playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Garouden: The Way of the Lone Wolf (Netflix) พยายามทำการต่อสู้ให้สมจริง แต่กลับเชื่องช้าน่าเบื่อ

Garouden: The Way of the Lone Wolf

Summary

อนิเมะแนวรวมศิลปะการต่อสู้ที่พยายามทำเรื่องให้แตกต่างจากบากิ โดยเน้นการต่อสู้แบบเป็นไปได้ ไม่โอเว่อร์มาก แต่ปัญหาคือผู้สร้างทำได้ไม่ถึง ไม่มีรายละเอียดลึกพอ แล้วฉากแอ็กชั่นต่อสู้ก็เคลื่อนไหวช้ามาก ไม่ดุเดือด ไม่มีฉากเลือดสาด ส่วนเนื้อเรื่องก็เหมือนจะดีกับบทพระเอกหนีคดีที่ก่อ แต่เรื่องก็ถูกเล่าแบบขาดช่วง ขาดความลึกของตัวละครทุกตัวไปอีก (บากิยังมีมากกว่า) แต่ถ้าคนที่ชอบดูแนวศิลปะการต่อสู้ก็ยังพอถือว่าดูได้เพราะรวมมาเยอะจริงๆ ยกเว้นมวยไทยที่ไม่มีให้เห็นในเรื่องนี้เท่านั้นครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • แอ็กชั่นรวมศิลปะการต่อสู้แบบไม่โอเว่อร์
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ฉากต่อสู้ค่อนข้างช้า ไม่ดุเดือด
  • ขาดรายละเอียดวิธีการแก้ท่าทางต่างๆ
  • ดราม่าชีวิตตัวละครเล่าน้อยไป ฝ่ายศัตรูแทบไม่มีเลย

Garouden: The Way of the Lone Wolf กาโร่เดน ศึกยอดคน: วิถีหมาป่าเดียวดาย อนิเมะ Original Netflix 8 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย เรื่องราวของ ฟูจิมากิ จูโซ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีที่โดนแบล็กเมลให้ต้องมาร่วมการต่อสู้เถื่อนและประจันหน้ากับนักสู้ชั้นนำในการประลองถึงตาย
Garouden: The Way of the Lone Wolf (2024) on IMDb

 

รีวิว Garouden: The Way of the Lone Wolf  (ไม่สปอยล์)

อนิเมะที่ชื่อเดียวกับมังงะอีกเรื่องหนึ่งของผู้เขียนบากิ แต่เนื้อเรื่องกับลายเส้นไม่เหมือนกัน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกันจริงๆ แค่ไหนครับ แต่ว่าการที่ Netflix หยิบแนวนี้มาทำเพิ่มอีกเรื่อง หลังจากมีเรื่องที่ดังไปแล้วอย่าง “ฮันมะ บากิ” และ “กำปั้นอสูร โทคิตะ” การที่เรื่องนี้จะออกมาก็ต้องแตกต่างตั้งแต่แรก เรื่องนี้จึงพยายามตีโจทย์ใหม่ให้เป็นศิลปะการต่อสู้จริงๆ มากกว่างานขายความโม้โอเว่อร์ของตัวละคร โดยเรื่องได้สร้างตัวเอกที่มีวิชาการต่อสู้แบบเน้นฆ่ากันจริงๆ เล็งที่จุดตาย มีท่าวิชาที่เหมือนเอา MMA มาผสมมวยไทย โดยการกระโดดเข่าเล่าลอยพร้อมเอาขาล็อกแขนกับหัวไว้จากด้านหลัง เรียกชื่อว่า ราชันพยัคฆ์ ซึ่งนี่ก็คือท่าที่โม้สุดของเรื่องนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่เว่อร์เกินจนเป็นไปไม่ได้แบบบากกิ แล้วศัตรูของของพระเอกก็คือใช้วิชาทั่วไป ยูโด คาราเต้ ซูโม่ บ็อกซิ่ง มวยปล้ำ บราซิลเลียนยิวยิตสู มีวิชาการต่อสู้ของทหารอิสราเอล  Krav Maga และ MMA ก็มี แต่ไม่มีมวยไทย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันทั้งๆ ที่เรื่องก็ดำเนินไปว่าตั้งใจหาศิลปะการต่อสู้สุดยอดมาเจอกัน ส่วนวิชาที่มีในเรื่องก็ไม่ได้ออกแนวโม้ ยังเน้นเป็นไปตามท่าทางปกติ แต่ไปเพิ่มความพิเศษจากตัวช่วยเพิ่มเข้ามา อย่างมีพ่อมวยปล้ำที่ลูกช่วยอ่านท่าทางการต่อสู้ส่งโค๊ดไปบอกพ่อได้ หรือพวกพลังภายในอย่างพระเอกก็บอกมีปีศาจร้ายในตัว แต่จริงๆ ก็แค่ช่วงหัวร้อนจนคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น 

