playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Detective Knight ไตรภาคหนังแอ็กชั่นเกรดบีของเจ้าพ่อคนอึด บรู๊ซ วิลลิส ที่พอดูได้อยู่นะ

Detective Knight
  • ภาค 1 - 6.5/10
    6.5/10
  • ภาค 2 - 6.5/10
    6.5/10
  • ภาค 3 - 5/10
    5/10

Summary

หนังแอ็กชั่นเกรดบีที่มีฉากแอ็กชั่นเปิดเรื่องกับปิดท้ายในระดับที่พอตัวกับงบประมาณ แล้วไปเด่นที่เรื่องราวของตัวเอกไนท์ ตำรวจที่มีปมในใจชอบใช้การตัดสินใจแบบศาลเตี้ย กับดราม่าเรื่องราวของตัวร้ายทุกภาคที่ออกเยอะกว่าตัวเอกที่บรู๊ซ วิลลิสเล่น (ไม่ได้มีฉากออกเยอะ แค่แทรกๆ มากับเป็นคนปิดจบเรื่อง) ภาค 1-2 เนื้อเรื่องเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องเดียวเลย และถือว่าโอเคผ่านพอใช้ในระดับหนังแอ็กชั่นลงแผ่น แค่อย่าคาดหวังมากว่าจะดีเว่อร์อะไรแบบนั้น แต่ภาค 3 ที่ขึ้นเรื่องใหม่อันนี้ไม่ต้องดูก็ได้ เพราะเรื่องราวทั้งหมดจบลงในภาค 2 แล้วครับ (เหมือนแค่แถมๆ มาจะดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้)

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  •  นำแสดงโดยบรู๊ซ วิลลิส 
  • ตัวเอกมีปมชอบแนวทางศาลเตี้ย
  • ดราม่าเรื่องราวตัวร้ายมากกว่าตัวเอก
  • มีซับไทยครบ

Cons

  • ตัวร้ายปล้นง่ายๆ ทุกครั้งจนดูไม่สมเหตุผล
  • ทั้ง 3 ภาคใช้โครงแนวทางการเล่าเรื่องเหมือนกันจนเหมือนก็อปปี้ทำซ้ำ
  • บรู๊ซ วิลลิสไม่ได้มีฉากออกเยอะ

Detective Knight หนังแอ็กชั่นของเจ้าพ่อคนอึด บรู๊ซ วิลลิส ที่ลงโรงแบบจำกัดในปี 2022 แล้วย้ายมาลงแผ่น ก่อนมาลงสตรีมมิ่งในค่าย amazon Prime โดยมีทั้งหมด 3 ภาคเรื่องราวต่อเนื่องกันในชื่อตอน Rogue / Redemption / Independence เรียงกันตามลำดับ เป็นเรื่องราวของตำรวจนักสืบ เจมส์ ไนท์ ที่มีนิสัยแหกกฎตำรวจตั้งตนเป็นศาลเตี้ยอยู่ลึกๆ เขาต้องทำคดีที่เจอกับอาชญากรตัวร้ายที่มักใช้ขั้นตอนทางกฎหมายจัดการได้ลำบาก ทำให้ไนท์เองต้องแหกกฎเพื่อล้างบางอาชญากรเหล่านี้ด้วยตนเอง

 

รีวิว Detective Knight: Rogue / Redemption / Independence (ไม่มีสปอยล์)

แน่นอนว่าคงไม่มีคอหนังหรือคนดูหนังยากจะไม่รู้จัก บรู๊ซ วิลลิส ที่โด่งดังจากบทไดฮาร์ด คนอึดตายยาก จนกลายมาเป็นฉายาประจำตัวเวลาฉายในไทย ซึ่งด้วยวัย 67 ปี นี่คงเป็นผลงานท้ายๆ แนวแอ็กชั่นของเขา และก็เหมือนยอมลดตัวลงมาเล่นหนังแผ่น จะว่าเป็นหนังแอ็กชั่นเกรดบีก็ว่าได้ ซึ่งถ้าไปเช็คคะแนนเรื่องนี้จากเว็บ IMDB จะอยู่ที่เฉลี่ย 3 กว่าๆ เท่านั้นเอง แค่ถ้าเช็คจากเว็บมะเขือนี่ค่อนค้างโอเคเลยกับคะแนนวิจารณ์ภาคแรก Rogue ผ่านเป็นมะเขือสดที่ 67% กับคนดู 87% แม้ภาคหลังๆ จะลดลงก็ตาม แต่จากที่ทดลองรับชมแล้วก็ไม่คิดว่าจะเลวร้ายมาก ยังพอถือว่าเป็นหนังฆ่าเวลาสำหรับแฟนๆ ที่สนใจบรู๊ซเล่นได้อยู่ครับ

