวแต่งขึ้นมาใหม่แบบสปินออฟจากนิยายชุด “เจสัน บอร์น จากผู้เขียน รอเบิร์ต ลัดลัม” ที่คนดูหนังรู้จักกันจากภาพยนตร์เรื่องแรก “The Bourne Identity ล่าจารชน ยอดคนอันตราย” โดยอิงเค้าโครงองค์กรในเรื่องที่สร้างบอร์นขึ้นมาเป็นตัวสร้างสายลับในแบบเดียวกันกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมีการเล่าสองไทม์ไลน์อดีตกับปัจจุบันเป็นทั้งภาค Beginning กับช่วงเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบันคร่อมกับภาพยนตร์ แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องถึงตัวเจสัน บอร์น (ในตอนนี้) โดยตัวซีรีส์ฉายทางทีวีอเมริกาช่อง USA Network และ Amazon ได้สิทธิ์มาเป็นออริจินอลอยู่ในระบบต้นเดือนมกราคม 2020 มีทั้งหมด 10 ตอนจบซีซั่น 1 (ยังไม่ยืนยันซีซั่น 2 แต่คาดว่าทำต่อแน่นอน)

คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างซีรีส์ Treadstone (Amazon Prime Video)

เรื่องราวเปิดมาในช่วงสงครามเย็น เบอร์ลิน ตะวันออก ปี 1973 เป็นไทม์ไลน์อดีตจุดเริ่มต้นของโครงการเทรดสโตนที่ยังอยู่ในขั้นทดสอบของ KGB ซึ่งเป็นการสร้างสายลับให้ไม่มีจุดอ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งลบความทรงจำไว้รอปฏิบัติภารกิจ โดยตัวเอกที่อยู่ในไทม์ไลน์อดีตนี้เป็นสายลับอเมริกัน Bentley ที่พลาดท่าถูกจับมาทดลอง และหลบหนีออกไปได้ก่อนจะถึงขั้นตอนสุดท้ายของเทรดสโตน แต่แล้วเขากลับต้องกลายเป็นเหยื่อจากพวกเดียวกันเอง ที่กล่าวหาว่าเขาทรยศและอาจจะเป็นเครื่องมือแทรกซึมของ KGB มายัง CIA ของอเมริกา ทำให้ Bentley ต้องหาทางพิสูจน์ตัวเองโดยการกลับไปค้นหาความจริงของเทรดสโตนอีกครั้ง ในขณะเดียวกันโครงการเทรดสโตนก็ส่ง “สาวผมแดง” สายลับหญิงมือหนึ่งของ KGB มาตามล่าพาตัวเขากลับไป

ส่วนเรื่องราวไทม์ไลน์ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาการตื่นขึ้นของสายลับทั่วโลกจากโครงการเทรดสโตน โดยเป็นเวลาเดียวกับชนวนการเกิดสงครามครั้งใหม่ ที่เกิดขึ้นจากแผนการขององค์กรร้ายลึกลับที่เชื่อมโยงกับประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งสายลับที่ถูกปลุกขึ้นมามีภารกิจเกี่ยวข้องกับเรื่องราวตรงนี้ และก็กลายเป็นมือสังหารไปพร้อมกัน และก็ยังมีนักข่าวสาวผิวดำที่ได้รับภารกิจตามล่าหยุดยั้งองค์กรร้ายในเรื่อง โดยไม่ขึ้นกับใครรวมอยู่ด้วย

