playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Countdown หนังสยองขวัญปนขำที่แอบล้ำนิดๆ คล้ายไฟนอลเดสติเนชั่น

Countdown

ดีกว่าที่คิด

ถ้าชอบนางเอกคนนี้ ชอบไฟนอลเดสติเนชั่นมาก่อน หรืออยากดูหนังสยองขวัญปนขำๆ ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าคาดหวังเนื้อเรื่องสมเหตุผลจริงจัง หรืองานสยองขวัญต้องแปลกใหม่ฉีกแนว อันนี้บ้ายบายเรื่องนี้ไปเลยครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • นางเอกสวยมีเสน่ห์ตาเขียวๆ จากซีรีส์ You
  • จั๊มสแกร์ถี่ๆ แต่มีขำในเรื่องราวไปพร้อมกัน
  • ผูกปมดราม่าเพื่อหาทางจบได้ดี

Cons

  • ตัวละครโง่ๆ สอดแส่หาเรื่องยังมีอยู่ตามสูตรหนังแนวนี้

“Countdown” เคาท์ดาวน์ตาย ต่อจากนี้คุณจะรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะ ตายเมื่อไหร่! เมื่อนางพยาบาลสาวดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่สามารถพยากรณ์เวลาตายได้ และมันแจ้งว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 3 วันเท่านั้น เธอต้องพยายามหาวิธีเอาตัวรอดก่อนที่จะไม่หลงเหลือเวลาแม้แต่วินาทีเดียว

ตัวอย่าง Countdown เคาท์ดาวน์ตาย


สารภาพกันตรงๆ ว่าดูตัวอย่าง พล็อต เนื้อเรื่องแล้วไม่มีความรู้สึกว่าสดใหม่อยากดูสักเท่าไหร่ แต่ตัดสินใจไปดูเรื่องนี้เลยก็เพราะ หนังได้นักแสดงสาว “เอลิซาเบ็ท เลล” (Elizabeth Lail) มารับบทนำ โดยไม่นานมานี้ เธอได้ฝากผลงานซีรีส์ Netflix เรื่อง “You” ที่ติดท็อป 1 ในท็อป 5 ที่คนดูสูงสุดของปี 2018 และกำลังมีซีซั่น 2 ปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งถ้าใครได้ดู You มีหลงเสน่ห์เธอกันทุกคนในบทนางเอกที่มีบุคลิกแตกต่างจากทั่วไปมาก (ไม่สปอยล์เพราะเป็นจุดพลิกเรื่องต้องไปดูกันเอาเองครับ) แม้จะเป็นดาราหน้าใหม่พึ่งเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก (ก่อนนี้เล่นแต่หนังชุดทางทีวี) แต่เสน่ห์เหลือล้นทั้งรูปร่างหน้าตา ยิ่งดวงตาสีเขียวของเธอนี่กระชากใจได้เลย

Countdown
นางเอกจากซีรีส์ You ของ Netflix

แม้ว่าว่าผมจะดูนางเอกเป็นหลักและเสน่ห์ของเธอในเรื่องนี้ก็ยังไม่เสื่อมคลาย แต่ที่มีเซอร์ไพรส์ในเรื่องคือหนังมีอะไรมากกว่าที่เห็นในตัวอย่างพอควรเลยครับ แม้จะพอเดาได้ แต่ก็ต้องยอมรับผู้สร้างไม่ได้เอาแอพมาผูกเล่นแบบคิดง่ายๆ หนังมีอ้างอิงที่มาที่ไป โยงไปหาเรื่องราวในไบเบิลได้เข้าท่าเหมือนกัน กับประเด็นที่ทุกคนอาจจะต้องเคยแว่บคิดอยากรู้ตัวเองจะตายเมื่อไหร่ หนังเล่นเรื่องดลใจใคร่รู้ในชะตากรรมของตัวเราเองมาเล่น ซึ่งก่อนนี้ก็มีพล็อตแอบคล้ายกันเรื่องความตายตามล่าคนที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย อย่าง Final Destination 7 ต้องตาย โกงความตาย ที่ทำมา 5 ภาคแล้วหยุดหายไปเฉยๆ แต่สิ่งที่ Countdown ต่างออกไปนิดหนึ่งคือประเด็น การยอมรับชะตากรรมเพราะเลือกอยากรู้เวลาตายเอง หนังชวนให้คิดเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วถึงเราเคยคิดว่าจะตายเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีอะไรสักอย่างมาให้บอกให้รู้ โดยให้เลือกว่าจะดูหรือไม่ดูด้วยตัวคุณเอง คุณยังจะเลือกรับรู้วันตายของตัวเองอยู่หรือไม่ ซึ่งหนังเอาส่วนนี้มาเล่นโดยมีปมดราม่าในจิตใจของตัวละครผูกติดไว้อีกที ที่เกี่ยวกับความผิดเล็กๆ แต่กลายเป็นทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง ถ้าเราโตกับความรู้สึกผิดทุกวันจนอยากตายอยู่แล้ว เราควรจะยอมรับชะตากรรมเวลาตายของเราจริงๆ เพื่อไถ่บาปดีหรือไม่?

ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้น่ากลัวไหม ผมต้องบอกว่ามันแอบตลกซะมากกว่า เอาจริงๆ ผมว่ามันเป็นหนังตลกสยองขวัญเน้นจั๊มสแกร์ (มุกเสียงดังผีโผล่ตุ้งแช่) หนังตั้งใจเล่นกับฉากจั๊มสแกร์เป็นหลัก ซึ่งถ้าใครขวัญอ่อนก็อาจจะน่ากลัวได้เลยเพราะใส่มาซะเยอะ แต่ถ้าใครชินกับมุกแบบนี้ที่ต้องทำตัวละครให้ดูโง่ๆ กว่าคนปกติแบบค่อยๆ ไปส่องดูคงชิน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวละครเริ่มสอดรู้สอดเห็นทำอะไรโง่ๆ มุกนี้ต้องมา แต่เอาว่าหนังก็ทำได้ดีไม่ขนาดดูไปด่าไปกับความโง่ของตัวละครหรอกครับ เพราะจริงๆ มันออกแนวตลกแบบบอกไม่ถูกปนมาด้วย จากตัวละครสมทบในเรื่องอย่าง คนขายมือถือเจลเบรคแฮ็กแอพได้ หรือบาทหลวงที่คลั่งปีศาจซาตานแบบเหมือนพวกป๋องส่องหาวิญญาณอะไรแบบนั้น คืออยากเจอมานานแล้วววว

ฉากแก้ทางแอพในเรื่องที่ออกจะขำนิดๆ

ยืนยันว่าแม้หน้าหนังจะดูทุนต่ำ (ซึ่งก็ต่ำจริงๆ แค่ 8 ล้านเหรียญ) พล็อตดูงั้นๆ แต่หนังมีอะไรในเรื่องพอสมควร และก็เล่นกับการหาทางออกจากชะตากรรมได้เข้าท่าอยู่ไม่น้อย คือไม่สามารถเล่าได้เลยว่าเป็นยังไง แต่ถ้าใครที่ดู You มาก็คงคิดเหมือนกันว่า “นางเอาอีกแล้ว” บทในเรื่องนี้ก็เช่นกันหนังเปลี่ยนนางเอกได้อย่างน่าสนใจ และก็ทำให้โทนหนังเปลี่ยนไปเลย แถมยังวกกลับมาจบได้สวยๆ แม้จะไม่เซอร์ไพรส์ในวิธีการ แต่หนังผนวกรวมทางแก้ปัญหาปมชีวิตของนางเอกกับน้องสาวไปพร้อมกัน ซึ่งดูดีเลยทีเดียว แถมยังมีโอกาสทำภาคต่อเก๋ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งมาอีกก็ดูครับ แต่ก็สงสัยว่าจะมีอะไรเหลือให้เล่นอีก แนะนำว่าถ้าชอบนางเอกคนนี้ ชอบไฟนอลเดสติเนชั่นมาก่อน หรืออยากดูหนังสยองขวัญปนขำๆ ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าคาดหวังเนื้อเรื่องสมเหตุผลจริงจัง หรืองานสยองขวัญต้องแปลกใหม่ฉีกแนว อันนี้บ้ายบายเรื่องนี้ไปเลยครับ

ปล.หนังมีเอนด์เครดิตบทสรุปของตัวละครสำคัญในเรื่องเพิ่มอีกคน ซึ่งดูเอาฮา ไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด

นางเอกหาทางออกด้วยการไล่ฆ่าหมอที่ลวนลามเธอในตอนแรก เพื่อให้กฎของแอพที่ต้องตายตามเวลาผิดพลาดไปจนคำสาปถูกถอนได้ (ถ้าคนโหลดแอพตายก่อนเวลาคือคำสาปจะถูกยุติ) หนังเปลี่ยนโทนจากปีศาจไล่ล่า กลายเป็นนางเอกไล่ล่าฆ่าคนแทน ซึ่งทำได้จิตนิดๆ สนุกดีครับ แต่ไม่เหมือน You หรอกนะเพราะเรื่องนั้นนางเอกก็เปลี่ยนไปอีกแบบครับ

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!