playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Anything’s Possible หนังวัยรุ่นไฮสคูลที่เปิดมุมมองการเป็นทรานส์ในโรงเรียนได้อย่างน่าสนใจ

Anything's Possible

Summary

นี่เป็นหนังรักไฮสคูลที่พล็อตเกร่อ แต่ปมของเรื่องไม่เกร่อ ว่าด้วยการเป็นทรานส์แล้วมีแฟนในไฮสคูลจะเป็นยังไง ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากหาหนังรักวัยรุ่นแตกต่าง ไม่หวานจ๋า หวานพอดีๆ และเต็มไปด้วยปมปัญหาทันสมัยในมุมมองของทรานส์จริงๆ ที่น่าสนใจเพียงพอต่อการทดลองรับชมได้ครับ (ตัวเรื่องมีพากย์ไทย และก็พากย์ได้ดีมากโดยเฉพาะเสียงของนางเอก)

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนังรักไฮสคูลที่นางเอกเป็นทรานส์จริงๆใ นบททรานส์
  • รวมปมปัญหาการเป็นทรานส์ไว้เยอะ
  • มุมมองเรื่อง Woke จากสายตาทรานส์
  • พระเอกน่ารัก แสดงดี
  • ตอนจบค่อนข้างเรียลมาก
  • มีพากย์ไทยที่ดีมาก

Cons

  • ปมปัญหาหลายอันจบแบบง่ายๆ เบาไปทำให้เรื่องดูไม่หนักแน่นกับการเล่นเรื่องทรานส์ตามจริง
  • ตัวละครเพื่อนของทั้งสองฝ่ายออกแนวงี่เง่ายันจบ

Anything’s Possible หนังของ Prime Video เมื่อ คาล หนุ่มเนิร์ดมัธยมปลายโพสต์เว็บบอร์ดแบบไม่เปิดเผยตัวตน ระบายความในใจเรื่องที่เขาแอบชอบทรานส์สุดคูลในโรงเรียน ผลตอบรับที่ได้ดีเกินคาดจนทำให้เขาตัดสินใจชวนเธอออกเดต เรื่องราวความรักเจน Z ในรูปแบบทรานส์ไฮสคูลจึงได้เริ่มต้นขึ้น!
 Anything's Possible (2022) on IMDb

รีวิว Anything’s Possible

หนังรักวัยรุ่นไฮสคูลที่ใช้นางเอกเป็นทรานส์ ในบททรานส์จริงๆ ตามเรื่อง เป็นเรื่องแรกเลยก็ว่าได้ที่เป็นตัวเอกและเป็นเรื่องราวการเปลี่ยนของชีวิตวัยรุ่นของทรานส์ ซึ่งไม่ได้มีหนังหรือซีรีส์ทำออกมาเน้นๆ ตรงๆ กันสักเท่าไหร่ ก็ถือว่าตัวเรื่องมีประเด็นน่าสนใจตั้งแต่เริ่ม แตกต่างจากหนังรักไฮสคูลที่ทำกันเกร่อไปหมดอยู่แล้ว

เรื่องนี้ได้ Eva Reign นักแสดงผิวดำที่เป็นทรานส์จริงมาเล่น ซึ่งเธอก็มีชื่อเสียงในกลุ่ม LGTBQ อยู่แล้วด้วย ตัวเรื่องนำเสนอมุมมองของทรานส์ในแบบที่เหมือนถ่ายทอดประสบการณ์จริงๆ ของเธอออกมาให้ได้รับชมกัน ซึ่งหลายอย่างคนปกติทั่วไปไม่มีทางรับรู้หรือเข้าใจแน่ อย่างการมีแฟนในเรื่องนี้ที่เป้นปัญหากับทรานส์ในรายละเอียดยิบย่อยหลายอย่างมาก อย่าง คนเป็นทรานส์ควรบอกว่าตัวเองเป็นกับคนอื่นไปเลยหรือไม่ ทรานส์คิดยังไงกับการมีแฟนที่มองว่า มาคบเพราะต้องการตื่นรู้ตามกระแส Woke หรือว่าคบเพราะเป็นทรานส์ที่ดูพิเศษกว่าผู้หญิงปกติ ซึ่งหลายเรื่องทำให้รู้เลยว่าทรานส์ต้องระวังและคิดมกากับเรื่องยิบย่อยมากกว่าสถานะภาพเกย์เยอะ ขนาดที่ว่าในเรื่องมีมุกตลกช่วงหนึ่งที่พ่อแม่พระเอกเห็นลูกค้นหาข้อมูลทรานส์กลับรู้สึกกังวลหนัก พอบอกว่าไม่เป็นกลับโล่งใจคิดว่าลูกเป็นแค่เกย์ ซึ่งนี่คืออเมริกา ประเทศที่มีเสรีภาพทุกด้าน แต่เรื่องทรานส์ก็ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคนที่ยังไม่เข้าใจดีนัก รวมถึงเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่มองทรานส์ต่างออกไปจากเกย์ หรือมัดรวมว่าเป็นเกย์ก็เป็นปัญหามากมายที่เรื่องนี้นำเสนอออกมาเช่นกัน ว่ากันง่ายๆ นี่คือหนังที่มีแต่เรื่องวุ่นวายกับการเป็นทรานส์ในโรงเรียน จนถึงขั้นที่ตอนหลังตัวนางเอกเองก็ยังเตือนทุกคนผ่านวิดีโอแชนแนลของเธอว่าอย่าเป็นทรานส์ซะงั้นเลย

