playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Beautiful Game (Netflix) ฟุตบอลโลกคนไร้บ้านที่เต็มเปี่ยมด้วยเรื่องราวที่สวยงาม

The Beautiful Game

Summary

หนังกีฬาที่เนื้อเรื่องสดใหม่ โดยหยิบเบื้องหลังเรื่องจริงของชีวิตนักกีฬาฟุตบอลโลกคนไร้บ้านทั่วโลก (Homeless World Cup) มาร้อยเรียงบอกเล่าทุกรายละเอียดอย่างใส่ใจ เป็นเรื่องราวความพยายามเพื่อโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ซึ่งคนปกติในสังคมไม่เข้าใจหรือมองข้ามพวกเขาไป โดยที่ประเด็นเหล่านี้ก็ทำออกมาได้กินใจมากมีครบทุกอารมณ์ ดราม่าสะเทือนใจ รัก ตลก และเต็มไปด้วยมิตรภาพในเกมการแข่งขันฟุตบอลขนาดเล็ก ที่กระชับสั้น สนุก และคาดเดาผลการแข่งได้ยากเพราะไม่ได้เดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จตามปกติ นี่คือหนังที่ทรงคุณค่าดีเกินกว่าแค่หนังสตรีมมิ่งเล็กๆ ของ Netflix มาก เชียร์ให้ลองเปิดดูกันทุกคนครับ (แม้จะไม่ได้ชอบฟุตบอลก็ยังดูสนุกไปกับเรื่องได้แน่นอนครับ)

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • สร้างจากเรื่องจริงของชีวิตนักกีฬาฟุตบอลโลกคนไร้บ้านทั่วโลก
  • เรื่องมีครบทุกอารมณ์เน้นฟีดกู๊ด
  • คาดเดาผลการแข่งได้ยาก
  • นักแสดงโดดเด่นทุกคน
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เกมการแข่งขันแต่ละครั้งถูกตัดสั้นๆ กระชับรีบจบมาก

The Beautiful Game  ภาพยนตร์อังกฤษ Original Netflix เรื่องราวของ มาล ผู้จัดการทีมฟุตบอลของคนไร้บ้านทีมชาติอังกฤษ นำพวกเขาไปแข่งขันฟุตบอลโลกสำหรับคนไร้บ้านที่กรุงโรม เขาตัดสินใจด้วยการดึงตัววินนี่ กองหน้าที่มีพรสวรรค์แต่มีปัญหาเข้ามาร่วมทีม ซึ่งวินนี่ต้องเอาชนะอดีตของตนเองเพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีม หนังได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง เรื่องราวของโอกาสครั้งที่สอง ที่คนไร้บ้านจากทั่วโลกจะได้พบกับความหวังและการแข่งขันบนสนามกีฬา
The Beautiful Game (2024) on IMDb

รีวิว The Beautiful Game (ไม่สปอยล์)

หนังจากผู้กำกับหญิง Thea Sharrock  ที่สร้างหนังรัก Me Before You ปี 2016 เป็นเรื่องแรกแล้วกวาดคำชมไปอย่างมากมายจากเนื้อเรื่องสดใหม่กับความรักในแง่มุมของคนพิการ ซึ่งผลงานของเธอเป็นเรื่องเดียวที่มีฉายในไทย ก่อนที่จะมาสร้างหนังของคนชายขอบในสังคมอีกครั้งลง Netflix โดยอิงจากเรื่องจริงของฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน (Homeless World Cup) ที่เริ่มปี 2001 และสร้างฝันแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายที่ต้องการโอกาสที่สองในชีวิตผ่านเกมกีฬาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของคนที่ถูกมองว่าไร้ค่าในสังคมของทุกประเทศ  

ด้วยวัตถุดิบที่มีมากมายจากเรื่องจริง หนังเรื่องนี้จึงอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวชีวิตเบื้องหลังของตัวละครทุกตัวจริงๆ โดยไม่ได้เล่าแค่เรื่องของทีมตัวเอก แต่หนังเล่าถึงทีมทุกประเทศที่มีเรื่องราวปัญหาชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงใหญ่โตแตกต่างกัน ซึ่งทั้งหมดคือความผิดพลาดในชีวิตที่ทุกคนพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งเรื่องละเอียดอ่อนกับทุกอย่าง แม้แต่ประเด็นคำพูดของคนไร้บ้านที่ในชีวิตพวกไม่มีคนพูดด้วย จึงทำให้พวกเขามักสื่อสารอะไรผิดๆ ออกไปแบบไม่ทันคิด หนังก็หยิบคำพูดเล็กๆ เหล่านี้มาร้อยเรียงเชื่อมโยงเป็นประเด็นบอกเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับการแข่งฟุตบอลได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งแต่ละครั้งแม้เรื่องดูเล็กน้อยในสายตาคนปกติ แต่หนังก็ขยายประเด็นนั้นในแง่มุมคนไร้บ้านที่ออกมาได้กินใจมากทุกครั้ง โดยที่เรื่องนำเสนอได้อย่างกลมกล่อมมากเป็นแนวฟีลกู๊ด ดราม่า รัก ตลก กีฬา ไปพร้อมๆ กันตลอดเรื่องตั้งแต่ต้นจบ และคลายทุกปมปัญหาในเรื่องได้อย่างสวยงามมากจริงๆ 

