[รีวิว] “หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร” Joy of Life ซีรี่ส์จีนมาแรงที่สุดในตอนนี้

“หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร” หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Joy of Life ออกอากาศครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา แล้วกระแสก็พุ่งทะยานสู่อันดับ 1 ในประเทศจีนอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่ 1 สัปดาห์ จนถึงปัจจุบันเดือนมกราคม 2020 ก็ยังรั้งอันดับ 1อยู่ อะไรที่ทำให้ หาญท้าชะตาฟ้าฯ ได้รับความนิยมขนาดนี้ เรามาดูกัน

คะแนนเฉลี่ย IMDB

หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร – Joy of Life WeTV (หนังตัวอย่าง)

หาญท้าชะตาฟ้าฯ เป็นบทประพันธ์ของ Mao Ni นักเขียนรุ่นใหม่ไฟแรงสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องนี้ ยังมีเรื่อง “Ever Night” หรือชื่อไทยว่า “สยบฟ้า พิชิตปฐพี” ที่ก็ได้รับความนิยมจนถูกนำไปทำเป็นซีรี่ส์ไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน (สำหรับสยบฟ้าฯ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันอีกที)

ทำไมต้องดู…หาญท้าชะตาฟ้าฯ

หลังจากที่ผมได้ลองเปิดดู หาญท้าชะตาฟ้าฯ ในครั้งแรกก็บอกได้เลยว่านี่เป็นซีรี่ส์ของจีนไม่กี่เรื่องที่แค่ตอนแรกก็ทำให้ผมหยุดดูไม่ได้เลยจริงๆ หลายๆ เรื่องยังต้องทนดูการปูเนื้อเรื่อง 3-5 ตอนแรกไปก่อนแม้แต่ปรมาจารย์ลัทธิมาร ซึ่งผมต้องเปิดตอนแรกดูกว่า 3 รอบกว่าจะเริ่ม “ติด” แต่กับหาญท้าชะตาฟ้าฯ นั้นมีการนำเสนอที่แปลกใหม่อยู่พอสมควร แถมเมื่อเรื่องค่อยๆ ดำเนินไปเรายังพบอีกว่า ผู้กำกับ Sun Hao เองก็มีส่วนในการรังสรรค์ให้ซีรี่ส์เรื่องนี้น่าติดตามขึ้นไปอีกจากการที่กล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอในสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งถ้าสูตรผสมไม่ลงตัวหนังก็อาจจะเจ๊งเลยแต่ถ้าเกิดก็เกิดเลย ยกตัวอย่างเช่นมีตัวละครตัวหนึ่งชื่ออ่านออกเสียงจีนว่า “เกาต๋า” (高达) ซึ่งถ้าคุณลองเอาตัวจีนนี้ไปเสิร์จใน Google ดูคุณจะเห็นว่ามันคือคำว่า “กันดั้ม” ในภาษาจีน ซึ่งอันนี้ก็ต้องยกผลประโยชน์ให้ทีมแปลไทยของ WeTV อีกที่แปลออกมาว่า กันดั้ม จริงๆ ซึ่งตอนที่พระเอกได้เจอตัวละครนี้ครั้งแรกก็ถึงกับหน้าเหวอ และแกล้งแซวออกไปว่า เขาเลื่อมใสชื่อนี้มานานแล้ว และที่บ้านเก่าของเขาเลี้ยงลูกม้าไว้ตัวนึงชื่อว่า “ซาคุ” ไว้ว่างๆ จะแนะนำให้รู้จัก จากนั้นคนที่ได้ยินก็งงกันหมดว่ามันคืออะไร และพระเอกเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนจริงหรือเพราะพวกเขาเองก็รู้สึกว่าชื่อนี้ไม่น่าจะเคยมีมาก่อน ฮ่าๆ (อยู่ Ep.33 ใครอยากวาปไปดูก่อนเชิญ) อ่านถึงตรงนี้อาจจะคิดได้ว่า อ้าว…นี่มันหนังข้ามมิคิย้อนอดีตอีกแล้วสินะ ผมบอกเลยว่า “ผิด!” เดี๋ยวไว้จะบอกว่าทำไมผิดนะครับ

