รีวิว Wednesday SS2 คงเอกลักษณ์เดิมและเพิ่มน้องสตอกเกอร์ที่น่ารักสุดๆ

Wednesday SS2 ซีรีส์ Original Netflix 8 ตอนจบ เรื่องราวการกลับเข้ามาเรียนใหม่ในเนเวอร์มอร์ เวนส์เดย์ต้องพยายามหาหนทางที่จะป้องกันคำพยากรณ์จากนิมิตรของตนเองเพื่อช่วยชีวิตอีนิด และตัดสินใจรื้อฟื้นอดีตอันเลวร้ายของตระกูลที่มีความเกี่ยวพันโดยตรงกับไทเลอร์

รีวิวซีซันแรก https://www.playinone.com/folkplay/wednesday-review-netflix/

รีวิว Wednesday SS2 (มีสปอยช่วง 2 ตอนแรก)

ซีซั่น 2 ที่ยังคงทุกอย่างได้เหมือนเดิมจริงๆ เพราะทุกอย่างก็ยังอยู่ในมือของทิมเบอร์ตันทั้งหมด ซึ่งเรื่องราวในภาคนี้ก็คือถูกวางไว้แต่แรกแล้วว่าเป็นการกลับมาสืบคดีในโรงเรียนเนเวอร์มอร์ต่อ โดยตอนจบของซีซั่นแรกก็ทิ้งท้ายไว้แล้วว่ามีตัวละครลับที่คอยจับตาดูเวนส์เดย์อยู่ และก็น่าจะเป็นเนื้อหาตัวร้ายหลักในภาคนี้ 

แต่สิ่งที่ผิดคาดคือตัวละครนี้กลับถูกเฉลยตั้งแต่ตอน 2 ของซีซั่นนี้ว่าคือ แฟนคลับเวนส์เดย์ที่เป็นสตอกเกอร์ล่องหนได้ที่ชื่อว่า แอ็กเนส (แสดงโดย Evie Templeton) ซึ่งนี่คือสิ่งดีงามมากที่สุดของซีซั่นนี้แล้ว ด้วยคาแรกเตอร์นิสัยท่าทางโรคจิตแบบสตอกเกอร์สุดๆ แต่ก็น่ารักเเมื่อทุกอย่างที่เธอทำไปก็เพื่อต้องการให้เวนส์เดย์ยอมรับเป็นเพื่อนกับเธอให้ได้ ซึ่งภาคก่อนอีนิดน้องหมาป่าว่าดีแล้วตรงที่คัดเลือกนักแสดงมาได้น่ารัก แต่ก็ยังดูเป็นเด็กสาววัยรุ่นสดใสธรรมดา แค่มันคอนทราสตัดกับเวนส์เดย์ทำให้ดูโดดเด่น แต่แอ็กเนสคือตัวละครแนวโกธิคมืดๆ จิตป่วนตามแบบฉบับของเรื่องนี้เลย โดยที่ยังคงคาแรกเตอร์สาวน้อยน่ารักไว้ด้วย มันเลยทำให้มีลูกเล่นกวนๆ มากมายในการปรากฏตัวออกมาแต่ละฉาก แล้วบทเด่นหลักของเธอก็คือผู้ช่วยมือหนึ่งที่ใช้ความสามารถล่องหนมาช่วยเวนส์เดย์สืบสวน ซึ่งแทบจะเป็นตัวละครผู้ช่วยหลักของซีซั่นนี้ไปแล้ว โดยที่อีนิดถูกเปลี่ยนบทบาทกลายเป็นนางเอกของเรื่องที่ต้องให้เวนส์เดย์ช่วย เพราะเธอเห็นนิมิตรว่าอีนิดต้องตาย ทำให้เธอตั้งใจช่วยอีนิดโดยปกปิดภารกิจนี้ไว้ อีนิดก็เลยเหลือบทบาทเพียงแค่คนนอกการสืบสวนมากกว่า แต่ก็มีการเพิ่มปัญหาส่วนตัวของเธอไว้อย่างปัญหาความรักแฟนเก่ากับแฟนใหม่ที่เป็นสไตล์วัยรุ่นว้าวุ่นมากๆ และก็ทิ้งท้ายไว้เรื่องปัญหาการแปลงร่างช้าของอีนิดที่มีมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ซึ่งซีรีส์ก็ค่อยๆ วางเรื่องปัญหานี้ปูทางไว้ไปต่อซีซั่น 3 ในตอนท้ายเลย และเรื่องราวที่ไปต่อก็จะไม่ใช่การจบการศึกษาแต่ละชั้นปีเหมือนแฮรี่พอร์ตเตอร์ด้วยครับ ซึ่งก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วเพราะการปูโลกของเรื่องนี้มา 2 ซีซั่นเต็มก็ทำให้มีพื้นที่ในการสร้างเรื่องราวได้อิสระมากกว่าจะถูกจำกัดแค่อยู่ในโรงเรียนเท่านั้น (จะมีเรื่องราวในโรงเรียนกลับมาก็ยังทำได้อยู่)

