playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Raising Dion ss2 โชว์พลังมากขึ้นจากภาคแรก ใกล้เคียงความเป็นซูเปอร์ฮีโร่มากขึ้น แต่เรื่องราวยังเด็กๆ เหมือนเดิม

สรุป

ภาคสองที่สนุกแบบดูไปเรื่อยๆ ไม่มาก แต่ถือว่ายังคงเส้นคงวาแบบภาคแรกไว้ได้ มีจุดดีคือมีฉากแนวใช้พลังสู้กันมากกว่าภาคแรกมาก ถ้าใครชอบแนวซูเปอร์ฮีโร่ก็ถือว่าดูได้เลย

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • แนวซูเปอร์ฮีโร่วัยเด็กที่ยังต้องพึ่งแม่อยู่
  • มีฉากใช้พลังเยอะกว่าภาคแรกมาก
  • CG ทำออกมาดี
  • ตัวร้ายทำออกมาดี

 

Cons

  • สมุนตัวร้ายเมคอัพออกมาดูปลอมมาก
  • บทยังเดินเรื่องแบบเด็กๆ ไม่ได้เข้มข้นมาก
  • ใส่เรื่องราวแก๊งเพื่อดิออนกับละครโรงเรียนเยอะเกินไป

Raising Dion ss2 ภาคต่อของซูเปอร์ฮีโร่เด็กน้อยผิวดำที่สร้างจากการ์ตูนมาลงใน Netflix คราวนี้ทุนสูงขึ้น มีฉากโชว์พลังมากขึ้น พร้อมดราม่าความสัมพันธ์แม่ลูกที่ถูกพัฒนาขึ้นตามวัยเป็นจุดขายที่แตกต่างอยู่เหมือนเดิม

อ่านรีวิว Raising Dion SS1

ตัวอย่าง Raising Dion ss2

เรื่องย่อ

สองปีจากตอนจบ ดิออนเติบโตขึ้นมาก ควบคุมพลังได้ดีขึ้น และพยายามทำตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่พร้อมกับแก๊งเพื่อนอีก 2 คน ดิออนต้องเข้ารับการฝึกพลังจากศูนย์วิจัยผู้มีความสามารถพิเศษ “ไบโอนา” ที่ก่อตั้งขึ้นมาช่วยเหลือผู้คนที่มีพลังจากฝนดาวตก แต่แล้วพลังงานชั่วร้ายที่ดิออนเรียกว่าว่า “คนใจคด” (Crooked Man) ก็ได้แฝงร่างเด็กนักเรียนเข้าใหม่ที่ชื่อ “เบรย์เดน” เพื่อมาตีสนิทหาทางจัดการดิออน นอกจากนี้แล้วยังเกิดหลุมยุบทั่วโลก ณ จุดที่คนใจคดฆ่าผู้มีพลังพิเศษ แถมพีทยังกลับมาอีกครั้งเพื่อมาเตือนภัยถึงแผนการร้ายของคนใจคดในครั้งใหม่นี้

รีวิว Raising Dion ss2

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากในภาคนี้คือ เนื้อเรื่องไม่ได้ต้องมาเสียเวลาปูเรื่องความสามารถพิเศษหรือการควบคุมพลังของดิออนอีกต่อไปแล้ว ซึ่งภาคที่แล้วด้วยความที่ทุนต่ำ พวกฉากพลังพิเศษก็เลยออกมาน้อยมาก ไปอัดแน่นเอาท้ายเรื่องเท่านั้น ภาคนี้เลยมาในแบบแนวซูเปอฮีโร่เต็มตัวมากขึ้นตั้งแต่แรกเลย เมื่อดิออนใช้พลังได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เขาก็ยังต้องถูกแม่บังคับเข้าฝึกพลังพิเศษกับศูนย์ฝึกไบโอนาที่ตั้งขึ้นมาหลังเหตุการณ์ในภาคแรก ตรงนี้ใกล้ความเป็นโรงเรียนฝึกสอนแบบ X-men มาก ซึ่งกลายเป็นที่รวมของคนมีพลังไป ซึ่งตัวละครในศูนย์ฝึกก็ถูกปูมาเพื่อกลายมาเป็นคนร่วมทีมกับดิออนต่อไป อย่างครูฝึก “เทวิน” ที่มีพลังกางบาเรียได้ “เจเนล” สาวผิวดำผู้มีพลังสลายวัตถุทุกอย่างให้เป็นผง นอกจากนี้ตัว “เบรย์เดน” ที่เป็นเด็กตัวร้ายของภาคนี้ก็มีพลังจิตควบคุมสิ่งมีชีวิตได้ทุกอย่าง คล้ายๆ โปรเฟสเซอร์เอ็ก แล้วเจ้าตัวคนใจคดที่เป็นพลังงานด้านมืดก็ออกมาบ่อยกว่าภาคแรกมาก CG ส่วนนี้ทำออกมาดีแบบผ่านฉลุยเลย ซึ่งภาคนี้อาจจะได้ทุนสร้างเยอะขึ้นด้วย ในเรื่องจึงโชว์สกิลพลังพิเศษพวกนี้ได้บ่อยครั้ง ปิดจุดอ่อนของภาคแรกที่มีส่วนนี้น้อยไปเลย แถมตัวดิออนเองก็มีพลังใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ กลายเป็นตัวละครที่สามารถมีพลังอะไรก็ได้จนดูเว่อร์มาก

