playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Brother อเมริกันฮิสตอรี่ X เวอร์ชั่นเด็กวัยรุ่นฝรั่งเศส (ไม่สปอยล์)

Brother

สรุป

หนังมีดีกว่าที่เห็น แม้เป็นหนังอินดี้ฟอร์มเล็กที่มาเงียบๆ ใน Netflix แต่มีส่วนน่าประทับใจแนะนำให้ลองรับชม

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • นำเสนอเรื่องราวปัญหาในสถาณกักกันเยาวชนได้ดี
  • หนังมีความรุนแรงแต่ก็อบอุ่นด้วยมิตรภาพผสมรวมกัน

Cons

หนังขาดแบ็คกราวด์ตัวละครผู้ใหญ่หลายคน

Brother พี่ชาย หนัง Netflix จากฝรั่งเศส เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นผิวสีที่ต้องไปอยู่ในสถาณกักกันเยาวชน ที่เต็มไปด้วยเหล่าวัยรุ่นผิวขาวเหยียดผิวที่ไม่พร้อมเป็นมิตรกับคนผิวสีอย่างเขา

ตัวอย่าง Brother พี่ชาย Netflix

หนังนอกกระแสอินดี้ทุนต่ำพล็อตธรรมดา หน้าหนังก็ดูไม่น่าสนใจ นี่คือสิ่งที่ก่อนดูผมคิดไว้กับเรื่องนี้ แต่หลังได้รับชมจนจบ ต้องบอกเลยว่าหนังมีอะไรดีๆ มากกว่าที่คิดไว้มากพอสมควร แถมยังสนุกกว่าที่คิดในหลายจุด แม้เรื่องราวอาจจะรุนแรงและหดหู่อยู่พอสมควร แต่หนังก็มีมุมมองมิตรภาพดีๆ ที่ทำให้ดูแล้วประทับใจผ่านความหดหู่เลวร้ายในเรื่องไปพร้อมกัน ซึ่งก็ให้อารมณ์และโทนเรื่องราวแบบหนังดัง “อเมริกันฮิสตอรี่ X” ที่ว่าด้วยเรื่องราวการเด็กหนุ่มวัยรุ่นอเมริกาคนหนึ่งที่เป็นพวกเหยียดสีผิวจนถลำลึกก่อความรุนแรงจนเป็นบาดแผลในชีวิตตลอดไป (สนใจคลิกรับชมเรื่องนี้ใน Netflix คลิกที่นี่ครับ) แต่มีฉากรุนแรงที่ซอฟท์กว่า ไม่ถึงขนาดติดตาแบบอเมริกันฮิสตอรี่ X

หนังเล่าเรื่องราวของ Teddy เด็กวัยรุ่นผิวสีที่ต้องพบกับความรุนแรงในบ้านจากผู้เป็นพ่อ ก่อนจะมาจบลงที่สถาณกักกันเยาวชน โลกใหม่ที่เขาต้องใช้ชีวิตร่วมกับเด็กผิวขาวที่มีปัญหาแบบเดียวกันนับสิบคน และมีการเหยียดผิวกับปัญหาความรุนแรงตามมา แม้จะมีผู้ดูแลที่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ดีค่อยช่วยเหลือแล้วก็ตาม แต่ชีวิตในนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคุกเด็กที่รอวันระเบิดดีๆ นี่เอง

Brother netflixหนังเล่นประเด็นการกลั่นแกล้งเด็กผิวสีที่รุนแรงกว่าปกติในโรงเรียนเพราะที่เป็นสถาณกักกันเยาวชน โดยมีนักสังคมสงเคราะห์เป็นผู้คุมกฎระเบียบและคอยช่วยเหลือเด็กในสถาณกักกันแห่งนี้ให้ผ่านช่วงเวลากักกันตัวไปได้โดยไม่มีคดีเพิ่มติดตัว ซึ่งแม้เด็กจะก่อเรื่องมากแค่ไหน แต่คนที่ทำงานตรงนี้ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจหาทางออกที่ดีให้เด็กพวกนี้เสมอ หนังนำเสนอเรื่องราวมิตรภาพระหว่างนักสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มอาชญากรเด็ก ผ่านความพยายามอดทนของผู้ดูแลในเรื่องที่ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก แม้ว่าเด็กพวกนี้จะทำตัวแย่แค่ไหน แต่เขาก็คืออนาคตที่ต้องชี้ทางที่ถูกให้เดินต่อไปไม่กลับมาทำผิดกฎหมายอีก หนังแสดงให้เห็นว่าอาชีพนักสังคมสงเคราะห์ต้องมีความสามารถมากแค่ไหนในการควบคุมกลุ่มเด็กๆ เหล่านี้ไว้ให้ได้ โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงเป็นตัวกำหราบเหมือนอาชญากรในคุกของผู้ใหญ่ แถมยังต้องซื้อใจพวกเขาให้มองว่าเราเป็นเพื่อนกัน และสอนความเคารพให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ให้กับเด็กเหล่านี้ หลังจากที่พวกเขารุมเหยียด Teddy ให้เป็นชนชั้นต่ำไม่คบค้าสมาคมด้วย แถมยังหาทางกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา

