playinone.com
รีวิวหนัง ซีรีส์ Netflix HBO Prime Disney+ Apple TV+ สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Plot Against America (HBO)โลกคู่ขนาน เมื่อสหรัฐถูกยำใหม่ให้เป็นฟาสซิสต์

สรุป

ซีรีส์แนวยำประวัติศาสตร์จากนิยายของ ฟิลิปป์ รอธ ในโลกคู่ขนานที่สหรัฐกลายเป็นฟาสซิสต์ เมื่อชาร์ล ลินเบิร์ก ได้รับเลือกเป็นผู้แทนพรรครีพับรีกัน ชนะแฟรงคลิน ดี รูสเวท์ สงบศึกกับฮิตเลอร์และนาซี ส่งผลกระทบถึงครอบครัวชาวยิว พล็อตและเนื้อหาดี แต่เดินเรื่องช้า มีปัญหาเรื่องความสนุก

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เป็นซีรีส์ที่จิกกัดสังคมอเมริกันชนิดลงลึก งัดเอาความคิดเหยียดชาติพันธุ์สุดโต่งออกมาตีแผ่
  • เป็นซีรีส์ที่สะท้อนมุมมองของครอบครัวคนยิวในยุคนั้นที่มีความสมจริง เพราะเล่าจากสายตาคนเขียน
  • โปรดักชั่นดีเยี่ยม คุณภาพงานสูง ได้ดารามีฝีมือ
  • ครึ่งหลังเดินเรื่องสนุกกว่าครึ่งแรกชัดเจน แต่น่าเสียดายที่คนดูอาจจะดรอปไปก่อนตั้งแต่ 1-2 ตอนแรก

Cons

  • เดินเรื่องช้ามาก แถมการเล่าเรื่องไม่น่าติดตาม
  • ซีรีส์ใช้วิธีตามรอยครอบครัวของตัวเอก แต่กลับไม่น่าเอาใจช่วยเท่าไหร่
  • เป็นซีรีส์ที่คนเอเชียอาจจะไม่อินเอาเลย
  • เนื้อหามีความอคติ Bias ต่อคนเชื้อชาติอื่นแฝงอยู่พอสมควร

The Plot against America รีวิว สปอย เมื่อประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาถูกเปลี่ยนในช่วงก่อนสงครามโลก กลายเป็นโลกคู่ขนานที่ฝักใฝ่ฮิตเลอร์ นาซี ฟาสซิสต์ ใน HBO Go

 The Plot Against America (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

The Plot against America ดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Phillip Roth นักเขียนระดับรางวัลพูลิชเชอร์ ที่เคยมีผลงานนิยายไตรภาคอย่าง American Trilogy ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนิยายไตรภาคที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ยากมาก แต่ก็มีการนำมาสร้างแล้ว เช่น Human Stain แถมได้ดาราดังระดับ เซอร์แอนโธนีฮอปกินส์ และนิโคลคิดแมน แสดงนำด้วย

สำหรับลักษณะนิยายเกือบส่วนใหญ่ของ Phillip Roth มักจะเน้นไปที่การเสียดสีและสะท้อนสังคมอเมริกันในเชิงลึก โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาความเหลื่อมล้ำ เชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนา ที่สำคัญคือหลายเรื่องเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคมสหรัฐ แต่ในหนังสือหรือภาพยนตร์หลายเรื่องมักถูกมองข้ามไป แล้วยังเป็นปัญหาที่หลายคนเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง ซึ่งในนิยายของเขามักเลือกบอกเล่าผ่านสังคมหนึ่งที่มีความเฉพาะกลุ่ม หรือตัวละครที่ถูกจับไปอยู่ในสถานการณ์ผิดที่ผิดทาง

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ก็เป็นการดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งยังคงสไตล์ของ Phillip Roth ในการเจาะประเด็นไปที่กลุ่มคนที่ถูกกดขี่ในสังคม ไปจนถึงการเจาะเข้าไปยังบรรดาคนที่อยู่ในกลุ่มเฉพาะนั้นที่ก็มีมุมมองบางอย่างที่คนนอกยากจะเข้าใจเอาไว้เช่นกัน

The Plot against America Trailer ตัวอย่าง

The Plot against America เรื่องย่อ

ในปี .. 1941 เมื่อครอบครัวเลวินซึ่งเป็นครอบครัวชาวยิวผู้มีรายได้ปานกลางที่อาศัยอยู่ในนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา แล้วพบว่าพวกตนกำลังได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตภายในสังคมที่ชาวยิวกำลังถูกเหยียดมากขึ้น เช่นเดียวกับอิทธิพลของฮิตเลอร์กับนาซีที่กำลังเรืองอำนาจในยุโรป ได้ส่งผลมาถึงสหรัฐ

