playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Saint Seiya Netflix part2 เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว ดัดแปลงทั้งดีและแย่

สรุป

แฟนๆของ Saint Seiya ไม่ควรพลาด ดูได้สนุก เพลินๆ ซึ่งถ้าใครดูจาก Part1 มาแล้ว ก็น่าจะพร้อมเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงที่มีได้ใน Part2

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
4.5 (2 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ใส่ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงวัยรุ่นเข้ามาให้ซาโอริ
  • ดันคาแรคเตอร์ตัวละครให้มีมิติมากขึ้น
  • เปลี่ยนแปลงให้ร่วมสมัยมากขึ้น แนวคิดคร่ำครึถูกปรับปรุงใหม่หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเพศสภาพ
  • แนวทางการเดินเรื่องเคารพต้นฉบับอยู่ไม่น้อย

Cons

  • งาน CG และเอฟเฟคยังไม่อลังการเท่าที่ควร หลายฉากทำได้ไม่ดีนัก
  • บางตอนเดินเรื่องกระชับและไวมากเกินไป
  • หลายคนอาจไม่ชอบงาน 3D ของเรื่อง

Saint Seiya Netflix : Knight of Zodiac Part2 รีวิว+สปอยล์ เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว การดัดแปลงที่มีทั้งจุดดีและจุดแย่ กับศึกในบทซิลเวอร์เซนต์ เริ่มเปิดตัวโกลด์เซนต์ และปิดฉากศึกแบล็กเซนต์

เซนต์เซย่า Saint Seiya เป็นโชเน็นมังงะชื่อดัง ผลงานของ อ.คุรุมาดะ มาสึมิ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนระดับตำนานขึ้นหิ้งของญี่ปุ่น เป็นต้นแบบของเรื่องแนวนักสู้ชุดเกราะและกลุ่มบอยแบนด์ที่เป็นแนวทางให้กับโชเน็นมังงะหลายเรื่องในปัจจุบัน ซึ่งต่อมาก็ได้มีการสร้างภาคแยก ภาคต่อ หนังโรง แล้วยังมีนักเขียนรุ่นใหม่ๆที่ช่วยกันเขียนและสร้างเรื่องนี้ให้แตกออกมาอีกหลายภาค แม้ว่าเนื้อหาภาคหลักจะจบไปเกือบ 30 ปีแล้วก็ตาม แต่หลังจากนั้นก็ยังมีการสร้างภาคต่อและภาคแยกที่ขยายเรื่องราวออกมาอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งเซย่าแบบซีรีส์ฉบับ Netflix ก็คือเวอร์ชั่นล่าสุดที่ได้ฉายทางสตรีมมิ่งให้แฟนๆเรื่องนี้ที่มีอยู่ทั่วโลกครับ

 Seinto Seiya: Knights of the Zodiac (2019) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

Saint Seiya Netflix : Knight of Zodiac season1 Part 2 Trailer

 

อันที่จริงแล้ว ข้อดีของการดัดแปลงเซนต์เซย่าในฉบับ Netflix ก็มีอยู่หลายเรื่องเลยครับ โดยบางเรื่องก็พบว่ามาเพิ่มแบบเห็นชัดๆเอาใน Part2 นี่เอง เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่ใน Part1 จะเป็นช่วงแนะนำตัวละครและการเปิดเรื่อง แถมยังต้องเอาสองบทใหญ่คือศึกกาแลกเซียนวอร์สกับศึกแบล็กเซนต์เข้ามายัดให้จบภายใน 6 ตอน จึงไม่น่าแปลกว่าทำไมจึงไม่มีเวลาให้เรื่องไปขยายมิติเหล่านี้ได้ชัดเจนนัก เมื่อเทียบกับใน Part2 ล่าสุดที่เข้าฉายในเวลานี้

