playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Big 4 หนังแอ็กชั่นตลกจาก Netflix อินโดนีเซียที่ไม่ต่างจากหนังไทยเลยสักนิด

The Big 4

Summary

หนังแอ็กชั่นตลกจากอินโดนีเซียที่แทบจะเหมือนหนังตลกไทยในหลายๆ ด้าน โดยมีพากย์ไทยมาด้วย ตัวเรื่องดูสนุกเพลินได้ระดับหนึ่งสำหรับคนที่ชอบหนังไทยแนวๆ แบบนี้  แม้บทจะลวกๆ ในช่วงหลังถึงขั้นแย่ (ทั้งๆ ที่เปิดเรื่องมาช่วงแรกค่อนข้างดี) แต่ก็มีดีตรงเน้นฉากแอ็กชั่นสไตล์เว่อร์ๆ เท่ๆ แบบจอห์นวิคเยอะจนแทบจะก็อปกันมาเลย แม้จะดูปลอมๆ ก็ตาม 

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังแอ็กชั่นตลกจากอินโดนีเซีย
  • ฉากแอ็กชั่นสไตล์จอห์นวิคยัดมาเยอะ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทช่วงหลังทำมาลวกๆ จนเข้าขั้นแย่
  • ฉากแอ็กชั่นดูปลอมๆ เยอะทั้งเรื่อง
  • ตัวละครนางเอกจากเคร่งขรึมกลายเป็นบ๊องๆ ในช่วงหลังไม่เข้ากันเลย

 

The Big 4 หนังแอ็กชั่นตลกจากงานสร้าง Original Netflix อินโดนีเซีย เรื่องราวของอดีตแก๊งนักฆ่า 4 คนที่มีพ่อบุญธรรมรับพวกเขามาเลี้ยงแล้วฝึกให้เป็นนักฆ่าที่รับงานกำจัดคนชั่ว แต่เมื่อพ่อบุญธรรมตายไป พวกเขาจึงหลบซ่อนตัว จนกระทั่งลูกสาวแท้ๆ ของพ่อบุญธรรมตามมาเจอพวกเขา โดยมีนักฆ่ามาตามล่าเธอด้วย พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันกลับมาปฏิบัติการทวงคืนความยุติธรรมให้พ่อของพวกเขาอีกครั้ง

 

รีวิว The Big 4

หนังที่ติดอันดับ 1 เน็ตฟลิกในไทยอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ไม่ถึงกับแปลกใจอะไรเพราะนี่มันคือแนวหนังแอ็กชั่นตลกแบบไทยๆ ยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่อินโดนีเซียเองก็เป็นชาติในเอเชียที่มีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตไม่ต่างจากไทยมาก หลายๆ อย่างในเรื่องนี้มันจึงเป็นมุกตลกแบบที่คนไทยขำได้ อย่างการทำพิธีความเชื่อไสยศาสตร์หากินกับนักท่องเที่ยว มุกตลกจากตัวละครเอ๋อๆ ไม่สมประกอบ หรือพวกมุกโลวคลาสพูดสองแง่สองง่าม พวกมุกเสี่ยว มุกตีหัวเข้าบ้านแบบไทยๆ อินโดก็นำเสนอออกมาไม่ต่างกัน ซึ่งถามว่าขำมั้ย ก็บอกเลยขำครับ แม้จะไม่ได้ขำทุกมุก แต่ด้วยความที่ผู้เขียนก็ไม่ใช่คนที่ชอบดูแนวนี้ของไทยอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ต่างกับการดูหนังไทยมาก แต่นั่นอาจจะเป็นข้อดีเพราะมุกแนวนี้เป็นตลาดแมสที่ชื่นชอบในไทย แม้แต่ในเน็ตฟลิกซ์เองหนังไทยแนวนี้ก็ไต่ขึ้นมาติดท็อปได้แทบทุกเรื่องที่หลุดจากโรงมาไทย ดังนั้นผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะชื่นชอบและขำไปกับมุกตลกในเรื่องได้ไม่ยากนัก

