playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Nightbooks (Netflix) นิทานเด็กแฟนตาซีสยองขวัญที่การันตีด้วยชื่อ แซม ไรมี (ไม่มีสปอยล์)

Nightbooks

สรุป

หนังดาร์คแฟนตาซีเด็กที่ปะเครดิตขายไว้ว่าจาก แซม ไรมี และก็ไม่ทำให้เสียชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว มีความน่ากลัวแบบที่เกินหนังเด็กนิดๆ ผู้ใหญ่ดูสนุกได้แน่ๆ เป็นนิทานซ้อนนิทานที่เล่าออกได้ทันสมัยและสนุกตั้งแต่ต้นจนจบแบบไม่มีพักเบรคใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยตัวละครแค่ 3 คนกับแมว 1 ตัว ที่เล่นได้ดีมากแม้แต่แมวก็ยังน่ารักและเป็นตัวสำคัญของเรื่อง ฉากแฟนตาซีต่างๆ ก็ทำออกมาได้เลิศสวยแบบขายเป็นหนังโรงได้เลย ต้องบอกว่านี่เป็นผลงานของ Netflix ที่ทำได้เกินคาดเลยครับ

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • งานสยองขวัญติดตลกร้ายนิดๆ สไตล์ แซม ไรมี
  • นิทานซ้อนนิทานที่ดูทันสมัยมาก
  • คริสเตน ริตเตอร์ ในบทแม่มดร้ายทรงเสน่ห์กิบเก๋ทันสมัยมาก
  • นักแสดงเด็กตัวเอกเล่นได้ดีมาก จนน่าจับตาว่าอนาคตไกล
  • แมวอียิปต์ในเรื่องดูร้ายๆ แต่ขโมยซีนกับน่ารักได้ใจ
  • งานโปรดักชั่นแฟนตาซีดูหรูหรา
  • นำนิทาน ฮันเซล แอนด์ เกรเทล มาดัดแปลงใหม่เป็นของตัวเองได้เจ๋งเลย
  • มีความน่ากลัวแบบที่เกินหนังเด็กนิดๆ ผู้ใหญ่ดูสนุกได้
  • มีเสียงพากย์ไทย (กำลังตามมา)

 

Cons

  • ฉากจบอาจจะดูง่ายนิดนึง (ถ้าใครไม่เคยรู้จัก ฮันเซล แอนด์ เกรเทล)

Nightbooks หนัง Original Netflix แนวแฟนตาซีสยองขวัญแบบเด็กๆ จากโปรดิวเซอร์ แซม ไรมี เจ้าพ่อหนังคัลท์แนวสยองขวัญ ที่จะพาคุณไปพบกับเรื่องเล่านิทานสยองขวัญยุคใหม่ไม่เหมือนใคร เมื่อเด็กแฟนตัวยงนักเขียนนิทานสยองขวัญถูกแม่มดร้ายจับไปกักขังบังคับให้เล่านิทานให้ฟังทุกคืน ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องตาย เขาจึงต้องหาทางหนีออกมาให้ได้ก่อนจะหมดไอเดียแต่งนิทานเหล่านั้น

 Nightbooks (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Nightbooks

นี่เป็นหนังสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกันของ J.A. White ที่กวาดมาแล้วหลังรางวัลในวงการวรรณกรรมเด็ก ซึ่งก็ไปเตะตาแซม ไรมี จนได้มาสร้างลง Netflix โดยมีผู้กำกับ David Yarovesky จาก Brightburn หนังเด็กนรกที่มีพลังแบบซูเปอร์แมน และได้ดารานำหญิงคริสเตน ริตเตอร์ จากซีรีส์ เจสซิกา โจนส์ มาเล่นเป็นแม่มดสาววายร้ายหลักของเรื่อง ร่วมกับเด็กอีกสองคน Winslow Fegle กับ Lidya Jewett ที่ยังเป็นดาราไม่ดัง โดยทั้งเรื่องหลักๆ เล่นกันแค่ 3 คน แต่ผลงานที่ออกมาถือว่าได้ว่ายอดเยี่ยมมาก ยิ่งเมื่อมองจากหนังทุน Netflix ด้วยกันเอง นี่เป็น 1 ในหนังของ Netflix ที่ดีเกินคาดเลยทีเดียว

เนื้อเรื่องเริ่มจากอเล็กซ์ เด็กน้อยนักแต่งนิทานสยองขวัญกำลังหนีออกจากบ้าน แต่แล้วเขากลับโดนล่อลวงโดยแม่มดสาวเข้าไปกักขังในอพาร์ทเมนต์ประหลาดแห่งหนึ่งที่ไม่มีทางออกไปไหนได้ โดยมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันอีกคนคือยัสมินที่ถูกกักขังมาก่อน โดยแม่มดยื่นเงื่อนไขให้อเล็กซ์ต้องเล่านิทานสยองขวัญให้เธอฟังทุกคืน ถ้าหมดเรื่องเล่าเมื่อไหร่คือตายเมื่อนั้น ซึ่งอเล็กซ์เองก็ไม่อยากแต่งนิทานอีกต่อไป แต่ก็ต้องจำใจแต่งเรื่องใหม่ทุกคืนเพื่อยืดเวลาหาทางหนีออกไปจากที่แห่งนี้ให้ได้