หนังมีมิตรภาพดีๆ ในพาร์ทแรกที่ดูแล้วเป็นเรื่องราวการพยายามปรับตัวของ Teddy กับผู้ดูแลที่คอยช่วยเหลือเขาให้เสมอ แต่แล้วเรื่องราวกลับมีสถาณการณ์รุนแรงต่างออกไป หลังการมาของตัวละครเด็กผิวสีคนใหม่ และเป็นอาชญากรเด็กตัวจริงที่สามารถทำเรื่องเลวร้ายได้มากกว่ากลุ่มเด็กผิวขาวในตอนแรกมาก แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไร Teddy ในฐานะคนผิวสีเหมือนกันก็ตามที แต่ Teddy กลับตกเป็นเครื่องมือทำร้ายอีกฝ่ายกลับไปแทน… ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดเปลี่ยนหักเหของเรื่องราวที่แท้จริงในหนังที่พึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น และก็เป็นอะไรที่แอบคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าหนังจะหักลำจากโลกในสถาณกักกันเยาวชนไปสู่เรื่องราวทิศทางใหม่ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ

หนังครึ่งหลังสร้างรอยยิ้มจากการผจญภัยแบบห่ามๆ แม้ว่าจะมีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น แต่เราคนดูก็ยอมให้ปล่อยผ่านได้เพราะเจตนาของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายนัก เป็นแค่การมุ่งหวังหาทางมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่เท่านั้น ซึ่งหนังเปลี่ยนโทนจากเรื่องราวเหยียดผิวเครียดๆ ตอนแรก กลายมาเป็นหนังที่อบอุ่นเต็มไปด้วยมิตรภาพในแบบคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้โลกสวยทิ้งปมปัญหาช่วงแรกไปซะทั้งหมด

หนังทิ้งปมอดีตของ Teddy ไว้ตั้งแต่ฉากแรกที่เริ่มเรื่อง โดยให้เห็นลางๆ ว่าเขาต้องโทษจากการก่ออาชญากรรมอะไรสักอย่างที่คลุมเครือ แล้วใช้แฟลชแบ็คย้อนกลับมาเล่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของเขาก่อนเกิดเหตุการณ์นั้นทีละนิดๆ แม้ว่าคนดูอาจจะคาดเดาได้และไม่ได้เซอร์ไพรส์ แต่หนังยังมีปมซุกซ่อนอยู่ในเรื่องราวลึกมากกว่านั้นขึ้นไปอีก และก็นำมันกลับมาใช้ปิดบทสรุปของเรื่องราวได้อย่างคาดไม่ถึงพอสมควร

นักแสดงเด็กในเรื่องเล่นได้อย่างน่าเชื่อถือในบทที่ต่างก็มีปมปัญหาครอบครัวไม่อบอุ่น จนกลายมาเป็นอาชญากรเด็ก Teddy เป็นเด็กหนุ่มผิวดำที่เงียบๆ หงอๆ แต่ก็ไม่ได้จะให้ใครข่มเหงได้ง่ายๆ และอดีตในคดีของเขาก็ขัดแย้งกับบุคคลิกได้อย่างน่าสนใจ เป็นตัวละครที่เก็บกดอะไรไว้ข้างในอย่างมากจนแอบปะทุออกมาเป็นระยะๆ ก่อนที่จะระเบิดออกมาในตอนหลัง Enzo ตัวละครวัยรุ่นผิวขาวที่ทำตัวเป็นหัวโจกเหยียดผิว แต่กลายเป็นว่าเขาคือผู้ถูกกระทำเหมือนกันจนเป็นปมในจิตใจต้องมาลงกับคนอื่น

Brother หนังมีดีกว่าที่เห็น แม้เป็นหนังอินดี้ฟอร์มเล็กที่มาเงียบๆ ใน Netflix แต่มีส่วนน่าประทับใจแนะนำให้ลองรับชม ถ้าดูแค่เรื่องย่อก็จะเห็นแค่ประเด็นเหยียดผิวซึ่งไม่ได้แปลกใหม่ แต่หลังเรื่องราวพลิกกลับไปอีกแบบ กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้มีอะไรดีซ่อนอยู่ไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ

 

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!