รีวิวนี้จะเขียนรวมกันทั้ง 3 ภาคเลย เพราะว่าแนวทางการเล่าเรื่องทั้ง 3 ภาคค่อนข้างเหมือนกันโดยเฉพาะภาค 1-2 ที่เรียกว่าแทบจะก็อปกันมาเลย แค่เปลี่ยนตัวร้ายเท่านั้น โดยตัวเรื่องจะเริ่มเปิดฉากเป็นโจรปล้นใส่หน้ากาก แล้วก็มักจะมีเรื่องวันสำคัญมาเกี่ยว เป็นฮาโลวีนในภาคแรก ภาคสองเป็นคริสมาสต์ ภาคสามเป็นวันชาติอเมริกา ซึ่งเปิดเรื่องกลุ่มโจรพวกนี้ก็จะบุกปล้นที่ต่างๆ ภาคแรกเป็นรถขนเงิน ภาค 2-3 เป้นธนาคาร ก่อนที่พวกนี้จะหนีไปได้ มีฉากแอ็กชั่นยิงต่อสู้พอหอมปากหอมคอให้มันส์นิดๆ ตอนเปิดเรื่อง จากนั้นก็จะเป็นช่วงสืบสวนว่าพวกนี้คือใคร แล้วก็เดินเรื่องราวด้วยชีวิตของอาชญากรตัวร้ายในเรื่องทั้ง 3 ภาค เหมือนกันหมด เหมือนเป็นการปูให้เห็นแรงจูงใจเพื่อบิ้วดราม่าให้เรื่องราวมีประเด็นลึกๆ ให้มากขึ้น ก่อนที่ตอนจบก็จะเป็นฉากบู๊แอ็กชั่นปิดท้ายไม่ใหญ่มากระดับหนังแผ่น แล้วก็ตัดจบเรื่องราวกันห้วนๆ ไม่ให้เห็นบทเอนดิ้งเคลียร์เรื่องทั้งหมดในภาคนั้น เพื่อให้ผู้ชมกดดูภาคต่อไปเลยจะได้เห็นชีวิตของไนท์ต่อไปครับ

สิ่งที่ดีของเรื่องนี้คือการเล่นเรื่องปมความลับของเจมส์ ไนท์ ว่าทำไมเขาถึงเป็นตำรวจที่ดูเทาๆ อันตรายแม้กับตำรวจด้วยกัน ซึ่งในภาคแรกตัวร้ายกับไนท์จะมีปมความลับบางอย่างต่อกัน โดยมีโจรตัวสำคัญอีกคนคือ เคซี่ โรด ที่ตัวเรื่องจะเล่าดราม่าปูมหลังของเขาว่าจากนักกีฬาระดับซุปตาร์ ทำไมกลายมาเป็นโจรได้ โดยภาคแรก Rogue ก็ตามความหมายชื่อเลยคือการเล่นปมคนเลว ว่าทำไมตัวละครอย่างไนท์ที่เป็นตำรวจ จริงๆ แล้วกลับไม่ใช่คนดีอะไรนัก กับเคซี่ โรด ก็เช่นกัน ทั้งสองตัวละครนี้จะค่อยๆ มาเกี่ยวข้องเป็นดราม่าเชื่อมต่อไปยังภาคต่อไปที่ชื่อ Redemption การไถ่บาปที่ก่อในภาคแรก ซึ่งก็ถือว่าตัวเรื่องมีปมที่ทำให้น่าติดตามบทสรุปของทั้งคู่ได้ดีพอตัว ก่อนที่ภาค 3 จะแค่เคลียร์สิ่งที่ภาค 2 ทิ้งไว้นิดหน่อย แล้วก็เล่นเรื่องชีวิตครอบครัวของไนท์ที่ภาค 1-2 เราแทบไม่ได้รู้เลย 

