playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Eternaut นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์ (Netflix) ซีรีส์ไซไฟที่เปลี่ยนมุมมองวันสิ้นโลกจากตำนานอาร์เจนตินา

Summary

นี่คือซีรีส์ไซไฟ-วันสิ้นโลกจากเอเลี่ยนที่แตกต่างจากสูตรสำเร็จเดิมๆ ด้วยการเน้นตัวละครและบรรยากาศดราม่าที่เข้มข้นไปช้าๆ มากกว่าเน้นฉากแอ็กชันยิงกันเอามันส์ โดยเป็นการเล่าเรื่องราวมุมมองกลุ่มคนบ้านๆ ที่พยายามเอาชีวิตรอดโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร แบบเดียวกับ Cloverfiled ผสมกับ Starship Troopers ที่ลดขนาดลงมาเป็นวงแคบย่อมๆ ในเมืองบัวโนสไอเรสของอาร์เจนติน่า โดยมีงานสร้างเก็บรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมทุกจุด ร่วมกับการแสดงที่โดดเด่น และเรื่องราวที่ลึกมากซ่อนไว้ตั้งแต่ความหมายของชื่อเรื่อง “นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์” ซึ่งตอนจบของซีซั่นแรกบอกใบ้ถึงเรื่องราวจินตนาการไซไฟที่ไปไกลกว่าที่เห็นมาก (เหมาะสมแล้วที่ต้นฉบับจะถูกยกย่องให้เป็นตำนานของอาร์เจนติน่า) นับเป็นซีรีส์แนวไซไฟเอเลี่ยนที่ลึกลับน่าค้นหา จนห้ามพลาดเลยครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เล่าเรื่องหายนะโลกในมุมมองที่แปลกใหม่ผ่านบริบทสังคมอาร์เจนตินา
  • งานสร้างคุณภาพสูงแม้จะเป็นการผลิตนอกฮอลลีวูด
  • การพัฒนาตัวละครมีความสมจริงและน่าติดตาม
  • ผสมผสานแนวไซไฟ-ทริลเลอร์-ดราม่าได้อย่างลงตัว
  • ซ่อนปริศนาและความหมายลึกซึ้งไว้ในเนื้อเรื่อง
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ดำเนินเรื่องช้าโดยเฉพาะในสองตอนแรก
  • ทิ้งคำถามหลายข้อไว้โดยไม่มีคำตอบชัดเจน

 

ADBRO

The Eternaut นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์  ซีรีส์ Original Netflix จากอาร์เจนตินา ในแนวไซไฟทริลเลอร์ ความยาว 6 ตอนจบซีซั่นแรก มีพากย์ไทย นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนธรรมดาที่ต้องเอาชีวิตรอดจาก “หิมะพิษ” ที่โปรยปรายลงมาทั่วโลก พร้อมกับภัยคุกคามลึกลับจากต่างดาว
The Eternaut (2025) on IMDb

รีวิว The Eternaut นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์  (ไม่มีสปอยล์)

ซีรีส์นี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนคลาสสิก ปี 1957 อันเป็นตำนานของอาร์เจนตินา โดยนำเสนอมุมมองหายนะวันสิ้นโลกในรูปแบบที่แตกต่างจากงานอื่นๆ ผ่านบริบทสังคมอาร์เจนตินาและการใช้เทคโนโลยีแบบบ้านๆ ทำให้เรื่องราวมีความสดใหม่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเจาะลึกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ทำให้นึกถึงซีรีส์อย่าง “ดาวซานถี่” ที่นำประวัติศาสตร์อันมืดมิดของจีนมาดัดแปลงในมุมมองการต่อสู้กับเอเลี่ยนแบบอลังการ แต่ “The Eternaut” กลับเล่าในมุมตรงกันข้ามได้อย่างน่าประทับใจและเหนือความคาดหมาย

ซีรีส์ค่อยๆ ดำเนินเรื่องอย่างช้าๆ โดยเฉพาะในสองตอนแรกที่พาผู้ชมทำความรู้จักกับปรากฏการณ์หิมะพิษ ผ่านตัวละครหลักสองคน คือ ฮวน ผู้ที่พยายามตามหาลูกสาวที่หายตัวไป และตาโน เพื่อนสนิทที่เป็นวิศวกรไฟฟ้าผู้มีความรู้รอบด้าน ซึ่งพยายามอธิบายปรากฏการณ์แปลกประหลาดด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่คิดขึ้นเอง โดยไม่มีการยืนยันว่าสิ่งที่เขาวิเคราะห์จะถูกต้องหรือไม่

