รีวิว Calls Apple TV+ เสียงตามสาย กลายเป็นจุดจบของโลก!

Calls ซีรีส์ Apple TV+ สุดแหวกแนวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการใช้เสียงสนทนาเพียงอย่างเดียวผ่านโทรศัพท์ ด้วยเรื่องราวหลากหลายแนว ทั้ง สยองขวัญ ไซไฟ ดราม่า ทริลเลอร์ จากผู้สร้างภาพยนตร์ดังอย่าง Don’t Breathe

ตัวอย่าง Calls Apple TV+

ซีรีส์ใหม่ของ Apple TV+ ที่จะเปิดประสบการณ์รับชมแบบใหม่ ด้วยการใช้เสียงเล่าเรื่องล้วนๆ อารมณ์เหมือนฟังวิทยุเล่าเรื่องราวอย่าง ป๋อง เดอะช็อค แต่เป็นแนวไซไฟไม่ใช่เรื่องเล่าผีๆ แต่ก็ชวนขนลุกได้เหมือนกัน

ผู้สร้างและเขียนบทเรื่องนี้คือ Fede Alvarez จากผลงานดังแหวกแนวอย่าง Don’t Breath ที่ตัวเอกโจรต้องไปเจอกับอดีตทหารตาบอดที่มีความสามารถพิเศษทางการรับรู้ด้วยเสียงดีกว่าปกติ ซึ่งก็ทำให้เข้าใจเลยว่าผู้กำกับและพ่วงอาชีพนักเขียนบทคนนี้มีสไตล์หนังแหวกแนวเป็นเอกลักษณ์อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และด้วยความที่ทั้งเรื่องมีแต่เสียงเป็นหลัก โปรเจ็กต์ซีรีส์ใหม่เรื่องนี้จึงถูกนำมาเสนอให้ Apple ทำ ซึ่งก็คงไม่ยากเพราะต้นทุนเรื่องนี้แทบไม่มีอะไรเลย เป็นแนวขายไอเดียล้วนๆ แต่ก็ต้องบอกว่าด้วยไอเดียเล่าเรื่องด้วยเสียงที่ดูเหมือนง่ายนี่แหละคือความยากในตัวเช่นกัน เมื่อผู้ชมซีรีส์ติดการดูภาพเคลื่อนไหวมีนักแสดงมาตลอด ต้องทำยังไงถึงจะตรึงความสนใจของผู้ชมไว้ได้ ซึ่งบอกเลยว่าไม่ง่ายแน่นอน แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับทำได้ และทำสำเร็จได้ดีด้วย จนน่าจะเป็นการรับฟังเรื่องเล่าที่สนุกตื่นเต้นและดีที่สุดที่เคยได้ยินกันมาเลย

รูปแบบซีรีส์จะเป็นตอนสั้นๆ ตอนละ 10 นาทีนิดๆ มีทั้งหมด 9 ตอนจบซีซั่นเคลียร์เลย โดยในตอนแรกจะชื่อ The End ที่แปลว่าจุดจบ และเรื่องที่เราจะได้ฟังก็เป็นแนวทริลเลอร์คล้ายๆ เอเลี่ยนอินเวชั่น (การบุกรุกของมนุษย์ต่างดาว) ที่เปิดมาเป็นเหมือนแค่แฟนที่อยู่ห่างไกลคุยกัน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะบอกว่ามีอะไรอยู่ข้างนอก และต้องออกไปดู แต่ในเรื่องเราจะได้รู้ว่าฝ่ายชายก็มีความลับซ่อนอยู่เช่นกัน ก่อนที่จะปิดจบเรื่องด้วยแนวไซไฟเว่อร์ๆ ล้างโลกกันไปเลย ทำให้ผู้ชมที่สงสัยว่าซีรีส์เรื่องนี้มันเป็นยังไงต้องกดดูต่อในตอน 2 ทันทีแน่นอน ในชื่อตอนว่า The Beginning หรือจุดเริ่มต้น แต่แทนที่คนฟังจะได้เข้าใจเรื่องราวมากขึ้น กลับต้องงงหนักเมื่อเรื่องราวในตอนนี้ นำเสนอในแบบดราม่าต่างมิติกาลเวลาของชายคนหนึ่งที่ขับรถออกจากบ้านหลังทะเลาะกับภรรยา แต่กลับพึ่งรู้ว่าเธอท้อง และทุกครั้งที่มีสายเข้ากลับเป็นช่วงเวลาที่ห่างออกไปเรื่อยๆ จนดูเหมือนเขาทิ้งลูกเมียไป โดยที่เขายืนยันว่าพึ่งขับรถออกจากบ้านไปไม่ถึงชั่วโมงดีเลย ซึ่งความงงที่ว่านี่บอกเลยผู้ชมต้องเจอติดๆ กันในตอนต่อไปจนถึงตอนที่ 5 ซึ่งก่อนมาถึงตอนนี้เรื่องราวในแต่ละตอนก็จะจบแยกกัน และเป็นคนละแนว แต่มีเรื่องพิศวงในแบบต่างๆ คล้ายกัน จนตอนที่ 5 นี่แหละตัวเรื่องจริงถึงค่อยๆ แย้มออกมาว่าตอนที่ผ่านมาทั้งหมดคืออะไร และจากนี้ไปคนดูก็จะเข้าใจแล้วว่านี่คือเรื่องราวเดียวกันหมด เป็นเหมือนนิยายสั้นผ่านการโทรศัพท์ในแบบต่างๆ ซึ่งมีจุดจบของโลกเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว

นอกจากเสียงที่เราได้ยินในแต่ละตอนแล้ว ซีรีส์ได้นำกราฟิกแสงสีเส้นเสียงมาประกอบได้สวยงาม เหมือนพวกกราฟิกอีควอไลเซอร์ ช่วยเสริมถ่ายทอดอารมณ์ส่งเสริมเรื่องราวในตอนนั้นๆ ให้น่าติดตามมากขึ้น และก็มีพวกเสียงภายนอกที่เราได้ยินเวลาคุยโทรศัพท์แทรกมาด้วย ทำให้สมองของผู้ชมสามารถจินตนาการตามได้ชัดขึ้นไปอีก จนรู้สึกเลยว่าถ้านำบทของเรื่องนี้ไปเล่นใหม่แบบมีนักแสดงจริงๆ โทรคุยหากันตลอดแบบนี้ ก็น่าจะสนุกได้เช่นกัน เพียงแต่ผู้สร้างต้องการให้ผู้ชมใช้จินตนาการของตัวเองมากกว่าเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะมากน้อยไม่เท่ากันในแต่ละคนไปอีก

ต้องบอกเลยว่าหลังดูจบนี่เป็นประสบการณ์ใหม่จริงๆ ที่ครีเอทลงสตรีมมิ่งได้เท่านั้น แนะนำว่าควรค่าแก่การรับชมหรือฟังเป็นอย่างมาก ห้ามพลาดเลยครับ

 

ติดตามอ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์ใน Apple TV+ คลิกที่นี่