ซึ่งพอเรื่องสเกลความสามารถไว้แค่นี้ การต่อสู้ที่ออกมาก็เลยไม่หวือหวา ออกแนวเตะต่อยจับทุ่มไปธรรมดา การนำเสนอภาพค่อนข้างเชื่องช้าด้วย อย่างการคร่อมต่อยแบบ MMA ที่ต้องรัวยิบๆ ในเรื่องนี้แทบจะเป็นหุ่นกระบอกต่อยขึ้นลงทีละหมัด จนไม่รู้สึกดุเดือดอะไรเลย  ฉากเลือดสาดในเรื่องแทบไม่มี ตัวเอกก็เน้นหักแขนกันแทบทุกครั้งต้องจบด้วยท่านี้ตลอด การแก้ท่าต่างๆ ถ้าไม่นับลาสบอสที่มีช่วงพิเศษหน่อย นอกนั้นก็เหมือนดิ้นหลุดกันง่ายๆ โดยที่เรื่องก็ไม่ได้อธิบายไว้ว่าดิ้นหลุดได้ไงทั้งๆ ที่โดนล็อกแบบ MMA ขนาดนั้น ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาที่ผู้สร้างเรื่องนี้ศึกษาข้อมูลไม่ลึกพอ ซึ่งเรื่องนี้เป็นแนวการต่อสู้แบบเรียลๆ ที่ควรอธิบายให้ผู้ชมรู้สึกทึ่งไปกับเรื่องพวกนี้ได้แท้ๆ ครับ 

ส่วนเนื้อเรื่องวางบทตัวเอกไว้ค่อนข้างดีเลย ในบทผู้ต้องหาหนีคดีที่พยายามหลบซ่อนตัวจากทางการ ด้วยการกลายเป็นคนเร่ร่อนหางานรับจ้างทำ แล้วก็มีคติประจำตัวว่าจะไม่ต่อสู้กับมนุษย์อีก โดยมีปมซ่อนอยู่ว่าเขาก่อคดีอะไรมากันแน่ ซึ่งเรื่องก็ค่อยๆ นำจุดนี้มาใช้ว่าเขาคือศิษย์เอกของสำนักวิชาการต่อสู้สุดโหดของญี่ปุ่นที่นำมาใช้ไม่ได้เพราะมันพุ่งเป้าไปที่การฆ่า ไม่ได้เป็นศิลปะการต่อสู้ปกติที่แพร่หลายกัน ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของพวกใต้ดินนอกกฏหมายหรือแม้แต่ตำรวจที่ตามล่าเขาก็เพื่อต้องการต่อสู้เช่นกัน 

แต่ทว่าปัญหาคือโครงเรื่องที่เหมือนจะดีนี้ก็ถูกเล่าแบบขาดช่วง ไม่ค่อยลงลึกว่าอาจารย์ของพระเอกมีความเป็นมายังไง ลูกสาวของอาจารย์ที่ชอบพระเอกจริงๆ แล้วเป็นนางเอกหรือไม่ก็แทบไม่รู้สึกเพราะบทน้อยมาก แถมยังมีตัวละครหญิงสาวคนอื่นที่มาหลงรักพระเอกอีก แม้แต่ตัวคู่ต่อสู้แต่ละคนก็แทบไม่มีแบ็คกราวด์ชีวิตอะไรให้เห็นกันมากเลย หลายคนไม่เล่าให้รู้เลยด้วยซ้ำ หรือเล่าก็เป็นแค่ฉากพูดสั้นๆ แม้แต่ปัญหาการก้าวข้ามปมของตัวเอกก็ยังกลวงๆ แต่เรื่องก็เคลียร์จบได้ดีในแบบที่ควรจะเป็นไปตามกฏหมาย โดยไม่ได้มีฉากเว่อร์แตกอะไรแบบนั้นครับ 

 

 สรุป อนิเมะแนวรวมศิลปะการต่อสู้ที่พยายามทำเรื่องให้แตกต่างจากบากิ โดยเน้นการต่อสู้แบบเป็นไปได้ ไม่โอเว่อร์มาก แต่ปัญหาคือผู้สร้างทำได้ไม่ถึง ไม่มีรายละเอียดลึกพอ แล้วฉากแอ็กชั่นต่อสู้ก็เคลื่อนไหวช้ามาก ไม่ดุเดือด ไม่มีฉากเลือดสาด ส่วนเนื้อเรื่องก็เหมือนจะดีกับบทพระเอกหนีคดีที่ก่อ แต่เรื่องก็ถูกเล่าแบบขาดช่วง ขาดความลึกของตัวละครทุกตัวไปอีก (บากิยังมีมากกว่า) แต่ถ้าคนที่ชอบดูแนวศิลปะการต่อสู้ก็ยังพอถือว่าดูได้เพราะรวมมาเยอะจริงๆ ยกเว้นมวยไทยที่ไม่มีให้เห็นในเรื่องนี้เท่านั้นครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!