อีกทั้งประวัติศาสตร์ในซีรีส์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนกับในความเป็นจริง เนื่องจาก ชาร์ลส์ ลินเบิร์ก ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์กับนาซี และเป็นคู่แข่งในการรับเลือกตั้งกับ แฟรงค์คลิน ดี รูสเวลท์ ก็ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้สถานการณ์ในสหรัฐเปลี่ยนแปลงไปจากประวัติศาสตร์ แล้วเข้าสู่การเป็นโลกคู่ขนานที่พวกเขากำลังกลายเป็นชาติฟาสซิสต์ตามแบบพวกนาซี ทั้งการเหยียดเชื้อชาติ การดูถูกชาวยิว การขึ้นมามีอิทธิพลของพวกคลูคลักซ์แคลนซึ่งเกิดขึ้นเร็วกว่าในประวัติศาสตร์ และปัญหาอื่นๆที่ละเอียดอ่อนในสังคมชาวยิวของสหรัฐ

สำหรับเรื่องราวส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าผ่านมุมมองของ ฟิลิปป์ เลวิน ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หรือที่จริงแล้วก็คือการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของ ฟิลิปป์ รอธ ผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ที่เติบโตขึ้นมาในช่วงนั้นนั่นเอง

The Plot against America ตัวละคร

ตัวละครหลักคือ สมาชิกครอบครัวเลวิน

ฟิลิปป์ เลวิน ลูกชายคนเล็กของครอบครัวชาวยิว ที่อาศัยอยู่ในนิวเจอร์ซีย์ หรือที่จริงก็คือ ฟิลิปป์ รอธ ผู้เขียนนิยายเรื่องนี้

พ่อและแม่ของเขาคือ เฮอร์มัน เลวิน และ เบส รอธ ซึ่งตัวของเฮอร์มันเป็นพนักงานที่มีรายได้ปานปลาง เมื่ออยู่ในบ้านมักใช้เวลาส่วนใหญ่วิจารณ์เรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และอิทธิพลของฮิตเลอร์กับรัฐบาลนาซีที่กำลังเรืองอำนาจในยุโรป

แล้วเรื่องหนึ่งที่เฮอร์มันวิจารณ์บ่อยๆคือชาร์ลส ลินเบิร์กนักบินฮีโร่ของสหรัฐที่มีใจฝักใฝ่นาซี แล้วกลายเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับแฟรงคลินรูสเวลท์

ดังนั้นเรื่องราวในซีรีส์จะบอกเล่าผ่านมุมมองของฟิลิปป์ ซึ่งตัวเขาในเวลานั้นกำลังมีความชื่นชอบในลินเบิร์ก ซึ่งเป็นนักบินฮีโร่ของสหรัฐ แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่าสุนทรพจน์และคำปราศรัยของเขาที่ออกอากาศไปทั่ว ได้ส่งผลกระทบมาถึงวิถีชีวิตของครอบครัวชาวยิวอย่างพวกเขา ซึ่งตัวเขาเองก็ยังอยู่ระหว่างการเรียนรู้ถึงปัญหาการเหยียดชาวยิวที่เกิดขึ้นในสังคมสหรัฐ

The Plot against America รีวิว

ต้นฉบับนิยายเขียนจากมุมมองของ ฟิลิปป์ เลวิน (ฟิลิปป์ รอธ ผู้เขียน) ซึ่งในซีรีส์ใช้การเล่าเรื่องกระจายภายในครอบครัวเลวิน โดยเฉพาะผ่านทางตัวพ่ออย่างเฮอร์มัน ซึ่งจะวิจารณ์สถานการณ์ขอนาซีในเยอรมันที่มีข่าวลือเรื่องการโจมตีชาวยิว ไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยเฉพาะ ชาร์ล ลินเบิร์ก ตัวแทนจากพรรครีพับรีกัน

สำหรับในประวัติศาสตร์จริงๆ แฟรงคลิน ดี รูสเวลท์ คือผู้ชนะการเลือกตั้ง อีกทั้ง ลินเบิร์ก ก็ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย แต่นี่คือจินตนาการของผู้เขียนนิยาย ที่เคยอ่านหนังสือชีวประวัติแล้วพบว่ามีชาวรีพับรีกันบางส่วนในยุคนั้นอยากให้ลินเบิร์กลงแข่งท้าชิงกับรูสเวล

