playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Utopia โลกของทฤษฎีสมคบคิดจากการ์ตูนมาสู่เรื่องจริงสุดสยอง (ไม่มีสปอยล์)

Utopia

สรุป

ซีรีส์ที่เล่นเรื่องราวน่าสะพรึงกลัวผ่านทฤษฎีสมคบคิดเรื่องไวรัสล้างโลกที่ดูไปก็แอบคิดว่าเป็นจริงได้บางส่วนเหมือนกัน และแอบเหมือนเรื่องราวการระบาดของไวรัสโควิดในตอนนี้ด้วย องค์ประกอบการนำเสนอหลายๆ อย่างในเรื่องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือการที่เรื่องมุ่งเน้นจะหักมุมคนดูอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรื่องพลิกไปพลิกมาแบบไม่มีเหตุผลรองรับที่คล้อยตามได้นัก แต่ถ้าดูแบบไม่ต้องคิดถึงเหตุผลในจุดนี้แล้ว ตัวซีรีส์ถือว่าทำได้ดี มีความแปลกสดใหม่กับเนื้อเรื่องที่เล่นกับทฤษฎีสมคบคิดจากโลกการ์ตูนมาสู่ของจริงได้อย่างน่าทึ่ง และเต็มไปด้วยความโหดร้ายมากทั้งเรื่อง แทบไม่แคร์ความรู้สึกผู้ชมเลย

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • เรื่องราวทฤษฎีสมคบคิดซ้อนกันหลายชั้นมาก
  • เรื่องราวเหมือนการ์ตูนฮีโร่ในโลกจริง
  • มีฉากโหดเต็มไปด้วยความรุนแรงบ่อยครั้งมาก
  • เน้นตลกเสียดสีการสร้างภาพปั้นข้อมูลเท็จผ่านโลกโซเชียลมีเดียร่วมกับทฤษฎีสมคบคิด
  • นักแสดงในบทอลิซ เด็กสาวตัวน้อยในเรื่องมีเสน่ห์มาก (แต่ออกมาช่วงหลังของเรื่อง)
  • ตัวละครในเรื่องสีเทาๆ กันได้ทั้งสองฝ่าย

Cons

  • เนื้อเรื่องเน้นหักมุมตลอดเวลาจนขาดเหตุผลรองรับให้เชื่อตามได้ทันที
  • ประเด็นเรื่องไวรัสล้างโลกอาจจะไม่ได้สดใหม่นัก
  • ตัวเอกเจสซิก้า ไฮด์ ที่ลุคกับการกระทำในเรื่องเข้าใจได้ยาก ทำให้คนดูไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วยสักเท่าไหร่

 

Utopia ซีรีส์ใหม่ของ Amazon Prime เรื่องราวของกลุ่มแฟนบอยการ์ตูนหายนะไวรัสล้างโลก ที่ต้องมาตกอยู่ภายใต้เรื่องราวของจริงที่โหดร้ายกว่ามากมายหลายเท่า

**สำหรับเรื่องนี้มีปัญหาบั๊กในระบบไม่ขึ้นที่ไทย หรือผ่านแอปบนทีวี แต่สามารถดูได้ผ่าน amazon ของอเมริกา มีซับไทยครบ คลิกที่นี่ดูได้เลยครับ