นี่เป็นหนังแฟนตาซีสยองขวัญแบบเด็กๆ ที่อาจจะไม่เด็กมาก เพราะเรื่องนี้ขึ้นเครดิตจุดขายว่ามาจาก แซม ไรมี หัวเรือใหญ่ของเรื่องเจ้าพ่อแนวหนังสยองขวัญที่เป็นตำนานขึ้นชื่อมาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นความน่ากลัวของเรื่องนี้ก็เลยมากกว่าที่เด็กๆ จะดูได้นิดนึง เอาว่ามีหลายฉากทำออกมาได้น่ากลัวกับแหวะอยู่พอสมควรเลย แถมเอาจริงๆ ผู้เขียนคิดว่าบางฉากค่อนข้างโหดกว่าที่เรต 7+ ของเน็ตฟลิกซ์ลงไว้ด้วยซ้ำ ซึ่งก็เป็นข้อดีที่ว่าผู้ใหญ่อย่างเราๆ ดูได้สนุกกว่าที่คิด ซึ่งความสยองขวัญในเรื่องนี้ถูกคิดมาดีควบคู่ไปกับนินานสยองขวัญในเรื่อง โดยตัวเรื่องหลักเองที่เด็กต้องเจอกับแม่มดร้ายมันก็มีความน่ากลัวในตัวเองอยู่แล้ว แต่ยังให้เด็กตัวเอกในเรื่องต้องมาเล่านิทานสยองขวัญซ้ำๆ เหมือนตัวเองติดอยู่ในจินตนาการเรื่องเล่านี้เองอีกชั้น ซึ่งก็กลายเป็นความสนุกแบบสยองขวัญซ้อนกันสองชั้นเลย โดยตัวแม่มดเองไม่ได้แค่ฟังนิทานเฉยๆ แต่เธอกลับวิจารณ์นิทานของอเล็กซ์แบบโหดๆ ในขณะเล่าไปพร้อมกัน กลายเป็นความกดดันให้อเล็กซ์ต้องแต่งนิทานให้สยองขึ้น สมเหตุผลขึ้น ไอเดียแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าทำไม่ถูกใจแม่มดเมื่อไหร่เขาก็อาจจะต้องตายในคืนนั้น นี่จึงเป็นเรื่องเล่าแบบเฉียดตายของอเล็กซ์อยู่ทุกคืน อีกทั้งตัวอเล็กซ์เองก็ยังมีปมในใจว่าเขาไม่อยากแต่งเรื่องสยองขวัญเหล่านี้อีกแล้ว ตั้งแต่ก่อนถูกล่อลวงมาด้วยเหตุผลบางประการที่เป็นความลับเล็กๆ ของเรื่อง แต่พอเฉลยออกมากลายเป็นดราม่าเศร้าๆ แบบเด็กๆ ที่กินใจพอสมควร และยังเป็นจุดหักมุมสำคัญตอนท้ายเรื่องอีกด้วย ซึ่งตัวนักแสดงเด็กอย่าง Winslow Fegle เล่นได้น่ารักน่าชังและเข้าถึงบทบาททุกอารมณ์ในเรื่องได้อย่างไร้ที่ติ จนน่าจับตาว่าอนาคตต่อไปเขาต้องเป็นนักแสดงดังแน่นอน

ส่วนตัวแม่มดร้ายก็คือสีสันดึงดูดสุดของเรื่องนี้ เธอมาในรูปแบบแม่มดสมัยใหม่แต่งตัวแฟชั่นสุดเก๋ ในเรื่องมีหลายชุดมาก สวยๆ ทั้งนั้น ยิ่งได้นักแสดงอย่าง คริสเตน ริตเตอร์ มาเล่นยิ่งเหมาะเจาะจากหน้าตาสวยร้ายๆ ของเธออยู่แล้ว เป็นอะไรที่เข้ากันมาก อีกทั้งการแสดงเป็นแม่มดร้ายที่ไม่ได้กินเด็กแบบเรื่องเล่าหลอกเด็ก แต่เธอก็ยังน่ากลัวหวาดผวาได้จริงๆ ในทุกครั้งที่ตะคอกเด็กในเรื่องทั้งสองคนจากทุกเรื่องที่ไม่พอใจแบบหยุมหยิมมากมาย แต่พร้อมเอาถึงตาย แอบเป็นตลกร้ายโหดๆ โดยมีปลายทางเด็กที่หมดประโยชน์ต้องกลายเป็นตุ๊กตาสะสมไว้ในบ้านนี้ และที่สำคัญคือบทนี้ไม่ได้ตื้นเขินตามสไตล์แม่มดร้ายในอดีต แต่ยังมีเรื่องราวที่มาความร้ายซ่อนไว้เป็นปมสำคัญอีกอย่าง โดยดัดแปลงอิงโครงเรื่องมาจากนิทาน ฮันเซล แอนด์ เกรเทล มาเป็นส่วนสำคัญ พร้อมกับปริศนาแปลกๆ ระหว่างเรื่องที่มีสอดแทรกมาเล็กๆ อย่างแยบยล จนคนดูเองก็น่าดูเพลินๆ จนไม่ทันฉุกคิดว่าสิ่งที่เรื่องแอบใส่ลงมานี้เกี่ยวพันกับตัวแม่มดทั้งสิ้น