แต่ในซีรีส์ได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประวัติศาสตร์คู่ขนานเมื่อกลายเป็นว่ากระแสเลือกตั้งเอียงมาทาง ชาร์ล ลินเบิร์ก ซึ่งในเรื่องจะย้ำว่าเขามีแนวคิดแบบชาตินิยมอเมริกันสุดโต่ง อีกทั้งตามประวัติศาสตร์แล้ว เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่นิยมนาซีในช่วงก่อนจะเกิดสงครามโลก ซึ่งเวลานั้นสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างลังเลว่า ควรจะเข้าร่วมสงครามในยุโรปดีหรือไม่

สำหรับตัวลินเบิร์ก ในประวัติศาสตร์ยังมีอีกสถานะคือ เป็นวีรบุรุษนักบินอเมริกัน ซึ่งก็ได้เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวเขาได้รับการสนับสนุนจากชาวสหรัฐในรัฐทางใต้ และคนผิวขาว

นอกจากนี้ในตอนแรกสุดของซีรีส์ ยังมีการพูดถึงคำที่ลินเบิร์กพูดไว้ในชีวิตจริงเอามาใช้ด้วย ตามที่เขาอ้างว่า คนสามกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการทำสงคราม คือคนอังกฤษ คนยิว และคณะของรูสเวลท์

 

แล้วสโลแกนที่ชูออกมาแล้วเป็นไพ่สำคัญคือเลือกลินเบิร์ก หรือเลือกสงครามเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ในซีรีส์ดำเนินไปในลักษณะ What if ที่ทำให้เขาจะได้ถูกเลือกเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของพรรครีพับรีกัน แทนที่รูสเวลท์

ที่สำคัญคือ ลินเบิร์กยังแสดงสัญญาณที่จะสงบศึกกับนาซีและฮิตเลอร์ โดยสัญญาว่าสหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าร่วมในสงครามที่ยุโรป และจะไม่ขัดขวางการขยายอำนาจของจักรวรรดิญี่ปุ่นในทวีปเอเชีย

ในซีรีส์ ตอน 1-3 มักจะใช้วิธีเดินเรื่อง ให้เฮอร์มันเป็นคนวิจารณ์และแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองกับบรรดาคนยิวในละแวกบ้านอยู่ตลอด ไปจนถึงแสดงให้เห็นเรื่องที่คนดูอาจจะไม่เข้าใจและสงสัยเกี่ยวกับบริบททางสังคมในสมัยนั้น ซึ่งมีบางเรื่องที่คนยุคนี้อาจจะไม่มีวันเข้าใจ โดยเฉพาะคนนอกสังคมของสหรัฐ เนื่องจากปัญหาในเรื่องเป็นผลกระทบต่อคนยิวในสหรัฐเป็นพิเศษ ทำให้คนดูชาวไทยอาจจะไม่ค่อยอินกับสถานการณ์และตรรกะวิธีคิดของตัวละครภายในเรื่องนี้

อัพเดท ตอน 4-6 สถานการณ์ในครึ่งหลังของเรื่อง แตกต่างไปจากครึ่งแรกเอามากๆ ซึ่งที่จริงสัญญาณก็มาตั้งแต่ตอน 2 แล้ว นั่นคือการที่ความคิดแบบ “แอนตี้ยิว” ที่มาในรูปแบบของฟาสซิสต์ เข้ามาครอบงำสังคมอเมริกัน รวมถึงสถานการณ์ของครอบครัวเลวินที่พบว่ามันยากมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องพบว่าสังคมรอบตัวเปลี่ยนแปลงไป ทั้งในแง่ความคิดอ่านและการเหยียดชาวยิวที่มีแต่จะรุนแรงขึ้น แถมยังมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

นอกจากนี้ในซีรีส์ช่วงกลางเรื่องและครึ่งหลัง ก็เริ่มแสดงให้เราเห็นว่านโยบายของ ชาร์ล ลินเบิร์ก ได้ส่งผลมาถึงครอบครัวเลวินยังไง เนื่องจาก อัลวิน เลวิน ญาติของฟิลิปได้เข้าร่วมในกองทัพแคนาดาที่จะเข้าต่อสู้สงครามในยุโรป อีกทั้งโครงการบางอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐบาลใหม่ ก็เริ่มนำเด็กชายชาวยิวไปทำให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นอเมริกัน” (Americanize) ซึ่งพี่ชายของฟิลิป คือ แซนดี้ ก็ได้ถูกเลือกเข้าโปรแกรมนี้ไปด้วย 