หนังโดดเด่นมากในการเก็บรายละเอียดทุกอย่างของตัวละคร แล้วนำมาสอดแทรกเข้าไปกับจังหวะการดำเนินเรื่องในเกมกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กผู้เล่นเพียง 4 คนรวมผู้รักษาประตู ซึ่งเกมการแข่งขันนั้นก็คาดเดาไม่ได้เลย นี่ไม่ใช่หนังที่เล่าเรื่องสูตรสำเร็จนักกีฬามีพรสวรรค์แล้วมาประสบความสำเร็จ แม้ตัวเอกจะถูกนำเสนอให้เก่งเทพตั้งแต่แรกอย่างน่าประหลาดใจ แต่ภายหลังหนังก็มีเรื่องราวความลับในอดีตที่กระชากความรู้สึกผู้ชมให้ได้เห็นอีกด้านของชีวิตคนมีพรสวรรค์ที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอะไรในชีวิต ซึ่งหนังนำเสนอแง่มุมลึกๆ นี้กับนักกีฬาทุกชาติในเรื่อง โดยพวกเขาก็ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลมาก่อน การเล่นก็อาจจะห่วยแตก มีแค่ความพยายามเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งนี้คือความหวังในการต่อสะพานชีวิตของพวกเขาในหลายแง่มุม ซึ่งเรื่องหยิบมานำเสนอได้หลากหลายมาก อย่างนักกีฬาญี่ปุ่นที่เป็นซาลารี่แมนสูงวัยไร้บ้าน เป็นทีมอ่อนสุดในการแข่งขัน หนังก็หาแง่มุมคำตอบในชีวิตแบบน่ารักๆ ให้กับพวกเขาแม้จะรู้ตัวว่าแพ้แน่ๆ หรือทีมนักฟุตบอลหญิงจากอเมริกาที่เป็นผู้อพยพข้ามแดนและต้องการโอกาสนี้เพื่อกรีนการ์ด หนังบอกเล่าแง่มุมพวกนี้ออกมาผ่านการแข่งสั้นๆ กระชับไว แต่ก็สนุกในแง่มุมฟุตบอลได้ดีพอ โดยที่เส้นทางสายการแข่งขันในเรื่องพลิกแพ้ชนะไปมาให้โอกาสทุกทีมหลายครั้ง ก่อนที่จบลงในแบบเกมกีฬาที่สวยงามกับมิตรภาพที่เกิดขึ้นตลอดการแข่งขันประทับใจทั้งผู้แพ้ผู้ชนะ สมกับชื่อเรื่องนี้มากครับ     

สรุป หนังกีฬาที่เนื้อเรื่องสดใหม่ โดยหยิบเบื้องหลังเรื่องจริงของชีวิตนักกีฬาฟุตบอลโลกคนไร้บ้านทั่วโลก (Homeless World Cup) มาร้อยเรียงบอกเล่าทุกรายละเอียดอย่างใส่ใจ เป็นเรื่องราวความพยายามเพื่อโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ซึ่งคนปกติในสังคมไม่เข้าใจหรือมองข้ามพวกเขาไป โดยที่ประเด็นเหล่านี้ก็ทำออกมาได้กินใจมากมีครบทุกอารมณ์ ดราม่าสะเทือนใจ รัก ตลก และเต็มไปด้วยมิตรภาพในเกมการแข่งขันฟุตบอลขนาดเล็ก ที่กระชับสั้น สนุก และคาดเดาผลการแข่งได้ยากเพราะไม่ได้เดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จตามปกติ นี่คือหนังที่ทรงคุณค่าดีเกินกว่าแค่หนังสตรีมมิ่งเล็กๆ ของ Netflix มาก เชียร์ให้ลองเปิดดูกันทุกคนครับ (แม้จะไม่ได้ชอบฟุตบอลก็ยังดูสนุกไปกับเรื่องได้แน่นอนครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!