playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Last Bullet 3 (Netflix) “กระสุนนัดสุดท้าย จุดจบอันสะใจของการล่าแค้นที่ยาวนาน”

Last Bullet

Summary

ภาพยนตร์แอ็กชั่นไตรภาคของ Netflix ที่ดีขึ้นกว่าสองภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ด้วยฉากแอ็กชั่นที่กระหน่ำตลอดทั้งเรื่องแทบไม่ให้หายใจ ทั้งฉากไล่ล่าด้วยรถยนต์ แอ็กชั่นประชิดตัว และรถดัดแปลงพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ประจำซีรีส์ ซึ่งภาคนี้ได้นำรถลากมาต่อกรกับเฮลิคอปเตอร์อย่างสร้างสรรค์ แต่ยังคงความสมจริงไม่หลุดเกินไป และถ่ายทำด้วยฉากจริงทั้งหมด นอกจากนี้ บทภาพยนตร์ยังสามารถเล่าที่มาของจุดกำเนิดภาคแรกและคลี่คลายปมต่างๆ ที่ค้างคาไว้ได้อย่างครบถ้วนและลงตัว เป็นผลงานที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง และยังเหมาะแก่การกลับไปชมซ้ำทั้งสามภาคต่อเนื่องกันอีกด้วยครับ

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ฉากแอ็กชั่นสมจริง ถ่ายทำด้วยฉากจริงทั้งหมด
  • บทภาพยนตร์เข้มข้น คลี่คลายปมและเชื่อมโยงทั้งสามภาคได้อย่างสมบูรณ์
  • การพัฒนาตัวละครมีมิติ โดยเฉพาะลีโนและอเรสกี้ที่มีความลึกซึ้งมากขึ้น
  • มีการพลิกเรื่องที่น่าประหลาดใจแต่สมเหตุสมผล
  • รถดัดแปลงพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ยังคงน่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์

Cons

  • เนื้อเรื่องบางช่วงอาจเร็วเกินไปสำหรับผู้ชมที่จำภาคก่อนไม่ได้

ADBRO

Last Bullet 3 แรงทะลุกระสุน 3 ภาพยนตร์ไตรภาค Original Netflix แนวแอ็กชั่นจากฝรั่งเศส มีพากย์ไทย เรื่องราวปิดฉากของลีโนผู้ไล่ล่าตำรวจทรยศอเรสกี้ โดยมีเรสซ์ ผู้การ ปปส. เป็นเงาดำเบื้องหลัง
Last Bullet (2025) on IMDb

รีวิว Last Bullet 3 (ไม่มีสปอยล์)

ถือเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นไตรภาคเรื่องแรกของ Netflix ที่ไม่เพียงรักษามาตรฐานความระห่ำและความเข้มข้น แต่ยังสานต่อและปิดเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่หาได้ยากสำหรับภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (ลองดูอย่างแฟรนไชส์ Fast & Furious ที่ยิ่งทำก็ยิ่งเละเทะ) ความสำเร็จนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ Guillaume Pierret ผู้กำกับและเขียนบท ที่นำทีมงานชุดเดิมมาสร้างสรรค์ผลงานต่อเนื่องได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการผสานฉากแอ็กชั่นสุดมันส์เข้ากับบทภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง ถึงแม้สองภาคที่ผ่านมาจะจัดว่าเป็นหนังดี แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยมเพราะเรื่องราวถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ภาคนี้แม้จะไม่มีเลข 3 กำกับ แต่การเปลี่ยนคำว่า “Lost” เป็น “Last” บ่งบอกถึงการปิดฉากอย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องราวก็จัดเต็มส่งท้ายปิดบัญชีวงการตำรวจทรยศได้อย่างสะใจผู้ชมอย่างแท้จริง

ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของภาค 2 โดยเล่าผ่านไป 3 เดือนหลังจากมีการแลกตัวนักโทษ ลีโนได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาเพียงเพื่อกำจัดพยานตำรวจอีกฝ่ายที่รู้ความลับของเรสซ์ ผู้การ ปปส. ตัวการใหญ่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด และเป็นคนที่อเรสกี้ทรยศ จนต้องหลบหนีการตามล่า รวมถึงลีโนที่ไม่เคยหยุดตามหาเขา เรื่องเริ่มต้นด้วยลีโนที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังกับการล่าแค้น ไม่คิดจะตามหาอเรสกี้อีกต่อไป เขาเพียงต้องการกลับไปอยู่กับจูเลียเท่านั้น ในขณะเดียวกัน อเรสกี้กำลังรับงานเกี่ยวกับยาเสพติดและถูกสั่งเก็บจนต้องหลบหนีกลับมาฝรั่งเศสเพื่อพาภรรยาและลูกหนีไป โดยที่ไม่คาดคิดว่าเส้นทางของเขาจะมาบรรจบกับลีโน