ซีรีส์เล่าเรื่องในแนวเดียวกับภาพยนตร์อย่าง “Cloverfield” คือไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงใดๆ ให้ผู้ชมรับรู้ ไม่มีนักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง มีเพียงกลุ่มคนธรรมดาที่พยายามค้นหาคำตอบด้วยตนเอง เสมือนคนจริงๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่ทันตั้งตัว และต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยวิธีการแบบพื้นฐาน คือการย้อนกลับไปใช้เทคโนโลยีตั้งต้นแบบอนาล็อก

จุดเด่นของซีรีส์คือการนำสิ่งของโบราณเก่าแก่กลับมาใช้งานอีกครั้ง และการดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ให้ใช้งานได้ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง โจทย์สำคัญคือการเอาตัวรอดจากหิมะพิษที่ตกลงมาตลอดเวลา ซึ่งหากสัมผัสก็จะเสียชีวิตทันที ซีรีส์พาเราติดตามการดิ้นรนเพื่อหาอาหาร การติดต่อสื่อสาร และการเดินทาง โดยใช้จุดนี้สร้างความระทึกให้กับเรื่อง แต่เมื่อสามารถเอาชนะอุปสรรคจากหิมะพิษได้แล้ว กลับพบว่ามนุษย์ด้วยกันเองคือปัญหาที่น่ากลัวกว่า โดยเฉพาะการที่ต้องพบเจอใครที่ไม่รู้จักและคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือหักหลังในตอนไหน

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไม่ได้เป็นไปในแนวมนุษย์ฆ่ากันเองแบบหนังวันสิ้นโลกทั่วไป ซีรีส์ได้ให้คำใบ้มาตลอดตั้งแต่ต้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่มีสิ่งลึกลับซ่อนอยู่เบื้องหลัง โดยเปิดเผยให้เห็นเอเลี่ยนในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นแมลงยักษ์จำนวนมากคล้ายกับในภาพยนตร์ “Starship Troopers” แต่ย้ายมาอยู่บนโลก พร้อมฉากการต่อสู้ระดับย่อมๆ ที่สนุกน่าตื่นเต้นพอประมาณในแบบฉบับของซีรีส์

ในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง เนื้อหาหลักคือการรวมพลังต่อสู้กับเหล่าแมลงต่างดาว โดยซีรีส์ได้แฝงปริศนาต่างๆ ไว้อย่างแยบยล ซึ่งผู้ชมอาจไม่ทันสังเกตตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง โดยเฉพาะชื่อเรื่อง “The Eternaut” ที่เป็นคำผสมระหว่าง “eternal” (นิรันดร์) กับ “naut” (นักเดินทาง) ซึ่งสะท้อนถึงแก่นของเรื่องทั้งหมด โดยมีฮวนเป็นตัวละครหลักที่มักเห็นภาพหลอนซ้ำๆ ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ ซึ่งซีรีส์ได้เฉลยบางส่วนในตอนจบ พร้อมทิ้งปริศนาชวนติดตามไว้มากมาย

งานสร้างของซีรีส์นี้แม้จะผลิตโดยอาร์เจนตินา แต่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในทุกด้าน ตั้งแต่การถ่ายทอดภาพเมืองบัวโนสไอเรสที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างน่าขนลุก ภาพถนนร้าง รถชน และศพที่เกลื่อนกลาด กลายเป็นฉากหลังที่ทั้งงดงามและหลอนประสาท ส่วนเอเลี่ยนที่บุกจู่โจมในจำนวนมากทั้งในฉากระยะใกล้และมุมสูง พร้อมฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด ล้วนมีภาพและเอฟเฟกต์วิชวลที่ยอดเยี่ยมในระดับเดียวกับภาพยนตร์ฉายในโรงภาพยนตร์

สรุปโดยรวมแล้ว นี่คือซีรีส์ไซไฟ-วันสิ้นโลกที่แตกต่างจากสูตรสำเร็จเดิมๆ ด้วยการเน้นตัวละครและบรรยากาศมากกว่าแอ็กชัน งานสร้างยอดเยี่ยม การแสดงนำโดดเด่น และนำเสนอความสดใหม่ผ่านฉากหลังอาร์เจนตินา เหมาะกับคนที่ชอบซีรีส์บรรยากาศกดดัน ดราม่าเข้มข้น และเนื้อเรื่องที่ค่อยๆ คลี่คลายอย่างมีชั้นเชิง


