รีวิว Night Always Comes (Netflix) ได้แค่เอา “วาเนสซา เคอร์บี” มาขายในบทที่ดูโง่เกินจริงไปหน่อย

“Night Always Comes” คืนวันอันตราย ภาพยนตร์ Original Netflix แนวดราม่าอาชญากรรม เรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องพยายามหาเงิน 25,000 ดอลลาร์ เพื่อมัดจำซื้อบ้านให้ได้ภายในเวลาคืนนั้นเพื่อครอบครัว เธอจึงข้ามเส้นไปก่อาชญากรรมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

รีวิว Night Always Comes (มีสปอยล์บางส่วน)

หนังเรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายปี 2021 เรื่อง “The Night Always Comes” ของวิลลี่ วลอติน โดยมีวาเนสซา เคอร์บี นักแสดงนำดาวรุ่งตอนนี้จากหนัง F4 เวอร์ชั่นใหม่มาเป็นตัวเอกที่ชื่อ ลิเน็ตต์ พร้อมกับ Zack Gottsagen นักแสดงที่เป็นดาวน์ซินโดรมจริง โดยมาจากหนังขวัญใจมหาชนเรื่อง The Peanut Butter Falcon (อ่านรีวิวได้ที่นี่ https://www.playinone.com/folkplay/the-peanut-butter-falcon-review/ ) เขามาเล่นเป็นพี่ชายที่เธอต้องพยายามดูแลไปตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ก่ออาชญากรรมในคืนนั้นไปด้วย 

หนังทำให้เห็นว่าลิเน็ตต์ในตอนแรกก็เป็นคนธรรมดาทำงานในโรงงานขนมปัง เลิกงานก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ โดยเธอต้องพาพี่ชายไปด้วยเสมอ แต่การที่แม่ผิดสัญญาเอาเงินมัดจำบ้านไปซื้อรถในวันที่เกิดเรื่องก็ทำเธอเริ่มสติแตก ดิ้นรนหาเงินทุกวิถีทางที่เธอคิดได้วิถีทางตามปกติ แต่สุดท้ายก็หมดทางและเริ่มหันก่ออาชญากรรมจากเล็กๆ ไปจนใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนังก็สะท้อนให้เห็นปัญหาของคดีอาชญากรรมดีว่าจริงๆ แล้วถ้าสังคมมีทางออกให้เธอบ้างสักนิด คนปกติธรรมดาก็คงไม่มีใครอยากทำแบบนี้ เรื่องราวของลิเน็ตต์ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาลึกๆ ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ก็มาจากความผิดพลาดในอดีตที่เธอตัดสินใจพลาดเองในช่วงวัยรุ่นด้วย ซึ่งระหว่างทางที่เดินเรื่องไปหนังก็ค่อยๆ พาผู้ชมไปรู้จักกับอดีตของเธอ ผ่านตัวละครในแวดวงอาชญากรรมที่เธอเคยอยู่ด้วย โดยเป็นทั้งเหยื่อและคนรู้จัก แต่ในตอนนี้คือพวกเขาคือตัวช่วยที่เธอคิดว่าจะร่วมมือกันเพื่อหาเงินด่วนให้ได้ ซึ่งเรื่องก็ทำให้เห็นว่ากับคนเหล่านี้ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย การร่วมมือกับพวกนี้ก็เป็นการเล่าย้อนอดีตชีวิตของเธอโดยไม่มีภาพแฟลชแบ็คกลับไปตรงๆ แต่เป็นการเล่าแบบอ้อมๆ ให้ผู้ชมพยายามทำความเข้าใจเอง ซึ่งก็ดีในมุมของคนดูที่ชอบขบคิด แต่กับผู้ชมทั่วไปก็ทำให้หนังดูเข้าใจยากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวตนในอดีตของเธอ แม้แต่เรื่องบ้านที่เป็นปัญหา ตัวหนังก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดลึกๆ ออกมาตรงๆ แต่ใช้บทสนทนาตอนท้ายเรื่องของเธอกับแม่มาตอบแทน ซึ่งเป็นตอนจบที่เรียบง่ายทำให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วตัวเธอเองนั่นแหละที่เป็นปัญหากับครอบครัวมาตลอด เรียกว่าสะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งของปัญหาครอบครัวออกมาได้ดีเลย

ถึงหนังจะมีโครงเรื่องที่สะท้อนปัญหาสังคมกับการเริ่มก่ออาชญากรรมได้ค่อนข้างดีเลย แต่ว่าสิ่งที่หนังดูมีปัญหามากจริงๆ คือการกระทำต่างๆ ของลิเน็ตต์ในเรื่องดูไม่สมเหตุผลมากเกินไป จนดูแล้วเป็นตัวละครที่ตั้งใจทำให้โง่จนเกินขอบเขตรับได้ อย่างการเอาตู้เซฟไปให้โจรช่วยกันงัด แต่บอกโจรว่าจะต้องเอาไปคืนในสภาพที่ไม่เสียหาย แล้วหนังก็พยายามเล่นเรื่องนี้ซ้ำๆ เหมือนจะชี้นำให้เห็นว่าลิเน็ตต์เธอมันโง่ ในขณะที่อาชญากรก็พยายามหลอกใช้เธอซ้อนไปอีก ซึ่งก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ในเรื่องหนังขาดความสมเหตุผลในการก่ออาชญากรรมมากเกินไปซะจนดูแล้วหงุดหงิดสุดๆ แม้จะพยายามคิดว่าถ้าเป็นคนจริงๆ จนตรอกก็อาจจะไม่มีสติแบบนี้ได้ก็ยังรู้สึกว่ามันถูกเล่าออกมาแบบไม่มีชั้นเชิงให้รู้สึกอยากเอาใจช่วยเธอเลย ออกแนวดูไปสมเพชไปว่าทำไมต้องให้นักแสดงดาวรุ่งอย่าง วาเนสซา เคอร์บี ต้องมารับบทแบบนี้ด้วย