Saint Seiya Netflix Part2

สำหรับใน Saint Seiya Part2 จะเล่าเรื่องราวต่อจากตอนจบของ Part1 แบบต่อเนื่องทันที เมื่อพวกเซย่าผ่านศึกกับอิคคิและพวกแบล็กเซนต์ เซย่าก็พบว่าตนเองรอดชีวิตออกมาจากภูเขาไฟระเบิดได้ ซึ่งคนที่ช่วยเขาและพรรคพวกไว้ทั้งหมดก็คือ มู แต่แล้วเซย่าก็ต้องพบว่า มารีน และเหล่าซิลเวอร์เซนต์ ได้รับคำสั่งจากแซงทัวรี่ให้มาสังหารพวกเขาทั้งหมด รวมถึงซาโอริ ที่เป็นเทพีอาธีน่าด้วย การต่อสู้กับพวกซิลเวอร์เซนต์จึงเริ่มต้นขึ้น

ซึ่งใน Part2 นี้ ยังเป็นการเปิดตัวโกลเซนต์ในชุดโกลคลอธอีกหลายคน และยังเป็นบทสรุปสำหรับศึกกับนายพล วานเดอร์ กู้ดราด ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของ คิโดะ มิตสึมาสะ และเป็นผู้รวบรวมและก่อตั้งกลุ่มแบล็กเซนต์ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเหล่าทวยเทพ

ในบทนี้ ยังมีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมถึงเรื่องที่มีการดัดแปลงที่มาที่ไปของซาโอริ หรือเทพีอาธีน่า ที่ได้เพิ่มเรื่องของคำทำนายเข้ามาว่า เทพีอาธีน่า ที่จะมาเกิดในเรื่อง จะนำหายนะมาสู่มวลมนุษยชาติ เพราะเทพีอาธีน่าที่มาเกิดในรอบนี้จะไม่สามารถขัดขวางโปเซดอน และ ฮาเดส ไม่ให้ทำลายล้างโลกได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาว่า ทำไมแซงทัวรี่ถึงตามล่าซาโอริ รวมถึงเรื่องที่ทำให้พวกเซนต์เองก็แตกเป็นสองกลุ่มด้วย

 

Saint Seiya Netflix ดีไหม

การดัดแปลงมีทั้งข้อดีและข้อด้อย แน่นอนว่าหนึ่งในเรื่องที่เคยเป็นประเด็นดราม่าที่สุดก็คือ การเปลี่ยน ชุน ให้เป็นผู้หญิงไปเลย ซึ่งตอนแรกเรื่องนี้ทำให้เกิดการแอนตี้และวิจารณ์กันมาก แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆก็พบว่าการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรนัก เพียงแต่มันไปทำลายคาแรคเตอร์เด็กหนุ่มนิสัยอ่อนโยน เกลียดการต่อสู้ออกไป แต่นั่นก็ทำให้เราได้คาแรคเตอร์ใหม่คือ สาวน้อยนักสู้ใจเด็ดที่พร้อมร่วมหัวจมท้ายกับเหล่าลูกผู้ชาย

ข้อดี

1.ใส่ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงวัยรุ่นเข้ามาให้ซาโอริ

เซย่า Part2 มีการเพิ่มบทโรมานซ์แบบเล็กๆเข้ามา ที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า ทำไมเซย่าถึงยอมถวายชีวิตปกป้องซาโอริ มากกว่าแค่การที่เธอกลับมาเกิดเป็นอาธีน่าในชาติปัจจุบัน

แล้วยังช่วยเพิ่มน้ำหนักให้บางฉากว่าทำไม เซย่าและซาโอริจึงมีความผูกพันกันเป็นพิเศษ มากกว่าแค่การที่เซย่าเป็นเซนต์เปกาซัส ที่เป็นอาชาคู่ใจของอาธีน่าตามเทพปกรณัมเท่านั้น

สำหรับซาโอริในฉบับนี้ เราจะได้เห็นมุมอ่อนไหว ได้เจาะลึกความคิดของตัวละครมากขึ้น ซึ่งในมังงะแทบจะไม่ได้พูดถึงมุมนี้เลย คือกว่าจะพูดถึงความคิดในใจของซาโอริก็เป็นตอนท้ายภาคแรกเข้าไปแล้ว แถมแค่นิดเดียว ไม่ได้เน้นอะไรด้วย เพราะบทของซาโอริในมังงะต้นฉบับจะถูกจับตัวไปแล้วให้พวกเซย่าไปช่วยแทบทุกภาค แต่สำหรับฉบับของ Neflix ได้พยายามที่จะเอาพล็อตยุคเก่าตรงนี้ออก แล้วทำให้เราได้เห็นถึงมุมมองความคิดของซาโอริและเอาใจช่วยเธอในฐานะอาธีน่ามือใหม่ที่ยังสับสนกับชีวิตมากขึ้น

