playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Unfrosted ศึกป๊อบทาร์ต (Netflix) ตลกฝืดสุดๆ กับหนังขายวงการธุรกิจอาหารเช้าอเมริกา

Unfrosted

Summary

หนังจากนักแสดงตลกอเมริกาที่แย่สุดๆ ในทุกทาง ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ขนม Pop-Tarts ที่เอามาเล่นแบบมั่วซั่วเละเทะมาก การต่อสู้ทางธุรกิจที่มีแต่มุกตลกฝืดๆ นักแสดงมีชื่อเสียงก็ไม่ได้ช่วยหนังได้เลย จัดเกรดว่าเป็นหนังขยะของ Netflix เลยก็ว่าได้ครับ 

Overall
1/10
1/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ประวัติศาสตร์ขนม Pop-Tarts
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทมั่วเละเทะมาก
  • นักแสดงมีชื่อ แต่บทแย่
  • ไม่ตลกเลย (โดยไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหาร)

Unfrosted ศึกป๊อบทาร์ต  ภาพยนตร์ Original Netflix เรื่องราวในปี 1963 คู่แข่งทางธุรกิจอย่างเคลล็อกก์และโพสต์แข่งขันกันสร้างขนมปังกรอบที่อาจจะเปลี่ยนแปลงมื้ออาหารเช้าอเมริกาไปตลอดกาล

Unfrosted (2024) on IMDb

 

รีวิว Unfrosted ศึกป๊อบทาร์ต

หนังจาก Jerry Seinfeld ที่เป็นดาราตลกและ Standup comedian (เดี่ยวไมโครโฟน) ที่โด่งดังคนหนึ่งของอเมริกา ได้ลงมากำกับและเขียนบทหนังเรื่องแรก ซึ่งก็เอาเนื้อเรื่องของการกำเนิด Pop-Tarts ขนมปังแผ่นอาหารเช้าของเด็กๆ ในอเมริกามาเป็นเค้าโครงเรื่องบางส่วน แล้วก็แต่งเติมเรื่องเข้าไปให้มันดูกาวแบบมั่วๆ มาก อย่าง การเอาคอมพิวเตอร์หน้าตาประหลาดๆ ไลฟ์โค้ชออกกำลังกาย คนทำจักรยานมาช่วยสร้างอาหารเช้านี้ หรือการใส่เรื่องให้มีการสืบความลับคู่แข่งโดยใช้ภารโรงติดกล้องไว้ที่ไม้ม็อบ สืบจากเด็กที่ลงไปคุ้ยขยะทิ้งแล้วของอีกฝ่ายมากิน ซึ่งไอเดียเพี้ยนๆ เหล่านี้ก็หาความตลกไม่ได้เลยสักนิด โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราไม่เข้าถึงวัฒนธรรมอาหารเช้าอเมริกาเลยด้วย โดยที่ดูเอาเนื้อหาทางการแข่งขันธุรกิจก็ไม่ได้สาระความจริงอะไรเลยอีกด้วย

นอกจากนี้แล้วการพยายามรวมดารารุ่นใหญ่หลายคนมาเล่น อย่าง ฮิว แกรนต์ คริสเตียน สเลเตอร์ ก็เหมือนการขุดหลุมฝังตัวเอง เพราะบทที่ให้ดาราพวกนี้ก็เป็นแค่ตัวประกอบสมทบเรื่องที่ไม่ได้มีสาระหรือสำคัญกับเรื่องเลย  อย่าง  ฮิว แกรนต์เล่นเป็นมาสคอตเสือบนกล่องที่พยายามจัดม็อบประท้วงบริษัท ก็เป็นแค่ตัวป่วนที่ออกมาบางฉากเท่านั้น หรือแม้แต่ Jerry Seinfeld ในบทตัวเอกที่คิดขนมปังนี้ก็ไม่ได้รู้สึกถึงบทและเอกลักษณ์ของตัวเองเขาเองเลย เทียบกับเดี่ยวไมโครโฟนคนอื่นที่มาทำหนังใน Netflix อย่าง Kevin Hart กับ Bill Burr นี่ยิ่งห่างชั้นกันมาก เด็กสองคนที่คุ้ยขยะกินในเรื่องยังมีบทและการแสดงที่เด่นกว่าอีก

สรุปเป็นหนังจากนักแสดงตลกอเมริกาที่แย่สุดๆ ในทุกทาง ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ขนม Pop-Tarts ที่เอามาเล่นแบบมั่วซั่วเละเทะมาก การต่อสู้ทางธุรกิจที่มีแต่มุกตลกฝืดๆ นักแสดงมีชื่อเสียงก็ไม่ได้ช่วยหนังได้เลย จัดเกรดว่าเป็นหนังขยะของ Netflix เลยก็ว่าได้ครับ 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!