สถานการณ์ในครึ่งหลังของซีรีส์ จึงเต็มไปด้วยความตึงเครียด กดดัน ในขณะที่ตัวลูกชายอย่างฟิลิปป์ ก็ได้รับการปกป้องจากแม่ของเขาในสถานการณ์ที่ยากลำบากและไม่ค่อยเข้าใจนี้ เพื่อไม่ให้เขาต้องถูกดึงเข้าไปในวังวนแห่งความเกลียดชังและการโจมตีชาวยิวที่เกิดขึ้น

สำหรับจุดแข็งในภาพรวมแล้ว คือการนำเสนอเนื้อหาที่มีแก่นและสาระของเรื่องราวที่ชัดเจน โดดเด่น งานโปรดักชั่นที่ดีเยี่ยม เป็นซีรีส์แนวยำประวัติศาสตร์ What If การสร้างโลกคู่ขนาน ที่ทำออกมาเพื่อให้กับชาวยิวและยังสะท้อนการเหยียดเชื้อชาติภายในสหรัฐ ไปจนถึงการจิกกัดในเรื่องแนวคิดเหยียดที่ฝังลึกๆอยู่ในใจของคนผิวขาวอเมริกันจำนวนมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ที่สำคัญคือ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ชาติที่อ้างตนว่าเป็นประเทศแห่งเสรีภาพที่มักอ้างเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันอยู่ตลอดนั้น แท้จริงแล้วเป็นสังคมที่ผู้คนมีความเหยียดแฝงอยู่ในใจจนถึงขั้นที่พร้อมจะกลายเป็นฟาสซิสต์ได้ตลอดเวลา ขอเพียงมีตัวจุดกระแสที่แรงพอเท่านั้น คนผิวขาวในสังคมอเมริกันก็พร้อมจะทำให้ประเทศนี้กลายเป็นฟาสซิสต์ที่กดขี่ชาวยิวในระดับที่อาจจะรุนแรงไม่แพ้กับที่นาซีทำไว้ในประวัติศาสตร์ ถ้าหากคนผิวขาวอเมริกันดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วจะรู้สึกกระแทกจิตใจก็ไม่น่าแปลกเลย

แต่จุดด้อยก็มีมาก โดยเฉพาะการเดินเรื่องที่เชื่องช้าและครอบครัวของตัวเอกที่ไม่ได้น่าลุ้นหรือเอาใจช่วยเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงมาก ชนิดที่อาจจะทำให้หลายคนดรอปซีรีส์เรื่องนี้ไปตั้งแต่ตอนแรก เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวเลวินที่เป็นตัวเอกเมื่อดูแล้วไม่ได้รู้สึกให้เราอยากให้เอาใจช่วยอะไรมากนัก ด้านหัวหน้าครอบครัวอย่างเฮอร์มันเองก็เอาแต่บ่นวิพากษ์การเมืองไปเรื่อยๆ และมีไดอาล็อคที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเชียร์มากมายนัก การที่ซีรีส์มีปัญหาในเรื่องการทำให้เราอยากเอาใจช่วยตัวเอก จึงเป็นปัญหาพอสมควร โดยเฉพาะคนดูที่ไม่ใช่ชาวยิวและไม่ใช่คนอเมริกัน อาจจะดูเรื่องนี้พร้อมกับคำถามในหัวตลอดเวลาเลยก็ได้

นอกจากนี้ การจินตนาการว่า ถ้าลินเบิร์ก ได้ลงเลือกตั้ง แล้วถูกเลือก ก็จะทำให้เขาสานสัมพันธ์กับนาซีจนถึงขั้นทำให้สหรัฐกลายเป็นฟาสซิสต์ แล้วทำให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มโครงการจัดการกับชาวยิว ก็อาจจะเป็นอะไรที่สุดโต่งและคนดูบางส่วนรับไม่ได้ก็เป็นได้ จึงอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้คะแนนน้อยกว่าที่ควร เมื่อพิจารณาจากพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอยู่ในตอน 4-6 ว่าซีรีส์นี้จะพลิกการเล่าเรื่องราวให้น่าสนุกได้อีกแค่ไหนครับ ซึ่งสามารถรับชมได้ทาง HBO Go

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Plot_Against_America

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------