 Utopia (2020) on IMDb

ตัวอย่าง Utopia

รีวิวไม่มีสปอยล์เนื้อหาจุดหักมุมของเรื่อง

Utopia ซีรีส์ใหม่ของ Amazon Prime ที่รีเมคจากต้นฉบับของอังกฤษเมื่อปี 2013 ที่มีความแปลกทั้งเรื่องราวและการนำเสนอภาพผ่านโลกของการ์ตูนยูโทเปียในเรื่อง ที่ถูกนำมาเป็นชื่อเรื่องด้วยเช่นกัน โดยยูโทเปียในที่นี้ไม่ได้หมายถึงดินแดนในฝันตามที่เข้าใจกัน แต่เป็นแมสเซจหลักของเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มแฟนบอยผู้คลั่งไคล้การ์ตูนคอมิค “ดิสโทเปีย” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทฤษฎีสมคบคิดผ่านโลกของการ์ตูน ซึ่งกลุ่มที่อ่านเรื่องนี้มีส่วนหนึ่งเชื่อว่าเนื้อหาในเรื่องมาจากของจริง และเป็นการ์ตูนที่ทำนายการมาของไวรัสร้ายสายพันธ์ต่างๆ ที่ระบาดในโลกเราจริงๆ ตั้งแต่เอดส์ ซิก้า อีโบล่า ซึ่งเกิดจากกลุ่มคนที่ต้องการทำลายล้างโลกด้วยไวรัส ที่สร้างขึ้นมาจากนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนหนึ่ง ซึ่งลูกสาวถูกจับตัวไปและบังคับให้เขาผลิตไวรัสพวกนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งลูกสาวของนักวิยาศาสตร์ในเรื่องนี้เป็นตัวเอกในการ์ตูนชื่อ เจสซิก้า ไฮด์ ที่ภายหลังหนีรอดออกมาได้จากความช่วยเหลือของ อาร์เทมิส สาวร่างยักษ์ที่กลายมาเป็นผู้ฝึกสอนวิธีการเอาตัวรอดให้เด็กน้อยคนนี้ ซึ่งตัวเรื่องดิสโทเปียออกวางขายเพียงเล่มเดียว โดยทิ้งค้างภาคต่อ “ยูโทเปีย” ไว้ให้คนติดตาม แต่กลับไม่มีตีพิมพ์ออกมาเลย จนกระทั่งวันหนึ่ง การ์ตูนภาคต่อเรื่องนี้ก็มีโผล่มาให้คนเข้าร่วมประมูลในงานเฟสติวัลแห่งหนึ่ง ซึ่งกลุ่มแฟนบอยผู้คลั่งไคล้เรื่องนี้จึงมารวมตัวกัน เพื่อไขปริศนาหาความจริง หวังกู้โลกจากการก่อการร้ายด้วยไวรัสครั้งใหม่ ผ่านคำใบ้ที่ซ่อนอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้

ตัวเอกหลักของเรื่องในตอนแรกจะมีกัน 5 คน เป็นกลุ่มแฟนบอยที่รู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ตนัดมารวมตัวกันเพื่อประมูลเอาการ์ตูนเรื่องนี้ไปให้ได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวร้ายแรงตามมา ซึ่งต้องบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอความรุนแรงได้โหดร้ายชวนช็อกมาก พอๆ กับเรื่อง Hunter ที่ทำคนช็อคตั้งแต่ช่วงนาทีเปิดเรื่อง และก็มีแนวทางการดำเนินเรื่องแบบเดียวกันคือ กลุ่มคนธรรมดาที่มารวมตัวกันจัดการฝ่ายผู้ร้ายในโลกแห่งความเป็นจริง เหมือนเป็นแนวเรียลฮีโร่แบบนั้นครับ ซึ่งฝั่งตัวเอกของเรื่องนี้คือแฟนบอยการ์ตูนที่ปกติแทบจะเหมือนคนบ้าวิกลจริต เพราะแต่ละคนจะคลั่งไคล้เรื่องราวในยูโทเปีย และเชื่อว่ามันเป็นจริงจนถึงขั้นทำที่หลบภัยเตรียมพร้อมสู้หายนะล้างโลก และหวังว่าตัวเองจะได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวทฤษฎีสมคบคิด จนกระทั่งการปรากฎตัวของ เจสซิก้า ไฮด์ ในเวลาต่อมา กลับกลายเป็นหายนะมาสู่พวกเขาทั้งส่วนตัวและครอบครัว เมื่อ เจสซิก้า ไฮด์ กลับไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้ในการ์ตูนที่พวกเขาชื่นชมเลยสักนิดเดียว รวมถึงฝ่ายตัวร้ายสุดโหดที่ไล่ฆ่าคนแบบนับไม่ถ้วนในเรื่อง เพียงแค่เห็นการ์ตูนเพียงหน้าเดียวความตายก็มาเยือนทันที

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเสนอทฤษฎีสมคบคิดที่มีความเชื่อว่ามีคนต้องการทำลายโลกนี้อยู่ แต่ว่าจะเป็นแบบไหน ยังไง เพื่ออะไร ซึ่งตัวเรื่องมุ่งเป้าไปที่การระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ที่เป็นแล้วตายแน่นอน โดยไม่มีวัคซีนรักษา ที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการปรากฏตัวของการ์ตูนยูโทเปีย ตัวเรื่องจะแบ่งการเล่าออกไปสองฝั่ง ฝั่งทีมตัวเอกที่พยายามไขปริศนาผ่านการ์ตูนยูโทเปีย ไปพร้อมกับค้นหาความลับของ เจสซิก้า ไฮด์ ที่ซ่อนอยู่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร อีกฝั่งคือเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ตกอับที่พยายามหาต้นตอไวรัสและพยามยามหยุดมันให้ได้ด้วยวัคซีนที่ยังไม่ได้รับการรับรอง โดยมี  Dr. Kevin Christie (เล่นโดย จอห์น คูแซค) เจ้าของบริษัทชีวะภาพขนาดใหญ่ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอในการระบาดครั้งนี้เป็นคนหนุนหลังเพื่อแก้ข้อกล่าวหาให้ตัวเองจัดจำหน่ายสินค้าได้ต่อไป