 

เซย่า ชุน Netflix2.ตีความคาแรคเตอร์ของพวกเซย่าขึ้นมาใหม่

ก็จริงอยู่ว่า ในต้นฉบับ แก๊งค์แมลงสาบ มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนกันอยู่แล้ว แต่ในฉบับนี้ยังเจาะคาแรคเตอร์ของแต่ละคนให้ลึกลงไปอีก ซึ่งที่ชัดๆตอนนี้คือตัวเซย่า ซึ่งในซีรีส์ของ Netflix ให้สาเหตุว่าทำไมเซย่าถึงยอมต่อสู้เพื่อซาโอริขนาดนั้น เรียกว่าตรงนี้ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ ในขณะที่ตัวอื่นๆก็ถือว่าทำได้ไม่เลว

แถมเรื่องที่ทำให้แฟนๆบางส่วนอาจจะกรี๊ด ก็คือมันเริ่มมีการปูบทชวนจิ้นระหว่าง เฮียวงะ-ชุน ที่อาจจะมาแน่ๆในศึก 12 ปราสาท เมื่อเราพบว่าเฮียวงะเริ่มมีความหวั่นไหวเล็กๆกับชุน

 

3.ตัดจุดที่ไม่สมเหตุผลทิ้ง ปรับให้ร่วมสมัยขึ้น

อาจจะต้องทำความเข้าใจว่ อ.คุรุมาดะ มาสึมิ ผู้แต่งเรื่องนี้จดว่าเป็นนักเขียนโชเน็นในยุค 80 ที่นักเขียนยุคนั้นหลายคนจะไม่คิดพล็อตเอาไว้ซับซ้อนมากนัก แต่จะวางพล็อตเรื่องบางอย่างไว้หลวมๆ แล้วมาต่อเติมเอาทีหลัง ซึ่งหลายเรื่องในเซย่าจะมีตรรกะที่ค่อนข้างแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย หากเอามาพูดถึงในสมัยปัจจุบัน

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ในมังงะจะบอกว่า มิตสึมาสะมีอะไรกับผู้หญิงเพื่อผลิตลูก 100 คนแล้วส่งไปฝึกตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก ซึ่งไม่สมเหตุผลอย่างแรงหากเอามาพูดในตอนนี้ ในฉบับของ Netlix เลยเปลี่ยนตรงนี้มาเป็นให้มิตสึมาสะค้นหาเด็กกำพร้าที่มีคุณสมบัติที่จะฝึกเป็นเซนต์แล้วส่งไปแทน แถมศึกกาแล็กซีวอร์สก็เป็นการจัดขึ้นลับๆเพื่อทดสอบเหล่าบรอนเซนต์ด้วย

อีกจุดที่ฉบับนี้ดัดแปลงไว้ได้ดีก็คือ การยกเลิกระบบที่ให้เซนต์หญิงสวมหน้ากาก แล้วมีกฎว่าหากผู้ชายเห็นหน้าต้องเลือกว่าจะรักหรือจะฆ่า ซึ่งเป็นแนวคิดคร่ำครึและเหยียดเพศหญิงในยุคก่อนมาก ในสังคมปัจจุบันโดยเ​ฉพาะผู้ชม Netflix ที่มีอยู่ทั่วโลกคงไม่ปลื้มกับพล็อตตรงนี้นัก ก็เปลี่ยนออกไปเลย

นอกจากนี้ยังดึงเอาประเด็นปริศนาจากต้นฉบับที่ถูกปล่อยค้างคาไว้มาเล่น นั่นคือตัวจริงของมารีน กับเรื่องพี่สาวของเซย่า แม้ว่าในต้นฉบับมังงะภาคฮาเดสช่วงท้ายเรื่อง จะเฉลยออกมาแล้วว่า มารีนกับเซนะ พี่สาวของเซย่า เป็นคนละคนกันก็ตาม แต่เอาจริงๆคือในมังงะตลอดทั้งเรื่องมีการโยง Hint ที่ชี้ว่ามารีนคือพี่สาวเซย่ามาตลอด แต่ดูเหมือนว่า คุรุมาดะ มาสึมิ คนแต่งเรื่อง อาจจะเปลี่ยนใจไปหักมุมเอาตอนหลัง