อีกอย่างเลยที่ดูขัดแย้งกับความจริงสุดๆ ก็คือรูปร่างหน้าตาของ วาเนสซา เคอร์บี ที่เธอดูดีมาก แต่ในเรื่องนี้พยายามทำให้เธอดูธรรมดาสมบทบาทที่สุด แต่มันก็ไม่สามารถกลบความสวยมีเสน่ห์ของเธอได้เลย ได้แค่ลดทอนลงไป ซึ่งในเรื่องนี้เธอก็มีอาชีพเสริมขายตัวอยู่แล้วเพียงแต่มันยังไม่พอ หนังสร้างเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาในช่วงท้ายที่เป็นตัวตัดสินว่าจะยอมขายตัวอีกรอบแลกกับเงินก้อนสุดท้ายไหม แต่กลับทำให้เธออยู่ๆ ก็มีสติคิดได้ขึ้นมาว่าเงินซื้อฉันไม่ได้หรอก ทั้งๆ ที่เธอก่ออาชญากรรมใหญ่โตมามากกว่านั้นเยอะกลับไม่คิด แถมยังเชื่อว่าเป็นทางที่เธอเลือกเองได้และเป็นผู้ชนะ ซึ่งบทหนังที่ขัดแย้งกับการกระทำมาตลอดทั้งเรื่องมันเลยกลายเป็นสร้างความงี่เง่าให้เธอมากขึ้นไปอีก แทนที่จะรู้สึกเข้าใจว่าเธอหันมาคิดได้กลับจะกลายเป็นตรงข้ามกันเลยครับ
ส่วน Zack Gottsagen เขาก็ได้บทตรงตามสิ่งที่เขาเป็น แต่กลับไม่ให้อารมณ์เหมือนจริงแบบเรื่อง The Peanut Butter Falcon สักเท่าไหร่ เพราะบทในเรื่องนี้เขาแทบจะถูกชี้นำโดยน้องสาวตลอด เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็แสดงอารมณ์แบบคนเป็นดาวน์ซินโดรมให้น้องมาปลอบ จากนั้นก็วนลูปเป็นแบบนี้ตลอด มันเลยกลายเป็นบทที่แค่จะเอานักแสดงที่มีความบกพร่องจริงๆ มาใช้ให้ดูสมจริง แต่มันไม่ได้ทำให้เห็นปัญหาพฤติกรรมจริงๆ ที่คนเป็นดาวน์ซินโดรมมีอะไรมากกว่านั้น แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันเท่าไหร่ด้วย ไม่มีฉากรีดดราม่าซึ่งๆ สะเทือนใจระหว่างสองคนนี้ให้เห็นเลย ซึ่งผู้ชมที่ดูก็คงคาดหวังไว้เหมือนกันครับ

สรุป

หนังได้ วาเนสซา เคอร์บี นักแสดงดังตอนนี้มาขาย โดยมีโครงเรื่องที่ดีในแง่ของการสะท้อนปัญหาสังคม จากคนปกติในสังคม อยู่ๆ ภายในคืนเดียวหันมาก่ออาชญากรรมได้ยังไง โดยมีการเล่าอดีตเรื่องราวของเธอผ่านการก่อคดีที่ผิดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เห็นต้นตอปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ได้ทั้งหมด แต่ทว่าหนังมีปัญหากับบทที่ทำให้การกระทำของนางเอกดูไม่สมเหตุผลหนักมาก จนถึงขั้น “โคตรจะงี่เง่า” จนเกินไปจริงๆ แม้จะคิดในมุมของคนจนตรอกก็ยังดูเป็นความไม่สมประกอบของบทที่ขาดชั้นเชิงในการคิดเรื่องราวตรงนี้ให้ดีสอดคล้องไปกับการกระทำมากกว่า อีกทั้งความพยายามทำให้เธอดูธรรมดา แต่หน้าตาความสวยของนักแสดงมันเกินธรรมดาไปมาก ก็กลายเป็นจุดที่ทำให้ต้องกังขากับเรื่องเงินที่เป็นปัญหาใหญ่ในเรื่องด้วย และตัวนักแสดง Zack Gottsagen จากหนัง The Peanut Butter Falcon ที่เป็นดาวน์ซินโดรมจริง ในบทพี่ชายที่เธอต้องคอยดูแลทั้งเรื่อง ก็ถูกเอามาใส่ไว้ให้ดูไร้ค่า ได้แค่หวังความสมจริงจากนักแสดงมากกว่าจะสร้างเรื่องราวดราม่าความสัมพันธ์ที่ดีในแบบที่หนังแนวนี้ควรจะเป็น ซึ่งบอกเลยว่าน่าผิดหวังมากกับการที่ได้เห็นเขาอีกรอบในบทหนังแบบนี้ครับ โดยรวมผ่านได้เลย แต่ถ้าต้องการดู วาเนสซา เคอร์บี ก็ยังถือว่าโอเคพอดูได้เพราะเธอก็ยังมีดีทั้งหน้าตาและการแสดงที่ช่วยลากให้ดูจนจบได้พอไหวอยู่ครับ