playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวอนิเมะ T・P BON (Netflix) ปัดฝุ่นนำมาสร้างใหม่ แต่แทบไม่ต่างจากโดราเอมอน

T・P BON

Summary

อนิเมะจากผลงานเก่าแก่ของผู้เขียนโดราเอมอน เป็นตำรวจกาลเวลาที่อยู่ในจักรวาลเดียวกัน มีการดัดแปลงให้ทันสมัยเล็กน้อย แต่โครงสร้างเรื่องก็เหมือนโดราเอมอนแทบทั้งหมด จบในตอนสั้นๆ ไม่มีปมต่อเนื่องกัน เรื่องมีการตั้งกฏของเวลามากมาย แต่ตัวละครก็ย้อนแย้งทำไปโดยที่เรื่องปล่อยผ่านไปเฉยๆ หรือใช้คำอธิบายแบบง่ายๆ ซึ่งทำให้เรื่องดูย้อนแย้งสองมาตรฐาน และเรื่องก็แทบไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เลย ทำให้เรื่องดูเบาโหวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีคำถามเสมอว่าไปช่วยทำไม โดยแทบไม่มีคำตอบกลับมา เรื่องมีความดาร์คกว่าโดราเอมอนนิดหน่อย แต่ก็แทบไม่มีผลอะไร ซึ่งผู้ชมที่อ่านมังงะยุคหลังที่ซับซ้อนคงเบื่อ แต่ผู้ชมเด็กมากๆ ก็น่าจะชอบเรื่องที่เรียบง่ายแบบนี้ครับ (แต่มันก็ยังไม่ดีเท่าโดราเอมอนนะ) 

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • จักรวาลเดียวกับโดราเอมอน
  • มีความดาร์คกว่าโดราเอมอนนิดหน่อย
  • จบในตอนสั้นๆ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เนื้อหาเกี่ยวกับเวลา แต่เบามากๆ
  • ปมในเรื่องน้อยมาก
  • ตัวละครเพื่อนแทบไม่มีบทสำคัญอะไรเลย
  • จบแบบไม่น่าติดตาม

T・P BON ตำรวจกาลเวลา (Time Patrol Bon) อนิเมะ 12 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย สร้างจากผลงานมังงะของฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ ผู้เขียนโดราเอมอน โดยเป็นอนิเมะครั้งแรกในรอบ 30 ปี เรื่องราวของ บอน นักเรียนมัธยมต้นที่กลายมาเป็นตำรวจกาลเวลาร่วมกับรีม เพื่อช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์จากอดีต ผ่านประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ

T・P Bon (2024) on IMDb

 

รีวิว T・P BON ตำรวจกาลเวลา

อนิเมะจากลายเส้นและเป็นเรื่องในจักรวาลเดียวโดราเอมอน ถูกเขียนขึ้นมาหลังโดราเอมอนประมาณ 10 ปี (ปี 1978) โดยตัวละครในเรื่องนี้ก็มีโผล่ไปยังโดราเอมอนหลายครั้ง ซึ่งทุกคนรู้จักกันดีในชื่อตำรวจกาลเวลาที่มาจากอนาคตและมีเครื่องมือไฮเทคจากยุคนั้นเช่นเดียวกัน  

ด้วยความที่เป็นเรื่องในจักรวาลเดียวกัน รูปแบบของเรื่องก็เลยแทบจะเหมือนโครงสร้างเดียวกันไปด้วย โดยเป็นเรื่องจบในตอนสั้นๆ 25 นาที ตัวเอกมีลักษณะคล้ายโนบิตะหลายอย่าง เพื่อนๆ ก็แทบจะเหมือนตามกันไปด้วย แต่บทน้อยมาก เพราะทุกตอนโฟกัสไปที่ตัวเอกบอนกับรีมรับงานจากองค์กรไปยังช่วงเวลาต่างๆ เพื่อช่วยคนบริสุทธิ์ มีอุปสรรคขัดขวางเล็กน้อยระหว่างทาง ก่อนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งในทุกเคส และแต่ละตอนก็ไม่ได้มีปมทิ้งไว้เชื่อมโยงไปตอนที่เหลือ เป็นการนำเสนอเรื่องจบเป็นตอนๆ ไปเลย เรื่องจึงดูง่ายไม่ต่างจากโดราเอมอนเลยสักนิด ซึ่งผู้ชมที่เป็นเด็กมากๆ ก็น่าจะสนุกพอใจกับการดำเนินเรื่องแบบนี้ได้อยู่ แต่ถ้าเป็นเด็กที่อ่านมังงะยุคหลังที่เรื่องซับซ้อนผูกปมกันต่อเนื่องยาวๆ มีจุดพีค มีบอสใหญ่ ก็น่าจะไม่ถูกใจสไตล์เรื่องเก่าคลาสสิคแบบนี้นัก แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของผู้สร้างเพราะนี่เป็นการดัดแปลงมาแบบเคารพก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนักครับ และการดัดแปลงที่น้อยมากนี้ก็ทำให้เรื่องดูไม่สดใหม่เท่าไหร่ด้วย อย่างยุคสมัยในเรื่องคือปัจจุบัน ตัวละครทุกคนมีมือถือมีโซเชียลเล่น แต่เรื่องก็นำมาใช้น้อยมาก แล้วภาพก็ยังเป็นลายเส้นเก่าของโดราเอมอนมันก็เลยดูแปลกๆ ไปนิดๆ เวลาเห็นตัวละครพวกนี้ใช้มือถือ ซึ่งจริงๆ อยู่ในยุคเดิมอาจจะยังดีกว่าด้วย 

 

สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบมากแบบที่แตกต่างจากโดราเอมอนไปเลยคือ การที่เรื่องนี้มีกฏของเวลามากมายระบุไว้ แต่เรื่องกลับย้อนแย้งแหกกฏนั้นเองแบบทำเนียนๆ อย่างกฏที่ห้ามเอางานนี้ไปหาประโยชน์ใส่ตัว แต่บอนกลับทำการบ้านเรียนหนังสือโดยการใช้เครื่องมือบีดอัดส่งข้อมูลเข้าสมอง ซึ่งถ้าเป็นโดราเอมอนโนบิตะทำแนวๆ นี้ก็จะโดนตำหนิและมีผลเสียกลับมาตอนจบว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่เรื่องนี้กลับปล่อยผ่านไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ก็มีการเตือนบอนเวลาพยายามโชว์ออฟเกินตัวอยู่ตลอด เหมือนเรื่องไม่ได้สนใจรักษากฏนี้กลายเป็นสองมาตรฐานแบบไม่คิดจะอธิบายผู้ชม ซึ่งในโดราเอมอนพอเข้าใจได้ 

เรื่องนี้เล่นกับเวลาแบบแสดงให้เห็นว่างานของตำรวจกาลเวลาซีเรียสมาก มีฉากที่แสดงให้เห็นว่าบอนทำอะไรเล็กๆ นิดเดียวแต่กระเทือนถึงประวัติศาสตร์โลกขนาดไหน เรื่องในช่วงแรกๆ จึงมีกฏว่าคนที่ไปช่วยจะไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ แต่ไปช่วยเพื่อให้ประวัติศาสตร์ภายหลังออกมาดี แต่กฏนี้ก็ย้อนแย้งไปอีกเมื่อเรื่องช่วงหลังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โดยตรง (จริงๆ ผู้ชมทุกคนก็คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกด้วย) ทำให้เรื่องช่วงแรกเบาโหวงเพราะไม่รู้ว่าช่วยไปทำไม อย่างผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด แต่คนอื่นในคุกก็ถูกกล่าวหาเช่นกันแต่กลับไม่ช่วย หรือคนที่ล่องเรือในอดีตไปโผล่ที่เกาะญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นตอนนั้นก็มีคนมีชุมชนหมู่บ้านอยู่แล้ว ช่วงหลังพอเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ตรงๆ ก็ทำให้มันดูเข้มข้นขึ้น แต่ก็ขัดกับกฏที่เรื่องระบุไว้อีก ซึ่งเรื่องก็ใช้คำอธิบายง่ายๆ ว่าองค์กรอนุมัติแล้วให้ทำได้ แต่มันก็ไม่สมเหตุผลสักเท่าไหร่ครับ

นอกจากนี้แล้วปมของตัวละครในเรื่องก็น้อยมากๆ อย่างบอนที่เหมือนโนบิตะในหลายๆ อย่าง ไม่เก่งในโลกปกติ แต่มาเก่งตอนทำงาน มีสกิลยิงปืนชั้นยอด พ่อแม่ก็ไม่มีอธิบายอะไร เพื่อนๆ ทุกคนก็แทบจะไม่มีบทกับงานของบอนเลย ไม่เหมือนโดราเอมอนที่ตัวละครเพื่อนๆ มีส่วนด้วยตลอด ส่วนรีมก็เหมือนโดราเอมอนที่เป็นรุ่นพี่ใช้เครื่องมือเป็นมาก่อน คอยสอนแนะนำบอนในช่วงแรก แต่ไอเดียเวลาผ่านแต่ละเคสก็มาจากการที่บอนพูดหรือตัดพ้อแบบง่ายๆ เหมือนรีมไม่ค่อยฉลาดจริง แล้วรีมก็พยายามใส่ปมไปในตอนนึงว่ามีรุ่นพี่ที่หายตัวไป แต่ซีซั่นนี้ก็แทบไม่ได้ขยายจุดนี้ออกมาเลยในตอนจบ เป็นการจบแบบปล่อยทิ้งไว้ว่างๆ ว่าไปทำงานอีกแผนกเท่านั้น ซึ่งมันดูเบาบางมากไปหน่อย แต่อนิเมะเรื่องนี้ก็น่าจะได้ทำต่อไปอยู่ครับ

 

สรุป อนิเมะจากผลงานเก่าแก่ของผู้เขียนโดราเอมอน เป็นตำรวจกาลเวลาที่อยู่ในจักรวาลเดียวกัน มีการดัดแปลงให้ทันสมัยเล็กน้อย แต่โครงสร้างเรื่องก็เหมือนโดราเอมอนแทบทั้งหมด จบในตอนสั้นๆ ไม่มีปมต่อเนื่องกัน เรื่องมีการตั้งกฏของเวลามากมาย แต่ตัวละครก็ย้อนแย้งทำไปโดยที่เรื่องปล่อยผ่านไปเฉยๆ หรือใช้คำอธิบายแบบง่ายๆ ซึ่งทำให้เรื่องดูย้อนแย้งสองมาตรฐาน และเรื่องก็แทบไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เลย ทำให้เรื่องดูเบาโหวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีคำถามเสมอว่าไปช่วยทำไม โดยแทบไม่มีคำตอบกลับมา เรื่องมีความดาร์คกว่าโดราเอมอนนิดหน่อย แต่ก็แทบไม่มีผลอะไร ซึ่งผู้ชมที่อ่านมังงะยุคหลังที่ซับซ้อนคงเบื่อ แต่ผู้ชมเด็กมากๆ ก็น่าจะชอบเรื่องที่เรียบง่ายแบบนี้ครับ (แต่มันก็ยังไม่ดีเท่าโดราเอมอนนะ) 

 

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!