แต่หนังก็ไม่ได้ดูแล้วมีแต่เรื่องปวดหัวอย่างที่กล่าวมาด้านบน เพราะตัวเรื่องจริงๆ ก็ยังเป็นหนังรักไฮสคูลตรงๆ เลยเรื่องหนึ่ง แค่นางเอกเป็นทรานส์เท่านั้นแล้วตัวพระเอกก็พยายามปฏิบัติกับเธอให้เหมือนปกติ แต่อะไรๆ มันดันไม่ปกติตามไปด้วยแค่นั้น แต่ก็ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายกับฉากน่ารักๆ มากมาย โดยเฉพาะช่วงที่กำลังจีบเปิดเผยความรู้สึกกันนี่เป็นหนังรักที่ดูแล้วกุ๊กกิ๊กชุ่มชื่นหัวใจมาก และพระเอกก็น่ารักตามบทจริงๆ ด้วย (แสดงโดย Abubakr Ali) โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าบทเทไปที่นางเอกทรานส์อยู่ฝ่ายเดียวจากปมใหญ่ของเรื่องด้วย 

ตามสูตรหนังวัยรุ่นคือต้องมีปมสำคัญในชีวิตที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ในเรื่องนี้นอกจากการเข้าเรียนมหาลัยแล้วก็คือ การที่ตัวเอกทั้งคู่ต่างมีมุมมองในการใช้ชีวิตแตกต่างกันพอสมควร ตัวพระเอกเองมีนิสัยชอบทำตามความคาดหวังของคนอื่น เพราะอยากให้คนอื่นสบายใจ แต่มันก็นำมาซึ่งปัญหาที่ตัวเขาเองไม่ได้เลือกทำสิ่งนั้นตามใจตัวเองจริงๆ การที่มาคบกับนางเอกทรานส์คือการตัดสินใจเองครั้งแรกที่นำไปสู่เรื่องราวการตัดสินอย่างอื่นในชีวิตขัดแย้งกับทางบ้าน ที่เขาต้องผ่านมันไปให้ได้

ในส่วนของนางเอกกลับกันคือคนที่ผ่านการตัดสินใจครั้งใหญ่มาแล้วในการเป็นทรานส์ โดยมีแม่ที่คอยช่วยเหลืออยู่ แต่พ่อทิ้งพวกเขาไป ซึ่งก็กลายเป็นนางพยายามตัดสินใจเองโดยไม่แคร์ใคร ยึดมั่นว่าตัวเองมีอิสระทุกอย่าง ซึ่งก็กลายมาเป็นปัญหาอีกแบบตรงข้ามกับพระเอก นั่นคือการที่เธอไม่ยอมรับความช่วยเหลือหรือการตัดสินใจจากแม่เลย โดยใช้มุมมองของตัวเองล้วนๆ วิพากย์ตัดสินสิ่งที่เข้ามาว่าเพราะเห็นเธอเป็นทรานส์  ซึ่งนั่นทำให้เธอถีบและทำร้ายคนรอบข้างออกไปหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตัวเรื่องก็มีปมเบาๆ ของเธอกับเพื่อนสนิทที่แอบชอบพระเอกคนเดียวกัน มีปมกับแม่ที่ไม่อยากให้ใครมาตามติดชีวิตลูกของเธอด้วยความกลัวอันตรายจากโลกโซเชียล และที่ทำร้ายหนักคือการปฏิเสธความช่วยเหลือหรือแม้กระทั่งรับฟังปัญหากับพระเอกที่เป็นแฟนแท้ๆ เพราะแค่รู้สึกว่าเขามาช่วยเพราะปัญหาที่เธอเป็นทรานส์ เธอต้องแก้เองไม่พึ่งใคร ซึ่งนั่นทำให้การมีแฟนเหมือนเป็นสิ่งไร้ค่าไปเลย และเธอก็ได้บทเรียนจากตรงนี้ก่อนเติบโตขึ้นด้วยมายด์เซ็ทแบบใหม่จากในเรื่องนี้นั่นเอง

ตัวหนังยังมีประเด็นของเรื่อง Woke อย่างชัดแจ้งว่าทรานส์เองจริงๆ ก็เกลียดพวกตื่นรู้มาหาประโยชน์จากเธอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยที่มีพวกคิดแบบนี้ ก้าวหน้าปลอมๆ มาช่วยทำให้ทรานส์เองถูกมองในแง่ลบจากคนทั่วไปมากกว่าปกติ จนเกิดกระแสแอนตี้ทรานส์จากพวก Woke เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ตัวเรื่องมีการเล่นประเด็นปัญหาหลายอย่างได้กำลังดี แต่บางอย่างก็จบแบบง่ายๆ ไปผิดจากความจริงไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้เเพราะนี่เป็นหนังชั่วโมงครึ่งเองไม่สามารถจะมานั่งไล่ปมทุกอย่างละเอียดสมจริงได้หมด ซึ่งก็ทำให้ตัวเรื่องดูเบาๆ มากไปเมื่อเทียบกับปัญหาทรานส์ไฮสคูลที่เกิดจริงๆ ครับ

นี่เป็นหนังรักไฮสคูลที่พล็อตเกร่อ แต่ปมของเรื่องไม่เกร่อ ว่าด้วยการเป็นทรานส์แล้วมีแฟนในไฮสคูลจะเป็นยังไง ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากหาหนังรักวัยรุ่นแตกต่าง ไม่หวานจ๋า หวานพอดีๆ และเต็มไปด้วยปมปัญหาทันสมัยในมุมมองของทรานส์จริงๆ ที่น่าสนใจเพียงพอต่อการทดลองรับชมได้ครับ

 

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!