อ่านมานานหลายคนคงคิดว่า แล้วมันสนุกยังไง ไม่บอกสักที “กลมกล่อม” คำนี้คงจะดีที่สุดในการอธิบายตัวตนของ หาญท้าชะตาฟ้าฯ สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นเก่นความสนุกของเรื่องนี้ก็คือ “การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันของตัวละครในเรื่องราวต่างๆ” เรียกได้ว่าบรรดาตัวละครที่ดูฉลาดๆ นี่ว่างแผนใส่กันรัว หักมุมไปหักมุมมา ซ้อนแผนไปซ้อนแผนมาจนคนดูต้องทึ่งกันไปตามๆ กัน แถมเนื้อเรื่องยังสอดแทรกมุขตลกที่พอเหมาะพอดีมาเรื่อยๆ จนเรื่องนี้ดูแล้วไม่เครียดเลย จริงๆ ก็ดูจะหนักไปทางหนังตลกอยู่มากด้วยซ้ำ แต่คนดูก็ต้องยังได้ “ว้าว” กับการซ้อนแผนหรือ ทริกต่างๆ อยู่ตลอดเวลาจนอยากดูตอนต่อไปเรื่อยๆ บางแผนที่เรียกว่าวางเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ 1 ไปเฉลยอีกทีตอนเกือบจะจบจนต้องย้อนกลับไปดูตอนแรกซ้ำก็มี

ดนตรีประกอบเองก็ทำได้ดีมากจริงๆ ต้องเรียกว่าดีสุดๆ เลยแหละ หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เน้นสู้กันมาก ไม่ได้มีการยิงแสงกันฟิ๊วฟ้าว แต่เวลาที่บรรดาเหล่ายอดฝีมือสู้กันก็ถือว่ามันส์ไม่น้อย ที่เป็นแบบนั้นได้ส่วนหนึ่งก็เพราะดนตรีประกอบ ตอนที่จะสู้กันล้างผลาญดนตรีที่ใช้ก็จะเร่งเร้าและตื่นเต้นมาก ถ้าจะสู้กันขำๆ ก็จะมีดนตรีสนุกๆ ขึ้นมาจนเรารับรู้ได้ว่านี้ไม่ได้เอาเป็นเอาตายกันแน่นอนแค่หยอกๆ หรือจะปล่อยมุขอะไรก็ว่าไป ตอนที่สืบคดีหรือวางแผนดนตรีก็จะออกตื่นเต้น และเครียดหน่อยๆ พอคนดูได้อรรถรสทางการฟังนี้เข้าไปด้วยการดูก็ยิ่งลื่นไหลมาก จนอยากดูต่อไปเรื่อยๆ (ใครไม่ได้ดูผมบอกเลยว่าพลาด!)

ปล.ตัวละครหญิงเรื่องนี้ น่ารักทุกคน, ส่วนตัวละครชายนี่ “เซียวจ้าน” คนเดียวเอาอยู่!!

ตอนที่ผมเขียนอยู่นี้คือเพิ่งดูตอนจบของ ซีซั่น1 จบหมาดๆ (13/01/2020) คือตอนสุดท้ายนี้หักมุมจนอึ้งไปเลยครับ เป็นการจบภาคที่คาดไม่ถึงจริงๆ (แอบเหมือน GoT เหมือนกันนะเนี่ย) แม้จะค้างแต่ก็พอให้อภัยได้  และอยากดูซีซั่น 2 แล้วได้โปรด