แต่ที่ดูดีกว่าตลกก็เป็นในส่วนฉากแอ็กชั่นยิงกันของเรื่องที่ดูก็รู้เลยว่าเลียนแบบสไตล์จอห์นวิคมากทั้งท่วงท่าเทๆ มุมกล้อง ฉากฆ่าแบบโหดๆ มีฉากแหวะหลายครั้ง ซึ่งแม้ทั้งหมดนี้จะดูหลอกๆ ไม่ถึงกับเป็นคิวบู๊ที่เนียนมาก ซึ่งจอห์นวิคก็ไม่เนียน แต่มันก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีฉากแอ็กชั่นที่ค่อนข้างดูสนุก ถือว่าดีกว่าหนังตลกไทยในแนวนี้เลยก็ได้ แล้วฉากแอ็กชั่นก็ถูกยัดใส่มาค่อนข้างเยอะ เยอะจนรู้สึกเลยว่าหนังตั้งใจขายฉากแอ็กชั่นมากกว่าบทตลกในเรื่องด้วย จึงน่าจะถูกใจคนดูหนังย่อยง่ายไม่ต้องคิดอะไรมากแน่ๆ

แต่แม้เรื่องจะดูเพลินๆ ค่อนไปในทางดี แต่ก็ยังไม่ถึงกับดีมากจนน่าชื่นชมอะไรได้มาก เพราะบทหนังก็ยังออกแนวเหลวเป๋วลวกๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นแก่นสาร ทั้งๆ ที่ช่วงแรกของเรื่องที่เปิดตัวจนมาถึงการที่นางเอกตามหามาเจอพวกแก๊งบิ๊ก 4 ถือว่าบทดูมีอะไรลึกๆ ที่น่าติดตามว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อของนางเอก รวมถึงตัวร้ายที่เป็นอดีตลูกคนหนึ่ง แต่พอหลังจากที่นางเอกเจอพวกแก๊งบิ๊ก 4 แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เผลอกินน้ำหนังกบจนเพี้ยนเอ๋อๆ ตัวละครนางเอกทำตัวปัญญาอ่อนเพื่อแค่ให้เกิดมุกตลก ตัวบทจากนั้นคือเละเทะมากไม่ต่างอะไรกับหนังไทยตีหัวเข้าบ้านเลยสักนิด ทั้งบทไร้เหตุผลแบบป่วยๆ หลายอย่างมาก

ตัวนักแสดงเองพระเอกดูเหมือนสิงห์ขี้ยาก็จริง แต่ก็เล่นได้ดีมีความทะเล้น+เสน่ห์เล็กๆ ที่ทำให้เราพอเชื่อได้ว่าเขาคือพี่ใหญ่ที่คอยปกป้องน้องๆ ตัวนางเอกก็ถือว่าสวยน่ารักสไตล์เอเชียคล้ายๆ นางเอกไทยแบบที่ถ้าไม่รู้ว่าอินโดทำก็นึกว่าคนไทยเลยนี่แหละ แต่บทของเธอช่วงหลังไปบ๊องๆ จนดูออกทะเลจากตอนแรกมากไปแค่นั้น ส่วนน้องๆ ที่เหลือก็ออกแนวบ้าบอ โดยตัวเรื่องวางให้น้องเล็กเป็นคนที่ไม่มีสกิลความสามารถอะไรเลย เกิดมาเพื่อเป็นตัวล่อเป้าพวกพี่ๆ โดยแท้ แต่ตัวร้ายของเรื่องดูต๊องๆ มากกว่าน่ากลัวจนเกินไป ดูแล้วแทบไม่รู้สึกเลยว่าหมอนี่เป็นศิษย์เอกคนแรกที่เก่งกว่าพวกบิ๊ก 4 ตรงไหนเลย

หนังจบแบบไม่จบเพราะทิ้งเรื่องราวไว้ว่ามีต่อเลย ซึ่งก็น่าจะได้ทำต่อเพราะดูวามนิยมค่อนข้างดีหลายประเทศในแถบเอเชีย ก็ถือว่าเป็นหนังออริจินอลเน็ตฟลิกอินโดนีเซียที่ทำสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียวในตลาดโลกครับ ซึ่งถ้าใครจะลองรับชมดูก็ได้ นี่ไม่ใช่หนังที่แย่ แแต่แค่ไม่แตกต่างจากหนังตลกไทยในตลาดบ้านเราเท่านั้นเองครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!