รีวิว Death’s Game เกมท้าตาย (Prime) วนลูปสำรวจลึกถึงชีวิตและความตายได้อย่างน่าทึ่งมาก!

Death’s Game เกมท้าตาย ซีรีส์เกาหลี 8 ตอนจบ ของ amazon prime เรื่องราวของ ชเวอีแจ ชายหนุ่มที่ชีวิตเต็มไปด้วยความโชคร้ายแสนสาหัสจนเขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่เขากลับได้เจอโลกหลังความตายที่ต้องการให้เขาได้รู้รสชาติของความตายซ้ำอีก 12 ครั้ง โดยเป็นเหมือนเกมท้าทายให้เขาเอาชีวิตรอดให้ได้อีกครั้ง 

 

รีวิว Death’s Game เกมท้าตาย (ไม่มีสปอยล์)

ซีรีส์เกาหลีที่ดัดแปลงจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน กำกับและเขียนบทโดน Ha Byeong-hun จากผลงานกำกับซีรีส์ 18 Again, Go Back Couple และ The Sound of My Heart ลงฉายทางสตรีมมิ่งเกาหลี tving และ Prime Video พร้อมกัน ซึ่งการที่ไม่ได้เป็นละครทีวี 16 ตอนจบตามปกติ ทำให้เรื่องนี้มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากมาตรฐานมาก ตั้งแต่เวลาในแต่ละตอนที่สั้นยาวแตกต่างกันมาก 38 นาทีถึง 1 ชั่วโมงกว่า ซึ่งเวลาที่ไม่ฟิกแบบละครปกติทำให้บทสามารถเขียนยืดหยุ่นตามเนื้อหาจริงๆ ได้ไม่มีการยืดเรื่องหรือเดินเรื่องตามพล็อตสูตรสำเร็จใดๆ เลย ซึ่งเนื้อหาในเรื่องนี้ก็มีความแตกต่างจากเว็บตูนค่อนข้างมาก แม้โครงเรื่องเดียวกัน แต่ลำดับเรื่องแตกต่าง ตอนจบก็แตกต่าง และดัดแปลงมันออกมาได้ดีมากกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำครับ

สิ่งที่เรื่องนี้โดดเด่นมากคือ พล็อตไอเดียที่สดใหม่ เกี่ยวกับความตายซ้ำๆ แล้วเกิดใหม่วนไปเรื่อยๆ โดยมีตัวละครที่เป็นเหมือนยมฑูตให้โอกาสเขา 12 ครั้ง แต่มันกลับไม่ใช่พรวิเศษอย่างที่คิด เพราะมันคือการเล่าเรื่องความตายทั้ง 12 แบบของตัวละครแต่ละคนที่มีความทุกข์ยากลำบากและเต็มไปด้วยความทรมานจากหลายสิ่งที่ต้องเจอ ไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจนหรือร่ำรวยก็มีสิ่งนี้ติดตัวอยู่เสมอ โดยที่ตัวเอกต้องแบกรับปัญหาในชีวิตพวกเขาไว้ทั้งหมด แม้ว่าในช่วงแรกการได้เกิดใหม่อีกครั้งจะเหมือนได้รับพรวิเศษก็ตาม แต่ซีรีส์นำเสนอให้เห็นจุดจบของผลลัพธ์การกระทำที่พาไปสู่ความตายที่แตกต่างกันได้เสมอ โดยไม่เกี่ยงว่าต้องทำตัวเป็นคนดี คนชั่ว ฮีโร่ หรือแม้แต่ร่างทารกที่ไร้เดียงสาก็ยังต้องพบชะตากรรมแบบเดียวกัน ซึ่งนี่คือความตาย 12 แบบที่ซีรีส์เจาะลึกนำเสนอทุกแง่มุมให้คิดว่าคืออะไร และตัวเอกจะรอดจากเกมที่สุดบีบคั้นไร้ทางออกนี้ได้ยังไง นี่คือหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ที่พาผู้ชมให้ลุ้นกันได้ทุกตอน แม้จะรู้ว่าสุดท้ายต้องตายก็ตาม (เหมือนหนังไฟนอลเดสติเนชั่น)