เรื่องย่อ

ชายปริศนาที่มีผ้าปิดตาอยู่ตลอดนาม “อูจู๋” ผู้ที่พูดเสมอว่าเขาเป็นคนไม่มีกำลังลมปราณ ไม่เคยฝึกยุทธ์ ไม่มีท่าไม้ตาย แต่เขาไม่เคยสู้แพ้ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ในยุทธ์ภพเลยสักคน (ในเรื่องคนเก่งสุดในสายอาชีจะเรียกว่า ”ขั้นปรมาจารย์” ปรมาจารย์ด้ายการต่อสู้มีด้วยกันถึง 4 คน อูจู๋ ไม่เคยแพ้ใครเลย แต่ก็เหมือนตัวละครลับที่คนในยุทธภพไม่ค่อยรู้จักกัน) อูจู๋ หอบตะกล้าใส่เด็กชายคนหนึ่งหนีการตามล่าของกองกำลังปริศนา 10 ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ขึ้นมาในนาม “ฟ่านเสียน” เป็นลูกนอกสมรสของขุนนางระดับสูงตระกูล “ฟ่าน” ฟ่านเสียนเป็นคนที่ฉลาดเกินเด็ก เพราะช่วงกลางเรื่องจะมีการบอกว่า เขาไม่ได้ย้อนอดีตมานะ จริงๆ ฟ่านเสียน เคยอยู่ในโลกที่เจริญก้าวหน้าแบบในปัจจุบันเรามาก่อน แต่แล้วอารายธรรมมนุษย์ก็ล่มสลายลงเกิดเป็นยุคน้ำแข็ง และมนุษย์ก็ได้ย้อนวิวัฒนาการกลับมาใหม่อีกครั้ง จนมาถึงยุคจีนโบราณดังกล่าว ส่วนตัว ฟ่านเสียน เองนั้น ได้รับการปลูกถ่ายความทรงจำเก่าตอนยังมีชีวิตอยู่ในอดีตลงในตัวเด็กทารกที่เพิ่งเกิด ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่มันทำให้เขามีความรู้มากมายที่คนในยุคจีนโบราณไม่เคยมีมาก่อน

ด้วยความที่ ฟ่านเสียน เป็นคนที่ถือว่าฉลาดมากในยุคนั้น แถมยังเป็นลูกชายคนใหญ่คนโต เขาจึงต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุมากมายทั้งการเมืองภายในและภายนอก คนรอบตัวเขาเองก็ดูได้ยากว่าใครสามารถไว้ใจได้ใครไว้ใจไม่ได้ เพราะคนที่ไว้ใจได้จริงๆ มีแค่ ท่านอาอู่จู๋ ลูกน้องคนสนิทของแม่ผู้เป็นปริศนาของ ฟ่านเสียน ที่มักจะออกมาช่วย ฟ่านเสียในยามที่เขาต้องการความช่วยเหลือเสมอ แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ฟ่านเสียน กับพบว่า อู่จู๋ นั้นไม่เคยแก่ลงเลย แถมเรื่องที่ทุกคนคิดว่า อู่จู๋ ตาบอดนั้นบางครั้งเขาก็สามารถมองเห็น “สี” ได้อย่างประหลาด ข้อสงสัยมีมากมายขนาดนี้ ฟ่านเสียน ของเราจะเป็นยังไงต่อไป เรื่องราวจะสนุกหักมุมแค่ไหน ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ

แนะนำตัวละคร

ฟ่าน เสียน

รับบทโดย “จาง รั่วอวิ๋น” บุตรชายนอกสมรสตระกูลฟ่าน ที่เกิดมาพร้อมกับความรู้ล้ำยุค มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊จนเป็นที่จับจ้องของคนรอบข้าง แต่จริงๆ แล้วตัวตนของ ฟ่านเสียน นั้นซับซ้อนยิ่งกว่าที่เห็นมากมายนัก

---

อู่จู๋

รับบทโดย “ถง เมิ่งฉือ” จอมยุทธุ์ปริศนาที่คอยปกป้อง ฟ่านเสียน อยู่ตลอดเวลา คนที่รู้ตัวตนของ อู่จู๋ มีอยู่แค่ไม่กี่คนเพราะต้องเป็นคนรู้จักกับแม่นางเอกเท่านั้น อู่จู๋ มีความลับมากมายแต่สิ่งประหลาดที่ทำให้ ฟ่านเสียน ต้องออกปากทักว่า “ถ้าข้าอายุ 70 ปีแล้ว ท่านอา อู่จู๋ จะยังหน้าตาแบบนี้ไหม?” เพราะ อู่จู๋ ไม่มีท่าที่ที่จะแก่ขึ้นเลย