จากจุดนั้น ฉากแอ็กชั่นสุดเข้มข้นก็เริ่มต้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการไล่ล่าที่เริ่มจากถนน ไปต่อบนรถราง มีฉากต่อสู้สามคนที่ดุเดือด ตามด้วยการขับรถไล่ล่ากันในเมืองท่ามกลางผู้คนมากมาย หลังจากพักหายใจเพียงสั้นๆ เรื่องราวก็ดำเนินเข้าสู่ช่วงท้ายที่ลีโนต้องออกแบบรถติดอุปกรณ์พิเศษตามเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ คราวนี้เขาใช้รถลากติดเครื่องยิงพลุราวกับปืนใหญ่ พร้อมอาวุธพิเศษที่ซ่อนไว้ ฉากไล่ล่าช่วงท้ายบนท้องถนนที่ต้องเผชิญกับเฮลิคอปเตอร์ รถบรรทุกพ่วง รถตำรวจ และรถหุ้มเกราะ ถูกนำเสนอด้วยฉากแอ็กชั่นที่สมจริง ไม่หลุดโลกแบบ Fast & Furious และใช้การถ่ายทำของจริงทั้งหมด ส่งผลให้ฉากแอ็กชั่นมีความสมจริง ดูดี ยกระดับคุณภาพหนังสตรีมมิ่งของ Netflix ขึ้นมาได้เทียบเท่ากับ EXTRACTION เรียกได้ว่าทั้งสองเรื่องนี้มีคุณภาพระดับภาพยนตร์ในโรงเลยทีเดียว

สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่าคือบทภาพยนตร์ที่วางจังหวะเรื่องราวได้อย่างลงตัว จนผู้ชมพร้อมเชื่อกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงวันเดียว ภาพยนตร์สามารถคลี่คลายปมที่ค้างคาและเฉลยทุกอย่างได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของภาคแรกว่าทำไมอเรสกี้ถึงทรยศ เมื่อเรื่องย้อนไปเผยอดีตให้เห็นถึงความฉลาดของตัวละครนี้ในฐานะนกสองหัวระดับสุดยอดของวงการตำรวจ ภาพยนตร์ก็เล่าเรื่องชีวิตช่วงท้ายของเขาทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าเขาก็ทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนต้องกลับมาฝรั่งเศสและนำมาสู่จุดที่เขาทรยศลีโนในภาคแรก แม้เป็นฉากสั้นๆ แต่มันทำให้เรื่องราวทั้งหมดกระจ่าง และพาให้เนื้อเรื่องในภาคนี้ดำเนินไปอย่างหนักแน่น ช่วงแรกเป็นฉากแอ็กชั่นของอเรสกี้โดยเฉพาะ ทำให้เห็นว่าทำไมตลอดสองภาคที่ผ่านมา ตำรวจถึงยังตามจับเขาไม่ได้ ด้วยความฉลาดในการวางแผนและแก้สถานการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแยบยล

ภาพยนตร์ยังเคลียร์เรื่องราวของลีโนที่ยอมติดคุกแทนจูเลียในภาคก่อน มาถึงภาคนี้ แม้เขายังคงมีไฟแค้นอยู่เช่นเดิม แต่ก็ได้บทเรียนและเติบโตขึ้น จนเข้าใจว่าไม่สามารถล้างแค้นด้วยวิธีการเดิมได้อีกต่อไป ทำให้ลีโนดูฉลาดควบคู่ไปกับความบ้าบิ่นอย่างอันตรายมากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์นำตัวละครรอบข้างลีโนจากภาคก่อนกลับมาครบถ้วน รวมถึงตัวร้ายอย่างเรสซ์ ยูริตำรวจมือขวาที่พร้อมรับใช้อย่างจงรักภักดี โคลที่ปรึกษาของเรสซ์ และมอสหัวหน้าตำรวจหญิงที่ทำคดีผิดพลาดในภาคก่อน บทภาพยนตร์เขียนเรื่องราวของทุกตัวละครให้สัมพันธ์กันอย่างซับซ้อนและลึกลับ ซึ่งจุดนี้ถูกนำมาใช้ในการพลิกเรื่องได้ถึงสามครั้งในช่วงท้าย ทำให้ผู้ชมคาดไม่ถึง แต่ก็สมเหตุสมผลและช่วยให้เรื่องราวจบลงอย่างเคลียร์ทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สรุปโดยรวม Last Bullet” คือภาพยนตร์แอ็กชั่นไตรภาคของ Netflix ที่ดีขึ้นกว่าสองภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ด้วยฉากแอ็กชั่นที่กระหน่ำตลอดทั้งเรื่องแทบไม่ให้หายใจ ทั้งฉากไล่ล่าด้วยรถยนต์ แอ็กชั่นประชิดตัว และรถดัดแปลงพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ประจำซีรีส์ ซึ่งภาคนี้ได้นำรถลากมาต่อกรกับเฮลิคอปเตอร์อย่างสร้างสรรค์ แต่ยังคงความสมจริงไม่หลุดเกินไป และถ่ายทำด้วยฉากจริงทั้งหมด นอกจากนี้ บทภาพยนตร์ยังสามารถเล่าที่มาของจุดกำเนิดภาคแรกและคลี่คลายปมต่างๆ ที่ค้างคาไว้ได้อย่างครบถ้วนและลงตัว เป็นผลงานที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง และยังเหมาะแก่การกลับไปชมซ้ำทั้งสามภาคต่อเนื่องกันอีกด้วยครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------