ซีรีส์เรื่องนี้ถ้าดูช่วงแรกจะงงๆ กับทิศทางของเรื่องที่มีทั้งอดีตกับปัจจุบันตัดสลับไปมา แถมยังมีตัวเอกเป็นสายลับหลายคน เรื่องราวก็เกิดข้ามโลกอยู่ในหลายประเทศ มีทั้งเกาหลีเหนือ จีน อินเดีย ฝรั่งเศส รัสเซีย และยังมีเปิดตามมาเรื่อยๆ ในภายหลังเพิ่มมาอีกเรือ่ยๆ จนพาให้คนดูงงมากว่าเมนหลักของเรื่องจริงๆ คือใครกันแน่? สรุปง่ายๆ เลยว่าเรื่องนี้ตัวเอกสายลับจากเทรดสโตนทุกคนเป็นตัวเอกหลักทั้งหมดครับ ไม่มีใครเป็นตัวละครสมทบ เพราะเรื่องราวของแต่ละคนมีน้ำหนักและความสำคัญกับเรื่องทั้งหมด โดยความสนุกของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเอกแต่ละคนมีปมกับปูมหลังให้เล่าแตกต่างกัน และก็มีความน่าเห็นใจรันทดกับชะตากรรมที่ตกเป็นเหยื่อเทรดสโตนไปคนละแบบ โดยฝ่ายตัวร้ายเป้าหมายหลักเรื่องนี้เลยก็คือ โครงการเทรดสโตนทั้งหมดทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ซึ่งไทม์ไลน์อดีตของ Bentley กับ KGB จะมีตัวละครสำคัญเชื่อมโยงมายังไทม์ไลน์ปัจจุบัน เป็นจุดที่ให้ทำให้น่าติดตามว่าใครในอดีตมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเทรดสโตนในปัจจุบัน และเกี่ยวพันยังไงกับองค์กรร้ายในเรื่องที่กำลังวางแผนกับเกาหลีเหนือเปิดชนวนสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมา
แม้ว่าเรื่องราวจะถูกแบ่งให้น้ำหนักกับหลายตัวเอก แต่ว่าก็ไม่ได้มีใครมีซีนหรือความสามารถด้อยกว่ากันเลย ในแง่ของฉากแอ็กชั่นต้องบอกว่าดุเดือดสมจริงมากทุกคนโดยที่แทบไม่ใช้สตันท์เลยเพราะโคลสอัพเน้นไปที่การต่อสู้ตัวๆ ถอดแบบมาจากบอร์นหนังโรงเลย กับการหยิบฉวยอะไรก็ได้มาเป็นอาวุธสังหาร พร้อมทั้งสกิลการเอาตัวรอดสูงในสถานการณ์ที่ดูเหมือนไร้ทางออก แต่ก็รอดมาได้ด้วยไหวพริบเฉพาะหน้า ทำให้เหมือนได้ดูหนังบอร์นหลายเวอร์ชั่นในเรื่องเดียว จากนักแสดงที่คัดมาแบบไม่โนเนม หลายคนเป็นดาราดังมีชื่อ อย่างสาวเกาหลีที่เซอร์ไพรส์สุดในเรื่องแล้วกับการได้ Hyo-joo Han นางเอกเกาหลีสายหนังรักโรแมนติกเป็นหลัก (The Beauty Inside / W: Two Worlds) และเธอก็พลิกบทบาทมาเล่นเรื่องนี้ได้อย่างไร้ที่ติ แถมฉากแอ็กชั่นที่เจอแต่ละอย่างหนักหนาสุดโหดมากในเรื่องกับการปะทะกับตัวร้ายชายโหดๆ เกือบทั้งหมด

ตัวซีรีส์เองก็เก็บรายละเอียดความสมจริงจากการต่อสู้ มีบาดแผลหลงเหลือไว้ในแต่ละฉากที่เดินหน้าไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกตัวละครสายลับเทรดสโตนมีฉากแอ็กชั่นไปในทำนองเดียวกันคือ การต่อสู้ตัวๆ แทบทั้งหมด ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เรียกว่าอัดกันยับทุกตอน ฉากการใช้ปืนก็มันส์ไม่ด้อยไปกว่ากัน มีหลายซีนนี่น้องๆ จอนห์วิคได้เลยกับความแม่นของสายลับเทรดสโตนที่ยิงจุดตายทุกนัด เพราะเป็นสายลับระดับพระกาฬทุกคน