---

หลิน หว่านเอ๋อร์

รับบทโดย “หลี่ ซิ่น” มีศักดิ์เป็นองค์หญิง ลูกนอกสมรสของอัครมหาเสนาบดี กับน้องสาวของฮ่องเต้(ลูกพี่ลูกน้อง) หว่านเอ๋อร์ เป็นรักแรกพบของ ฟ่านเสียน ตอนที่พบกันในมือเธอถือน่องไก่ อยู่จนฟ่านเสียนให้ฉายาว่า “แม่นางน่องไก่” เพราะไม่รู้ชื่อจริงของเธอ ฟ่านเสียน ตกหลุมรัก หว่านเอ๋อร์ จนขนาดยอมที่จะขัดราชองค์การให้แต่งงานกับคู่หมั้นที่ฮ่องเต้ประทานให้ แต่มารู้ภายหลังว่าคู่หมั้นคนนั้นก็คือ หว่านเอ๋อร์ นี่แหละ

---

ฟ่าน ซือเจ๋อ

รับบทโดย “กัว ฉีหลิน” น้องชายต่างมารดาของ ฟ่านเสียน ตัวขโมยซีนตัวหลักของเรื่อง ออกมาทีไรคนดูต้องหลุดยิ้มตลอด แรกๆ หลายคนต่างหมั่นไส้ ซือเจ๋อ กันหมด แต่ดูไปดูมาแล้วคุณจะเอ็นดูตัวละครตัวนี้เชื่อสิ

---

เหยียน ปิงอวิ๋น

รับบทโดย “เซียว จ้าน” ลูกชายของหัวหน้ากอง4 แห่งสำนักตรวจสอบที่ถูกส่งไปเป็นสายลับที่ต่างเมือง จริงๆ ตัวละครตัวนี้โผล่มาครั้งแรกในตอนต้นๆ เรื่องแต่คนดูจะยังไม่เห็นหน้า ไม่รู้ว่าผู้กำกับตั้งใจแกล้งเอฟซี เซียวจ้าน ที่ตามมาจาก ปรมาจารย์ลัทธิมาร รึเปล่า ชอบออกมาให้ลุ้นมาจะเห็นหน้า เซียวจ้าน เต็มๆ ได้เมื่อไหร่ ซึ่งกว่าจะเห็นก็ถูกหลอกให้ดูไปหลายตอนเลยแหละ ฮ่าๆ ซึ่งที่ผมยก เซียว จ้าน มาแนะนำนี้เพราะต้องการจะยืนยันให้ว่าเขาเล่นเรื่องนี้จริงๆ ในภาคแรกอาจจะยังไม่เด่นมาก แต่ภาค 2 นี่เด่นสุดๆ ชัวร์

---

นอกจากนี้ ในเรื่องก็ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกมากมาย  และก็แสดงโดยดาราเบอร์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น รับประกันได้ว่านอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังแสดงได้ดีกันทุกคน ไม่งั้นจะได้ขึ้นอันดับหนึ่งในจีนข้ามปีขนาดนี้เนอะ

ตอนนี้ใครสนใจที่จะดู “หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร” สามารถรับชมได้ที่ WeTV เป็นลิขสิทธ์แท้ และดูได้ฟรีๆ มัทั้งซับไทย และพากย์ไทย ซึ่งพากย์ไทยนั้นพากย์ได้ดีมากระดับหนังโรงเลย ในภาค1 นี้มีทั้งหมด 46 ตอน สมาชิก Vip สามารถดูได้ครบทุกตอนแล้ว(ณ วันที่ 13 มกราคม 2020) ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นสามาชิกก็สามารถดูฟรีได้จนจบ แต่ตอนจบจะฉายให้ดูตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2020 เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป
เสริม: ใครที่ชอบอ่านนิยาย ตอนนี้ในไทยมีตีพิมพ์จบไป ทั้ง 2 ภาค แล้ว โดยที่ภาคแรกมี 15 เล่ม ภาค 2 มี 17 เล่ม ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ

---

ผู้อ่านท่านใดอยากพูดคุยเรื่องหนังเรื่องนี้ เชิญที่คอมเม้นต์ด้านล่างเลยครับ

อ่านรีวิวหนังอื่นๆได้ที่นี่