รีวิว Tires ยางไงดี (Netflix) ซีรีส์ตลกเดี่ยวไมโครโฟนที่มีแต่มุกลามกขยะทั้งเรื่อง

Tires ยางไงดี ซีรีส์ตลก Original Netflix 6 ตอนจบซีซั่น 1 เรื่องราวของ วิลล์ (สตีเวน เกอร์เบน) ทายาทหนุ่มที่ทำงานห่วยแตกและขาดคุณสมบัติในการสืบทอดธุรกิจซ่อมรถ เขาพยายามคิดไอเดียธุรกิจมากมาย แต่ซ้ำร้ายคือมันกลายเป็นตัวทำลายธุรกิจนี้มากขึ้นไปอีก และเขายังต้องเผชิญกับเชน (​​Shane Gillis )ญาติของเขาที่เป็นลูกจ้างคนหนึ่งในบริษัท

 

รีวิว Tires ยางไงดี

อีกหนึ่งซีรีส์จาก Netflix ที่ขยันมากๆ กับการเอาพวกเดี่ยวไมโครโฟนอเมริกามาเล่นหนังกับซีรีส์ที่พวกนี้คิดเสนอมาเอง ซึ่งหลายเรื่องมันก็ดี แต่ส่วนใหญ่คือแย่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามุกมันไม่ตรงกับรสนิยมคนไทยอะไรเลย เพราะผู้เขียนก็ขำกับหลายเรื่องที่พวกนี้มาทำเช่นกัน (Old Dads กับผลงานของ เควิน ฮาร์ท)

สิ่งที่แย่คือทั้งเรื่องเป็นซีรีส์ธุรกิจที่ไม่มีแนวคิดธุรกิจอะไรมาขายเลย ดีสุดในเรื่องคือการลดราคายางโดยการเช็คตรวจซ่อมถูกๆ ซึ่งเรื่องก็บิ้วให้เป็นไอเดียที่ดีที่สุดของเรื่องเพื่อให้ตัวเอกวิลล์ได้คืนดีกับพ่อที่มองว่าเขาห่วยแตก ซึ่งทั้งเรื่องก็เต็มไปด้วยสารพัดไอเดียห่วยจริงๆ อย่างการเชิญนักข่าวมาเขียนเรื่องการจ้างงานผู้หญิงในธุรกิจนี้ ทั้งๆ ที่ทางร้านก็ยังไม่ได้ลงมือทำ หรือการให้สาวๆ ใส่บิกินี่มาล้างรถเรียกลูกค้าไปเช็ครถซ่อมเพิ่ม เรื่องตั้งใจใส่เรื่องพวกนี้มาเพื่อเล่นมุกทะลึ่งลามกเหยียดเพศล้วนๆ ซึ่งกลุ่มคนที่ชอบก็อาจจะชอบ แต่มุกพวกนี้มันขยะมากกว่าเพราะไม่สร้างสรรค์อะไรเลย แม้แต่ประโยคฮุกตลกจริงจังก็ไม่มี

ตัวนักแสดงตลกเดี่ยว Shane Gillis ก็ซ้ำเติมให้เรื่องดูแย่ลงไปอีก ด้วยการครีเอทนิสัยให้เขาเป็นคนคิดแต่เรื่องลามก อย่างมีลูกค้าสาวมาก็หวังงาบ ตามจีบ ตามอ่อย การพูดจาท่าทางก็ไปในแนวนี้ตลอดเวลา แต่ก็เขียนบทให้มันเหมือนกับว่าวิธีการของเขาคือช่วยธุรกิจได้ดีกว่าวิลล์ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง (แต่จริงๆ เชนเคือตัวเอกนี่แหละ)  ส่วนตัวละครอื่นก็จืดจางลงไปอีกเพราะเป็นแค่คนประกอบมุกตลกให้เชนเท่านั้น อย่างผู้หญิงคนเดียวในเรื่องที่นิสัยแย่ๆ เพื่อทำให้มุกลามกของเชนดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปอีก

 

ซีรีส์พยายามวางเรื่องให้ธุรกิจของพ่อวิลล์ใกล้ล้มละลายเลยต้องขายทิ้งก่อน โดยพ่อเห็นว่าลูกชายก็ไม่เอาไหนด้วย กลายเป็นปมในใจที่ต้องแก้ แต่กว่าพ่อจะปรากฏตัวออกมาก็ใกล้ๆ จบแล้ว บททั้งเรื่องที่ปูดราม่ามาก็เอาไปใช้ในแนวตลก (ที่ไม่ตลก) เรื่องส่วนนี้กลายเป็นเบาโหวงไม่มีสาระ แม้จะพยายามให้มี แล้วก็ยังประกาศทำซีซั่น 2 ต่อในตอนจบอีก ซึ่งก็คงเพราะต้นทุนเรื่องมันต่ำมากนี่แหละครับ

 

สรุป ซีรีส์จากตลกเดี่ยวไมโครโฟนของอเมริกาที่ทำออกมาได้ห่วยแตกมาก บทกับการแสดงวนอยู่กับมุกทะลึ่งลามกใส่เพศหญิงล้วนๆ แล้วก็ไม่คม ไม่ตลกใดๆ เลย ยกเว้นคุณจะชอบแนวทางแบบนี้เท่านั้นครับ 

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่