รีวิว Mission Majnu สายลับอินเดียที่หยุดยั้งนิวเคลียร์ปากีสถานแบบติดตลกโรแมนติก

Mission Majnu ชื่อไทยปฏิบัติการเลือดเดือด เป็นหนัง Original Netflix แนวสายลับอินเดียที่สร้างจากเหตุการณ์จริง เป็นเรื่องราวของปฏิบัติการลับของอินเดีย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนและระหว่างสงครามอินโด-ปากีสถานในปี 1971 เมื่ออินเดียสงสัยว่าปากีสถานแอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา จึงส่งสายลับของรอว์ (ชื่อเรียกหน่วยสายลับของอินเดีย) แฝงตัวเข้าไปสืบสวนหาที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์โดยปลอมเป้นช่างเย็บผ้า แต่โชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อเขาพบรักกับสาวตาบอดที่รักเธอหมดใจจนตกลงแต่งงานมีลูกด้วยกันที่นี่ แต่เขาเปิดเผยตัวตนไม่ได้ จึงทำให้ภารกิจครั้งนี้ต้องสำเร็จและพาเธอหนีกลับอินเดียให้ได้พร้อมกัน

 

รีวิว Mission Majnu

หนังสายลับอินเดียที่สร้างจากเหตุการณ์ช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์จริงๆ มีตัวละครกับเหตุการณ์ที่มีตัวตนจริงๆ ระบุไว้ในเรื่องราวสืบค้นได้ทั้งหมด แต่ว่าตัวเอกของเรื่องน่าจะเป็นตัวละครสมมุติที่สร้างขึ้นมาประกอบเรื่องราวจริงมากกว่า เพราะสุดท้ายในเรื่องก็ไม่มีการยืนยันตัวตนคนนี้เลยสักนิด (แต่สายลับก็อาจจะเปิดเผยตัวไม่ได้แม้ตายไปแล้วก็ตาม) 

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องไปสนใจจุดนี้ก็ได้ เพราะเรื่องราวในหนังก็เหมือนหนังไททานิค เป็นแนวดราม่ารักประกอบเหตุการณ์จริงที่เน้นบิ้วให้ผู้ชมอินไปกับเรื่องราวความรัก การเสียสละของสายลับกู้ชาติที่ปิดทองหลังพระ ตัวเอกถูกวางไว้เป็นลูกของสายลับอินเดียที่ขายชาติขายข้อมูลให้ปากีสถาน จนลูกต้องมาชดใช้กรรมที่พ่อก่อไว้ กลับมาแฝงตัวเป็นสายลับในปากี แต่ตัวหนังเน้นไปที่ชีวิตรักของพระเอกมาก่อนตั้งแต่แรก ซึ่งก็เหมือนหนังอินเดียรักๆ ทั่วไปที่มีเพลงความรักประกอบเรื่องเหมือนฉากเต้นเล็กๆ แล้วก็ตัดมาเลยว่าทั้งสองแต่งงานกันแล้ว และนางเอกท้อง 5 เดือนแล้ว ก่อนที่จะตัดไปที่ภารกิจสืบสวนแบบเบาๆ แนวหาข่าวง่ายๆ ไม่มีการใช้ปืนหรือฉากแอ็กชั่นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตามเรื่องจริงสายลับกลุ่มนี้ (มีหลายคนไม่ใช่พระเอกคนเดียว) ที่แฝงตัวเข้าไปไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้อาวุธ เพื่อหลีกเลี่ยงชนวนเหตุสงครามระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องดูเป็นสายลับหาข่าวธรรมดาทั่วไป ออกจะติดตลกๆ นิดๆ ด้วยจากแนวทางการสืบของพระเอกที่ใช้สกิลช่างเย็บผ้าเข้ามาช่วย แล้วก็ต้องปกปิดเมียรักอยู่ตลอดเวลาว่าหายไปไหน ซึ่งหนังก็ทำได้เพลินๆ พอประมาณ ก่อนที่ชั่วโมงหลังค่อยๆ เริ่มเข้มข้นเมื่อเข้าใกล้ความจริง ซึ่งในชั่วโมงที่สองนี่เองตัวเรื่องดูสนุกลุ้นตื่นเต้นไปกับแผนสายลับของพระเอกที่คิดขึ้นแต่ละอย่าง แม้อาจจะดูตลกๆ อย่างการปลอมตัวเป็นทีมผู้พันดักตรวจค้นรถขนส่งลำเลียงของไปโรงงาน ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องราวจริง แต่หนังทำให้เราดูสนุกและเพลินมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มฉากแอ็กชั่นโลดโผนในรถไฟที่พระเอกต้องหนีตายจากการถูกรุมล้อมจับ ฉากนี้มาในแบบหนังอินเดียเว่อร์ๆ หลุดโลกพอสมควรเลย ซึ่งผู้ชมคงเข้าใจอยู่แล้วว่าหนังอินเดียมันต้องอย่างนี้ และตัวหนังก็อัดแอ็กชั่นลุ้นระทึกต่อเนื่องมาตอนท้าย พร้อมกับเรื่องราวความรักที่กระชากอารมณ์ซึ้งๆ กลับมาได้อีกด้วย 

ถือว่าเป็นหนังอินเดียที่ดูเพลินย่อยง่าย สร้างจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ แต่ก็มีองค์ประกอบความโม้โอเวอร์ติดตลกตามสไตล์หนังอินเดียอยู่ครบ รวมถึงเรื่องราวความรักที่แทรกอยู่ตลอดเรื่องก็กำลังดี นางเอกสวย เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังอินเดียเป็นทุนอยู่แล้วก็คงชอบได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะดูแนวสายลับเข้มข้นสมจริงเหมือนหนังฝรั่งนี่ก็คงต้องผ่านเรื่องนี้ไปเลยดีกว่าครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่