playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว All the Old Knives หนังสายลับที่คุยกันทั้งเรื่อง แต่สมจริงอย่างคาดไม่ถึง!

สรุป

หนังสายลับที่แปลกแตกต่างจากทุกเรื่อง ด้วยการใช้บทสนทนาล้วนๆ ขับเคลื่อนเรื่องราวในเหตุการณ์จี้เครื่องบินผ่านห้องประชุม CIA ที่กลายมาเป็นปมทรยศหักหลังแบบสายลับที่สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแต่ใน 1 ชั่วโมงแรกเนื้อเรื่องอาจจะดูเรียบๆ ชวนงงจากการเล่าเรื่องแบบย้อนอดีตทีละนิดๆ ที่อาจจะทำให้คนดูเทไปก่อน แต่ขอให้ผ่านไปได้ นี่คือส่วนเซอร์ไพรส์ที่ดีจนคาดไม่ถึงแน่นอนครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังสายลับที่คุยกันทั้งเรื่อง แต่เต็มไปด้วยความสมจริงของเรื่องราวสายลับจริงๆ
  • นักแสดงนำเล่นดีมาก
  • มีฉากน้อยแต่ดีเหมาะสมกับเรื่องราว
  • มีซับไทยครบ

Cons

  • การเล่าเรื่องใน 1 ชั่วโมงแรกอาจจะสโลว์เบิร์นมาก

All the Old Knives สายลับอดีตรัก หนังดราม่าสายลับจาก Amazon Prime สร้างจากนิยายดังในชื่อเดียว เรื่องราวของโลกสายลับที่แปลกแตกต่างไปจากทุกเรื่องด้วยการใช้บทสนทนาขับเคลื่อนเรื่องราวล้วนๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความเรียลสมจริงอย่างคาดไม่ถึงเหมือนกัน

 All the Old Knives (2022) on IMDb

ตัวอย่าง

เรื่องย่อ

เจ้าหน้าที่ซีไอเอสองคนซึ่งเคยเป็นอดีตคู่รัก (คริส ไพน์ และธันดิเว นิวตัน) หวนกลับมาเจอกันหลังจากเหตุการณ์การพยายามช่วยเหลือตัวประกันที่ล้มเหลวเมื่อ 8 ปีก่อน  เพื่อสืบสวนค้นหาคำตอบว่าใครในทีมคือสายที่ส่งข้อมูลให้ผู้ก่อการร้ายจนทำให้ภารกิจล้มเหลว และมันได้กลายเป็นตัวจุดชนวนความขัดแย้งระหว่างพวกเขา ในค่ำคืนดินเนอร์ที่ทั้งคู่นัดพบกัน

รีวิว All the Old Knives สายลับอดีตรัก

ด้วยความที่หน้าหนังเหมือนหนังคู่รักสายลับที่เคยมีมาก่อนนี้อย่างมาก อย่าง Mr. & Mrs. Smith หรือแนวนี้ที่ต้องมีสายลับพระเอกนางเอกมาชิงไหวพริบหักเหลี่ยมกัน พร้อมฉากแอ็กชั่นยิงกันมันส์หยด ทำให้ผู้ชมที่คาดหวังจากอะไรแบบนี้เททิ้งหนังเรื่องนี้ในเว็บให้คะแนนมากอย่าง IMDB แต่ถ้าใครดูจนจบหรือเข้าใจว่าหนังไม่ได้เป็นอย่างที่ว่า คะแนนก็จะออกมาดีแบบผิดคาดเลย ซึ่งนี่คือหนึ่งในหนังเสียงแตก แต่ไม่ได้แตกเพราะตัวหนังมีปัญหา แต่เป็นความเข้าใจผิดและดูไม่จบของผู้ชมล้วนๆ