ตัวเรื่องมีตัวละครน้อยคนมากที่แสดงในเรื่องหลัก (ยกเว้นตัวแสดงในนิทานของอเล็กซ์) โดยเด็กอีกคนคือยัสมิน เด็กผิวดำที่เหมือนรุ่นพี่อเล็กซ์ทำงานเป็นทาสรับใช้งานบ้านสารพัดที่นางแม่มดสั่งไว้ ซึ่งเธอก็เป็นคนสอนอเล็กซ์ให้อยู่เป็นกับที่นี่ เป็นมิตรภาพเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นแบบมีความสำคัญผูกเข้ากับแบ็คกราวด์ชีวิตของอเล็กซ์ในภายหลังที่เรื่องเฉลยออกมา นอกจากนี้ก็มีแมวอียิปต์อีกตัวที่แสดงหลัก ชื่อว่า เลอนอร์ สามารถล่องหนได้ทำหน้าที่เป็นสปายสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของเด็กทั้งคู่ รายงานให้นาตาชาฟัง ซึ่งทั้งสองตัวละครนี้มีความสำคัญกับเรื่องมากพอกัน ไม่ได้มาเล่นๆ หรือแค่แมวประกอบเรื่อง ซึ่งเจ้าแมวนี้ในตอนแรกผู้ชมอาจจะรู้สึกสยองนิดๆ จากความที่มันเป็นแมวหนังกลับหน้าตาชั่วร้าย แต่พอเวลาผ่านไปรับรองว่าเจ้านี่จะกลายเป็นแมวน่ารักในที่สุด แถมบางทียังทำตลกขำพรวดให้กับเรื่องได้ด้วย ซึ่งบทของมันก็ออกมาเด่นหลายฉากสำคัญ ทาสแมวต้องชอบเจ้าเลอนอร์นี่แน่ๆ ครับ

งานโปรดักชั่นแฟนตาซีในเรื่องก็เป็นอะไรที่ดีมาก ตัวเรื่องสเกลเล็กวนเวียนอยู่ในอพาร์ทเมนต์ก็จริง แต่ในนั้นก็มีห้องที่ต่อยอดทะลุมิติออกไปได้อีกมากมาย ซึ่งมีทั้งฉากโรงเรือนปลูกต้นไม้แม่มดที่สวยงามแบบพิสดาร มีฉากห้องสมุดบันไดเวียนไม่รู้จบที่อเล็กซ์ใช้เขียนงาน ป่าเวทมนต์ที่มียูนิคอร์นอีวิลอาศัยอยู่ และยังมีการครีเอทบ้านขนมจาก ฮันเซล แอนด์ เกรเทล มาเป็นเรื่องเล่าใหม่ของตัวเองด้วย แต่พวกฉากใช้เวทมนต์อาจจะไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากการดึงเด็กลอยไปมาหรือเปิดประตูมิติเท่านั้น

Nightbooks เป็นผลงานที่เรียกว่าไม่เสียชื่อเครดิตแซม ไรมี ที่ปะหน้าไว้มากๆ ซึ่งเชื่อว่าถ้าไม่ใช่แซม ไรมี เรื่องนี้อาจจะไม่ออกมาดีแบบที่เห็น แม้ตัวเรื่องจากหนังสือจะดีในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่การดัดแปลงมาสร้างได้อย่างยอดเยี่ยมลงตัวกับทุนของ Netflix ที่ไม่ได้มากแบบหนังลงโรง แต่ก็ยังออกมาดีเกินคาดจนน่าจะเป็นหนังที่ลบคำสบประมาทว่า Netflix ทำหนังห่วยได้เรื่องหนึ่งแน่นอนครับ และตอนจบยังทิ้งเชื้อไว้เผื่อทำต่อได้อีก แต่ผู้เขียนคิดว่าคงไม่ทำต่อเพราะตัวนิยายจบในเล่มแค่นั้น เป็นการทิ้งเชื้อตามสไตล์แนวหนังสยองขวัญปลายเปิดไว้เล่นๆ แค่นั้นครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!