ฝั่งตัวร้ายเองแม้จะเปิดหน้าออกมาชัดเจนว่าเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ แต่เรื่องก็ไม่ได้ดูแบนเป็นมิติเดียวแบบนั้น ตัวร้ายในเรื่องนี้มีหลายกลุ่ม และก็มีความซับซ้อนแบบที่คาดเดาได้ยาก แถมยังมีตัวแปรจาก KGB ในอดีตที่ยังอยู่ถึงปัจจุบันหลายตัว ทำให้เรื่องราวดูพัวพันกันหลายประเทศมาก แม้แต่อินเดียกับแอฟาริกาก็ถูกจับโยงเข้ามาในเรื่องด้วย ซึ่งไม่ได้ค่อยเห็นบ่อยนักในหนังสายลับตามปกติ

เรื่องนี้เดินหน้าแบบติดสปีดไปไวมากๆ เต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นเป็นระยะแทบไม่ทิ้งช่วงหายไปเลยจนจบ แถมยังเต็มไปด้วยการหักหลังหักมุมกันหลายชั้น แบบที่รับรองว่าแทบจะคาดเดาไม่ได้เลย และก็หักแบบค่อนข้างสมเหตุผล สนุกในแบบหนังสายลับหักเหลี่ยมจริงๆ ไม่ใช่หักแบบแถๆ ให้อะไรก็เป็นไปได้แบบบางเรื่อง โดยที่เส้นเรื่องหลักก็ยังอยู่ที่การโค่นเทรดสโตนของเหล่าสายลับทุกคนในเรื่องนี้ แต่แค่มีดีเทลกับจุดเกิดเรื่องตอนแรกแตกต่างกันไปเท่านั้น แต่อาจจะมีจุดด้อยอยู่ตรงที่เรื่องราวหลายตัวละครมากไปจนคนดูอาจจะตามไม่ทัน หรือไม่ปะติดปะต่อกันได้ดีเพราะต้องตัดสลับข้ามเรื่องกันอยู่ตลอดเวลา

แม้ว่าเรื่องราวจะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นเป็นหลัก แต่ก็ยังมีเรื่องราวดราม่ากับความรักแทรกอยู่ด้วย ซึ่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวกับประเด็นความทรงจำปลอม อดีตที่หายไปจากการล้างสมองของเทรดสโตน กลายเป็นว่าคนเหล่านี้สับสนว่าอะไรคือของจริงกันแน่ และความรักที่มีอยู่จะเดินหน้าต่อไปได้ยังไงในเมื่อตัวเองพึ่งรู้ตัวว่าไม่เคยมีตัวตนจริงๆ แบบที่เชื่อมาตลอด ซึ่งเรื่องราวดราม่าในส่วนนี้ทำให้ตัวละครน่าติดตามมากยิ่งขึ้นไปอีกกว่าแอ็กชั่นเพียวๆ จนแอบอินซึ้งๆ เศร้าๆ ได้เลย แม้นี่จะเป็นหนังแอ็กชั่นจัดเต็มก็ตามที

ซีรีส์จบปิดปมของเรื่องราวใหญ่ได้ทั้งหมดในซีซั่นแรก แต่ก็ยังค้างเรื่องราวที่ต้องมีคำอธิบายต่อไว้อยู่จำนวนหนึ่ง รวมถึงเปิดปมใหม่ขึ้นมาบางส่วน ดูจบอาจจะมีค้างบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดค้างเติ่งกลางทางอะไร แนะนำว่าถ้าชอบลีลาสายลับแอ็กชั่นแบบ เจสัน บอร์น ฉบับภาพยนตร์ ก็ดูเรื่องนี้ได้เลยเพราะถอดแบบกันมาหมด พร้อมทั้งฉากแอ็กชั่นไล่ล่าที่ใหญ่โตระดับภาพยนตร์สเกลใหญ่อยู่หลายฉากเหมือนกัน ถึงไม่ได้เนี๊ยบสุดแบบต้นฉบับ แต่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VDO คลิกที่นี่