แม้ส่วนของพลังพิเศษอาจจะดูดีขึ้นมาก แต่ในส่วนที่ไม่ได้ใช้ CG อย่างในภาคนี้จะมีการปรากฎตัวของฝูงลูกสมุนคนใจคดที่เหมือนซอมบี้ติดเชื้อ เมคอัพกับคนในส่วนนี้กลับออกมาแย่ คืออาจจะดูน่าเกลียดน่ากลัวอยู่บ้าง แต่มันกลับดูปลอมๆ เหมือนงานทุนต่ำกว่าปกติ แล้วยังออกแบบให้พวกนี้ดูท่าทางแปลกๆ บางคนเดินช้าเหมือนซอมบี้ ไม่ก็วิ่งได้สองขา หรือคลานสี่ขา ลักษณะหลายอย่างของพวกนี้กลับดูขัดแย้งกันเอง จนดูเป็นฝูงลูกกระจ๊อกตัวร้ายโง่ๆ ขนาดที่แม่ของดิออนสามารถเตะต่อยเก้ๆ กังๆ ก็ยังสู้ได้ มันเลยฉุดให้ฉากต่อสู้กับพวกนี้ดูแย่มาก เหมือนซีรีส์โลวเกรดไปทันที ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก เพราะในส่วนการต่อสู้ด้วยพลังพิเศษในเรื่องทำออกมาดีมากแล้ว

เนื้อเรื่องยังมีส่วนของดราม่าแม่ลูกเป็นหัวใจสำคัญอยู่ ซึ่งภาคนี้นิโคลแม่ของดิออนจะมีความรักกับเทวินครูฝึกคนใหม่ แล้วเขาก็ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่เรื่องก็ไม่ได้เน้นไปที่เรื่องรักของแม่มากนัก เพราะในครึ่งหลังคือนิโคลจะป่วยจากการติดเชื้อจนนับถอยหลังความตาย ทำให้เธอพยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับดิออนให้มากที่สุด แล้วก็พยายามทิ้งวิดีโอสอนลูกไว้หลังเธอตาย ในขณะที่ดิออนไม่รู้เลยว่าแม่ใกล้ตาย แต่ก็ยังทำตัวดื้อต่อไป ไม่ได้มีพัฒนาการด้านนิสัยเปลี่ยนไปมาก แม้ตัวดิออนจะถือว่าโตขึ้นเยอะจากภาคก่อน ดราม่าส่วนนี้ทำออกมาได้กำลังดี ไม่ยืดเยื้อแบบภาคแรกที่ใส่มามากไปหน่อย

แต่ส่วนดราม่าที่มากไปจะเป็นแก๊งเพื่อนดิออนที่พยายามทำละครเพลงกัน ซึ่งบทในส่วนนี้ดูเป็นอะไรที่ไม่น่าสนใจ เป็นส่วนเกินที่แตกต่างจากภาคแรกที่รวมกันต่อสู้กับตัวร้าย อันนี้ดูสนุกและยังช่วยดิออนแก้สถานการณ์ได้ แต่มาในภาคนี้เหมือนคนเขียนบทแค่อยากจะสร้างเรื่องราวในโรงเรียนของดิออนให้มีช่วงเวลาเด็กๆ ตามวัยเข้ามาเท่านั้น ซึ่งไม่สนุกแถมยังกินเวลาของเรื่องมากเกินไปด้วย

ตัวร้ายในภาคนี้ถูกแบ่งออกเป็นคนใจคดที่มาร่างของเด็กใหม่ เบรย์เดน กับการกลับมาของแพท ซึ่งในส่วนแรกตัวเบรย์เดนถูกปูมาว่าเป็นเด็กที่พ่อแม่ตายหมดเพราะคนใจคด และมาสิงร่างเขา ทำให้ด้านมืดความแค้นที่พ่อแม่ตายไม่เหลือใครถูกคนใจคดปั่นหัวให้มาลงที่ดิออน แต่เขาต้องมาตีสนิทกับดิออนก่อน นั่นทำให้เขาได้มองเห็นอีกด้านที่เป้นมิตรภาพที่สวยงาม กลายเป็นความขัดแย้งกับตัวร้ายที่มาสิงสลับไปมา มีฉากที่ใช้พลังของคนใจคดพวกสายฟ้าสลับกับการใช้พลังจิตเข้าไปในสมองของดิออน ซึ่งทำออกมาดีหมดยกเว้นฉากจบที่คาดหวังว่าจะเป็นการต่อสู้เต็มๆ แบบภาคก่อน แต่กลายเป็นว่ามีน้อยมากกว่าตอนที่ผ่านๆ มาซะอีก ในส่วนของแพทคือตัวละครวายร้ายที่ถูกนำเสนอออกมาในแบบเขากลับใจจริงหรือไม่ หรือวางแผนอะไรซ้อนอยู่ ซึ่งเขาจะอยู่ในไบโอนาเป็นหลัก เป็นตัวละครที่ยังคงความสำคัญกับเรื่องไว้มาก และจะมีต่อไปในซีซั่น 3 แน่นอน ซึ่งหลังเอนเครดิตจะมีเซอร์ไพรซ์มากกับตัวละครนี้ รวมถึงการปรากฎตัวของดิออนในอนาคตต่อไปด้วย

สรุป Raising Dion ss2 สนุกและดีไหม

สนุกแบบดูไปเรื่อยๆ ไม่มาก แต่ถือว่ายังคงเส้นคงวาแบบภาคแรกไว้ได้ มีจุดดีคือมีฉากแนวใช้พลังสู้กันมากกว่าภาคแรกมาก ถ้าใครชอบแนวซูเปอร์ฮีโร่ก็ถือว่าดูได้เลย

 

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!