 

4.ที่มาของแบล็กเซนต์ดูน่าสนใจมากขึ้น

ในต้นฉบับ แบล็กเซนต์มีบทแค่ในช่วงแรกสุดแล้วก็จบไปเลย แต่ในฉบับนี้ เป้าหมายที่พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาถือว่ายิ่งใหญ่อลังการมากครับ เรียกว่าเป็นการหยิบเอาวัตถุดิบเดิมมาขยายใหม่ได้น่าสนใจดี

 

ข้อด้อย

1.บทซิลเวอร์เซนต์ มาไวไปไวมาก

ก็พอเข้าใจว่าเพราะจำนวนตอนจำกัด แต่กลายเป็นว่าศึกกับแบล็กเซนต์ทั้งสองรอบยังดูน่าจดจำมากกว่า แถมฉากต่อสู้กับพวกซิลเวอร์เซนต์ก็ไม่ได้น่าจดจำอะไรเท่าไรนัก

 

2.งานโปรดักชั่น โมชั่น

โดยเฉพาะงานภาพเคลื่อนไหว โมชั่น ภาพเคลื่อนไหวแข็งและยังดูไม่เนียนมากในหลายตอน มาทำดีขึ้นช่วงท้ายๆ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องรอลุ้นเอาในศึกถัดไป ว่าจะพัฒนาขึ้นได้ดีกว่านี้หรือไม่ แต่ในช่วงแรกทำได้ไม่ดีนัก ไม่น่าแปลกว่าทำไมหลายคอมเม้นท์จากต่างชาติมองว่างานโปรดักชั่นดูพื้นๆและเด็กมากราวกับเป็นอนิเมชั่นขายของเล่นเด็ก เพราะมันน่าจะทำในส่วนของงานโปรดักชั่นให้ออกมาได้อลังการมากกว่านี้ โดยเฉพาะแฟนเซย่ามีอยู่ทั่วโลกด้วย

สำหรับคนที่ไม่ชอบภาพแนว 3D ถ้าลองเปิดใจดูไปเรื่อยๆ อาจจะเริ่มชินกับมันครับ

 

3.เอฟเฟคการปล่อยท่าไม้ตาย

โดยเฉพาะการใช้หมัดดาวหางเปกาซัส อันนี้น่าผิดหวังพอสมควร คือในส่วนของหมัดดาวตกทำได้ดี แต่การใช้หมัดดาวหางครั้งแรกของเซย่า จะเริ่มจากการปล่ยหมัดดาวตกรัวๆจำนวนมากแล้วจึงมารวมเป็นดาวหาง แต่กลับทำฉากนี้ได้ไม่ดีนัก รวมถึงฉากปล่อยท่าไม้ตายของอีกหลายตัวละครด้วย

โดยสรุปในภาพรวมแล้ว นี่เป็นเซนต์เซย่า “ที่มีความพยายาม” ในการดัดแปลงต้นฉบับมังงะที่มันเป็นผลงานปลายยุค 80 แนวคิดบางอย่างดูเชยและมีตรรกะแปลกๆ มาปรับให้ร่วมสมัยขึ้น กระชับมากขึ้น แถมยังเก็บงานจากต้นฉบับในระดับที่เคารพพอสมควร เป็นอีกผลงานที่หวังว่าจะปรับปรุงในแง่ของเอฟเฟคและ CG ให้สมูทและมีความอลังการ กับฉากต่อสู้ที่คาดหวังว่าจะทรงพลังมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคถัดไปซึ่งจะเป็นศึก 12 ปราสาท ที่ถือว่าเป็นบทสำคัญที่ทุกคนรอคอยครับ

 

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

เว็บไซต์อ้างอิง 

https://www.imdb.com/title/tt6908976/

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!