ต้องบอกให้เข้าใจก่อนเลยว่านี่เป็นหนังสายลับที่มีแต่บทสนทนาล้วนๆ ไม่มีฉากแอ็กชั่น ไม่ได้เน้นระทึกอะไรมาก ซึ่งถือว่าแหวกแนวหนังแนวนี้ไปเลย แล้วอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาดี ต้องบอกว่ามันคือครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเรื่องที่เซอร์ไพรส์คนดูเอามากๆ คือทั้งเรื่องชั่วโมงแรกหนังจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสืบสวนย้อนกลับไป 8 ปีก่อน เมื่อทีม CIA ต้องเจอกับผู้ก่อการร้ายมุสลิมที่จี้เครื่องบินออสเตรเลียไว้ แล้วยื่นเงื่อนไขให้ปล่อยตัวนักโทษจำนวนหนึ่ง แต่หนังจะไม่ลงลึกในรายละเอียดใดๆ ถึงเหตุการณ์นี้เลย แล้วปล่อยให้คนดูเคว้งกับข้อมูลค่อยๆ ปะติดปะต่อมาทีละนิดจากบทสนทนาที่พระเอกตามสืบเค้นข้อมูลจากคนร่วมทีมในวันนั้นเมื่อ 8 ปีก่อน โดยมีฉากหลักอยู่ที่โต๊ะดินเนอร์ของตัวเอกทั้งคู่ ซึ่งจะเป็นการพูดคุยสนทนาถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา เมื่อทั้งคู่คืออดีตคนรัก แต่เหตุการณ์จี้เครื่องบินนั้นกลับเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปทั้งคู่ และไม่อาจจะได้มาอยู่ด้วยกันอีกต่อ

ใน 1 ชั่วโมงแรกหนังอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรมาก คือเราก็แค่รับรู้ข้อมูลเหตุการณ์วันจี้เครื่องบินไปเรื่อยๆ เชื่อว่าถ้าใครยังดูไม่พ้นตรงนี้ก็คงเทหนังเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าอดทนดูอีกนิดหลัง 1 ชั่วโมงไป เรื่องราวกลับมีอะไรไม่ชอบมาพากลเข้ามา และจะเปิดเซอไพรส์แรกให้เราได้ชมกัน ซึ่งเชื่อเลยว่ามีอึ้งแน่นอน และต่อจากนั้นคือหนังสายลับอีกม้วนที่เป็นเรื่องราวทรยศหักหลังแบบที่คาดไม่ถึง ต่อด้วยฉากไคลแม็กซ์ที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นหนังรักแบบไม่คาดคิดเลยว่าที่ปูมาทั้งหมดจะมาลงเอยที่จุดนี้ได้ ซึ่งนี่เองคือส่วนที่สุดยอดของหนังเรื่องนี้ และก็มาจากบทสนทนาล้วนๆ แทบจะเรียกว่าเป็นหนังทุนต่ำที่เล่นกับบทสนทนาล้วนๆ เลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยอารมณ์สายลับจริงจังที่ดูเรียลแบบดูแล้วรู้สึกเชื่อเลยว่าการทำงานสายลับจริงๆ เป็นแบบนี้มากกว่าพวกเจมส์บอนด์อะไรแบบนั้น

ถึงหนังจะดูใช้ฉากน้อย หลักๆ คือมีฉากในเครื่องบิน ฉากในห้องทำงาน CIA ฉากโต๊ะดินเนอร์ แต่งานโปรดักชั่นเหล้านี้ก็ไม่ได้ดูโลวอะไร หนังทำฉากออกมาน้อยก็จริง แต่จริงๆ มันก็เพียงพอแล้วกับเรื่องราว เพราะนี่คือหนังที่ขับเคลื่อนด้วยบทสนทนาการการแสดงของนักแสดงล้วนๆ ซึ่งทั้ง คริส ไพน์ และธันดิเว นิวตัน ก็เล่นมันออกมาได้ดีมาก จนทำให้เราอินเมื่อถึงช่วงสุดท้ายของเรื่องได้ แต่ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น มีบทแค่นิดหน่อยในตำแหน่งหัวหน้าทีม แทบไม่ได้เล่นอะไร แต่ภาพลักษณ์ของเขาก็ทำให้บทนี้ในตอนจบดูเหมาะสมกันมากครับ

นี่เป็นหนังที่อาจจะไม่ถึงกับเรียกว่าห้ามพลาด แต่ถ้าดูจนจบเมื่อไหร่ก็ต้องรู้สึกเลยว่านี่คือหนังดีมากเรื่องหนึ่ง ขอแนะนำให้ลองดูให้จบแล้วตัดสินด้วยตัวเองครับ

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!