ด้วยความตาย 12 แบบกับ 12 ร่าง ยังรวมดารามีชื่อเสียงมาเล่นเป็นตัวเอกทั้งหมด โดยชเวอีแจจะเป็นแค่ซัพพอร์ทบางฉากกับในโลกหลังความตายเท่านั้น ทำให้เนื้อเรื่องของแต่ละคนมีบทที่โดดเด่นแตกต่างกันไปหมด แม้บางคนอาจจะสั้น แต่ก็เป็นบทที่สำคัญ เหมือนหนังชีวิตสั้น 12 เรื่อง มีครบทุกแนว ดราม่า แอ็กชั่น สายลับ ตลก รัก สืบสวน ฆาตกรรม แฟนตาซี น่าจะเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่สามารถทำได้แบบนี้ด้วย โดยที่ทุกตัวละครยังมีความเชื่อมโยงกันตั้งแต่ความจำของตัวเอกที่ยังจดจำความสามารถและประสบการณ์ชีวิตของทุกคนไว้ได้ มีการนำความสามารถนั้นมาใช้ต่อเนื่องอัพเลเวลให้ตัวเองเก่งขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่  นอกจากนี้ยังมีเส้นเรื่องที่เชื่อมทุกคนเข้าด้วยกันได้อย่างคาดไม่ถึง เหมือนเป็นกงล้อชะตากรรมที่นำตัวละครทุกคนมาพบกันทางใดทางหนึ่ง ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ตัวเรื่องมีการเล่นครบทุกช่วงเวลา และยังสร้างเนื้อเรื่องเสริมให้มีบอสตัวร้ายสุดโหดที่ตัวเอกต้องปราบให้ได้ ภายใต้กฎของเกมที่ห้ามตัวเอกฆ่าตัวตาย ห้ามฆ่าคนอื่น ซึ่งซีรีส์เขียนบทได้รัดกุมมากแทบไร้ช่องโหว่ และสามารถนำทุกอย่างมาผสมกันได้อย่างลงตัว โดยที่เนื้อหาเสริมก็ไม่ได้ไปทำลายเส้นเรื่องหลักเกมความตาย 12 ครั้งแต่อย่างใดด้วย

งาน CG ของเรื่องนี้ก็โดดเด่น ตั้งแต่ฉากในนรกที่ทำได้น่ากลัว สยดสยอง เต็มไปด้วยฝูงคนบาปที่พร้อมฉุดกัดกินทุกคนที่ตกลงไป โดยมี Park So-dam นำแสดงในบทความตายที่คอยพูดเยาะเย้ยถากถางกับตัวเอก ซึ่งการตายทุกครั้งจะกลับมาเจอกัน และก็มีบทที่พัฒนาให้เห็นว่าตัวเอกเติบโตขึ้นทางจิตใจเพื่อมาต่อสู้กับตัวละครความตายนี้ได้อย่างไร ในฉากที่เป็นห้องก่อนเข้าประตูนรกที่เป็นบทลงโทษสุดท้ายของเรื่อง นอกจากนี้ยังมีฉากการตายแต่ละครั้งที่น่าทึ่งอย่างฉากติดในเครื่องบินตก ฉากดิ่งพสุธาแบบไม่มีร่มชูชีพ ฉากแอ็กชั่นไลล่าเว่อร์ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ทั้งสตันท์และ CG ร่วมกันได้อย่างลงตัว 

 

สรุป นี่เป็นซีรีส์เกาหลีฟอร์มยักษ์ที่ทุ่มทุนรวมดารามากที่สุด ด้วยไอเดียเนื้อเรื่องที่สดใหม่แปลกแตกต่างไปจากซีรีส์เกาหลีตามปกติ ด้วยการเล่าเรื่องการตาย 12 ครั้ง เหมือนหนังไฟนอลเดสติเนชั่นที่มีหลายแนวรวมอยู่ในเรื่องเดียว ดราม่า แอ็กชั่น สายลับ ตลก รัก สืบสวน ฆาตกรรม แฟนตาซี เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่สามารถทำได้แบบนี้และทำมันออกได้ลงตัวทั้ง 8 ตอน ไม่มียืด ไม่มีออกทะเล ไม่ติดกับดักแนวทางสูตรสำเร็จเกาหลีเดิมๆ ทุกตอนเต็มไปด้วยความแปลกใหม่ จัดจ้านด้วยการตัดกันทางอารมณ์หลากหลายที่ซีรีส์นำมารวมไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี และยังสำรวจเรื่องความตายในเชิงลึกหลายแง่มุมได้อย่างน่าชื่นชม ซึ่งซีรีส์สามารถจบเรื่องได้ดีมาก และยังดัดแปลงได้แตกต่างจากต้นฉบับเว็บตูนจนเหนือกว่าไปอีกขั้น แนะนำเลยว่าห้ามพลาดครับ!

 

including other English reviews