นอกจากนี้ตัวละครต่างๆ ในเรื่องก็มีบทบาทพัฒนาการต่อกัน 3 ภาค ที่เด่นๆ ก็คือคู่หูไนท์ที่ภาคแรกโดนยิงตอนเปิดเรื่องโคม่า โดยฝีมือเคซี่ โรด ซึ่งพอภาค 2 ชื่อไถ่บาป เราก็จะได้เห็นเขากลับมาในสภาพพิการ แต่ก็ช่วยไนท์สืบสวนคดีอยู่ห่างๆ โดยที่มีเคซี่ โรด ร่วมมือกับไนท์ ซึ่งเหมือนการทรยศหักหลังเขา เป็นปมที่ตัวเรื่องทำไว้ค่อนข้างดีเลยว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง

ตัวร้ายของเรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีในภาค 1-2 เพราะด้วยงบหนังแผ่นคงทำไรไม่ได้มาก ตัวเรื่องจึงไปเน้นที่แผนการปล้น การทำงาน วิธีการของตัวร้ายที่ไม่ได้ปล้นของปกติ อย่างภาคแรกเป็นการปล้นการ์ดนักกีฬาแพงๆ ไม่ได้ต้องเล่นใหญ่อะไรมาก จึงไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นใหญ่โต ภาคสองตัวร้ายเน้นพานักโทษแหกคุกไปปล้นทั่วเมืองเพื่อหวังผลบางอย่าง ภาค 3 คือเล่นเรื่องตัวร้ายเด็กวัยรุ่นกู้ภัยที่ผิดหวังกับการสมัครเป็นตำรวจแล้วโดนเรื่องเลวร้ายซ้ำจนมาร่วมมือกับโจร ซึ่งก็มีมิติการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างดี แต่ภาค 3 กลายเป็นหนังดราม่าเล่าเรื่องตัวร้ายยาวๆ แทบไม่มีฉากแอ็กชั่นเลย ก็เลยดูแย่ที่สุดไป

 

ข้อเสียของเรื่องหลักๆ ก็คือแผนการตัวร้ายที่ผ่านง่ายปล้นได้แบบง่ายๆ ซะทุกครั้ง จนไม่สมเหตุผลมาก เหมือนตำรวจทั้งเมืองเป็นง่อยต้องรอให้ไนท์มาช่วยลุยเดี่ยวซะทุกที แล้วตัวไนท์เองก็ไม่ค่อยมีบทพูดหรือบทบาทมากเท่ากับตัวร้าย คือนี่ไม่ใช่หนังที่เดินเรี่องด้วยตัวเอกบรู๊ซ วิลลิสเล่นหลักๆ แบบหนังแอ็กชั่นปกติ อาจจะเพราะด้วยวัยกับงบค่าตัวที่คงไม่ได้มาก จะมาจ้างเล่นออกฉากมากก็คงไม่ได้ บทพูดก็แทบไม่มีเน้นเงียบๆ หลักๆ คือตัวเรื่องจึงไปเน้นฝ่ายตัวร้ายทุกภาคมากกว่าเสมอ แล้วไนท์เหมือนเป็นแค่ตัวคั่นเวลาให้เรื่องมีการสืบสวน แล้วก็เข้ามาปิดเกมในตอนท้ายเท่านั้นครับ 

 

โดยรวมก็แนะนำว่าดูได้โดยภาค 1-2 ถือว่าโอเคผ่านพอใช้ในระดับหนังแอ็กชั่นลงแผ่น แค่อย่าคาดหวังมากว่าจะดีเว่อร์อะไรแบบนั้น แต่ภาค 3 ที่ขึ้นเรื่องใหม่อันนี้ไม่ต้องดูก็ได้ เพราะเรื่องราวทั้งหมดจบลงในภาค 2 แล้วครับ

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!