สปอยล์เนื้อเรื่องทั้งหมดของ The Eternaut นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์

ภาพปกเวอร์ชั่นใหม่ปี 1969 ส่วนต้นฉบับจริงตีพิมพ์ปี 1957

แปลจาก https://en.wikipedia.org/wiki/The_Eternaut
เรื่องราวไซไฟ-เอาชีวิตรอดที่เกิดขึ้นในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เริ่มต้นในคืนหนึ่งที่ดูเหมือนจะธรรมดา ขณะที่ฮวน ซัลโว (Juan Salvo) และกลุ่มเพื่อนกำลังเล่นไพ่กันอยู่ ทันใดนั้นไฟดับทั่วเมือง และมีหิมะขาวตกลงมาอย่างผิดฤดูกาล แต่หิมะนี้กลับเป็น “หิมะพิษ” ที่สัมผัสผิวหนังแล้วจะตายทันที ซัลโวและเพื่อนๆ ต้องปิดประตูหน้าต่างและหาวิธีเอาชีวิตรอดในบ้าน ขณะที่ข้างนอกผู้คนล้มตายเกลื่อนถนน

เมื่อรู้ว่าหิมะพิษอันตรายถึงชีวิต ซัลโวและกลุ่มเพื่อนจึงประดิษฐ์ชุดป้องกันชั่วคราวเพื่อออกไปตามหาคนที่รัก โดยเฉพาะลูกสาวของซัลโวที่หายตัวไป ระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ รวมถึงกลุ่มเด็กๆ ที่ติดอยู่ในเมือง

ไม่นานหลังจากนั้น ความจริงเปิดเผยว่าหิมะพิษเป็นส่วนหนึ่งของการรุกรานจากเอเลี่ยน เอเลี่ยนใช้หิมะพิษเพื่อกำจัดประชากร จากนั้นจึงส่งกองทัพแมลงยักษ์คล้ายด้วงออกมาโจมตีมนุษย์ กองทัพมนุษย์พยายามตั้งรับและต่อสู้กับแมลงเหล่านี้ แต่พบว่าพวกมันถูกควบคุมโดยเอเลี่ยนอีกชั้นหนึ่งที่เรียกว่า “Hand” ซึ่งมีลักษณะมือแปลกประหลาดและสามารถควบคุมทั้งแมลงและมนุษย์บางคนได้ด้วยอุปกรณ์พิเศษ (ซีซั่นแรกจบลงที่จุดนี้)

ต่อมาเปิดเผยว่า “Hand” เองก็เป็นเพียงหุ่นเชิดของเอเลี่ยนที่เหนือกว่าอีกทีหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า “Them” หรือ “พวกมัน” กลุ่มของซัลโวต้องเผชิญกับทั้งแมลงยักษ์, สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “Gurbos” และมนุษย์ที่ถูกควบคุมโดยเอเลี่ยน

เอเลี่ยนยังใช้กลอุบายหลอกล่อผู้รอดชีวิตให้ไปยัง “เขตปลอดภัย” ที่แท้จริงแล้วเป็นกับดักเพื่อจับและกำจัดมนุษย์ เพื่อนของซัลโวหลายคนยอมเสียสละตัวเองเพื่อให้ซัลโวและครอบครัวหนีรอด ในที่สุดพวกเขาได้ขึ้นยานอวกาศของเอเลี่ยนโดยบังเอิญ และซัลโวเผลอกดปุ่มที่ทำให้เกิดการเดินทางข้ามเวลาและมิติ

ซัลโวและครอบครัวถูกแยกจากกันในห้วงเวลาและอวกาศซัลโวกลายเป็น “The Eternaut” หรือ “นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์” ที่ต้องเดินทางข้ามจักรวาลและเส้นเวลาต่างๆ เพื่อตามหาครอบครัวของเขาในที่สุดเขาได้ย้อนกลับมาที่บ้านของนักเขียนการ์ตูน (ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้แต่งเรื่องนี้) และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ก่อนที่เขาจะพบว่าตัวเองย้อนกลับมาอยู่ในบัวโนสไอเรสก่อนเหตุการณ์รุกรานอีกครั้ง กลายเป็นวัฏจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------