สิ่งที่ดีอีกอย่างคือซีซั่นนี้ได้หันกลับมาเฉลยเรื่องราวของตระกูลอดัมเองโดยตรง โดยให้บทพ่อแม่กับน้องชายมาร่วมในภาคนี้เต็มที่ โดยแม่ได้มาเป็นประธานการจัดงานเลี้ยงกาล่าของโรงเรียน น้องชายก็มาเข้าเรียนเช่นกัน และก็เป็นอีกตัวละครหลักที่บทบาทแบบโรคจิตซื่อๆ กับซอมบี้ที่เขาไปเจอโดยบังเอิญแล้วนำมาเลี้ยงไว้ ซึ่งเนื้อเรื่องในภาคนี้คือ การสืบคดีปริศนาที่มีคนตายเรื่อยๆ โดยที่ทุกอย่างถูกบ่งชี้ว่ากลับมาเกี่ยวของกับตระกูลอดัม และก็ผูกเข้ากับต้นกำนิดพ่อแม่ในช่วงวัยรุ่นที่เรียนอยู่ที่นี่เช่นกัน โดยมีพวกปริศนาในอดีตมากมายมาเกี่ยวข้องอย่าง ผอ.โรงเรียนที่ตายไปเป็นวิญญาณก็ต้องกลับมา เรื่องของธิงมือประจำตระกูลที่จำตัวเองว่ามาจากไหน และก็เชื่อมโยงไปยังไทเลอร์ที่เป็นไฮด์ มอนสเตอร์ตัวร้ายของซีซั่นแรก ซึ่งในภาคนี้ได้เอาเขากลับมาเป็น 1 ในตัวร้ายหลายตัวที่ภาคนี้มีเยอะมาก (เกิน 5 ตัว) โดยที่เนื้อเรื่องก็แบ่งบทให้ตัวร้ายแต่ละตัวได้มีช่วงเวลาของตัวเองเยอะแล้วก็จบบทบาทในแต่ละช่วงเชื่อมโยงต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมดของตระกูลอดัมด้วย ซึ่งบทถูกเขียนออกมาดีมาก แต่ก็ยังไม่ได้ปิดจบเรื่องราวไปทั้งหมด ยังมีตัวร้ายจากซีซั่นนี้ทิ้งไปต่อภาคต่อไปอีก ซึ่งทางทิมเบอร์ตันน่าจะวางเรื่องไว้ยาวแล้วถึงทิ้งเรื่องราวบางอย่างคาไว้เพื่อไปต่อให้เห็นอย่างชัดเจนครับ

สรุป

ซีรีส์ยังคงธีมเอกลักษณ์โกธิคแฟนตาซีที่เวนส์เดย์จิกกัดทุกอย่างได้อย่างแสบสันต์เหมือนเดิมเป๊ะๆ โดยมีตัวละครใหม่  แอ็กเนส สตอกเกอร์โรคจิตของเวนส์เดย์ที่ทำออกมาได้น่ารักสุดๆ เป็นขวัญใจผู้ชมในซีซั่นนี้เหมือนน้องหมาป่าเลย โดยเนื้อเรื่องหลักคือการคลี่คลายความลับในอดีตของตระกูลอดัมออกมามากมาย มีตัวร้ายหลักหลายตัวมากเชื่อมต่อเนื้อเรื่องกันได้เป็นอย่างดี และก็วางเรื่องเตรียมไปต่อในซีซั่น 3 กันได้อีก โดยที่ไม่ใช่การเข้าเรียนเทอมใหม่อีกแล้ว เป็นการขยายโลกออกไป ซึ่งเรื่องราวก็พร้อมไปต่อแบบน่าติดตามมากครับ  

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่