ตัวเรื่องเต็มไปด้วยทฤษฎีสมคบคิดซ้อนกันวุ่นวายเต็มไปหมดทั้งเรื่อง ทั้งในการ์ตูนยูโทเปียและในเรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่านั้นหลายชั้นมาก เรื่องจึงเล่าแบบชวนให้สับสนวุ่นวายกับการกระทำของตัวละครต่างๆ แต่ก็เข้าใจได้ไม่งง ทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยการหักมุมอยู่ตลอดเวลาทุกตอน ซึ่งแทบไม่มีอะไรเชื่อได้เลยว่าสิ่งที่เราดูไปก่อนนี้คือเรื่องจริง เพราะในเวลาต่อมาทุกอย่างพลิกกลับไปมาได้เสมอ แม้แต่ตัวเอกหรือตัวร้ายก็ยังสลับบทบาทกันไปมาจนจบ ซึ่งการหักมุมหลายชั้นแบบนี้ต้องมีเหตุผลรองรับที่ดีพอถึงทำให้คนดูเชื่อคล้อยตามได้ แต่เรื่องนี้กลับไม่ได้สนใจจะสร้างเหตุผลรองรับที่ดีสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะแนวการนำเสนอของเรื่องตั้งแต่ต้นฉบับแล้วที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวแบบการ์ตูนที่หลุดมาเป็นเรื่องจริง จึงไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมากพอ นึกจะพลิกเรื่องก็พลิก นึกจะให้มีใครตายก็ตายกันทันทีแบบชวนช็อคเรื่อยๆ ซึ่งคนที่ดูแบบต้องการเหตุผลจริงจังให้คล้อยตามได้คงไม่ชอบเรื่องนี้เอามากๆ แน่ (ตอนนี้คะแนนจากคนดูและนักวิจารณ์รุมถล่มเรื่องนี้ยับเหมือนกัน)

แต่ถ้าคนดูที่มองแค่ความสนุกของเรื่องราว ยูโทเปียมีเรื่องราวที่แปลกแตกต่างและสนุกบันเทิงมากเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบดูหนังโหดๆ เรื่องนี้มีฉากชวนช็อคเยอะมาก อย่างควักลูกตาสดๆ มือปืนเด็กกราดยิง ทั้งตัวเอกตัวร้ายฆ่าคนบริสุทธิ์ได้หน้าตาเฉย แม้แต่ทีมตัวเอกหลักก็ยังต้องตายกันแบบไม่มีปี่ขลุ่ย เรียกว่าในเรื่องนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอะไรเลยทั้งสิ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้คนดูคาดเดาอะไรไม่ได้เลยว่าจะเกิดขึ้นในเรื่องไปจนจบ และก็มีต่อซีซั่น 2 ตามต้นฉบับ 2 ซีซั่นจบ (คาดว่าได้ทำต่อ เพราะถึงกระแสรุมโจมตีจะเยอะ แต่ยอดคนสนใจก็เยอะมากเช่นกัน)

รวมตัวเอกใน Utopia
แซม (ขวาล่าง) เอียน (ขวาสุด) วิลสัน (ขวาบน) เจาซิก้า ไฮด์ (กลาง) อลิซ (ซ้ายบน) เบคกี้ (ซ้ายสุด) แกรนท์ (ซ้ายล่าง)

ตัวละครหลักในเรื่องนี้มีเยอะมาก แต่ก็เฉลี่ยบทได้เป็นอย่างดีทุกตัวละครมีความหมายกับเรื่อง และก็ช่วยกันต่อจิ๊กซอว์ทฤษฎีสมคมคิดนี้กันทุกคน โดยหลักของเรื่องคือกลุ่มแฟนบอย 5 คน ที่มี แซมสาวน้อยในไร่ผู้อยากเปลี่ยนแปลงโลกเป็นผู้นำกลุ่ม เอียนที่มาร่วมกลุ่มเพียงเพราะหลงรักสาวในเน็ตที่อยู่กลุ่มนี้ แทบไม่เชื่อว่ายูโทเปียมีจริง ก่อนจะพบกับของจริงที่ชวนช็อค เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการมากสุดจนเกือบเหมือนตัวพระเอกของเรื่องก็ว่าได้ วิลสันผู้เป็นมันสมองของทีมและเตรียมพร้อมรับมือวันสิ้นโลกมากกว่าใคร ถึงขั้นฝึกปลดนิ้วออกจากกุญแจมือได้ (ฝึกไว้กันโดนจับตัวไปทรมาน) เจสซิก้า ไฮด์ที่เป็นศูนย์กลางของทั้งเรื่องที่ทุกคนตามหาความลับจากเธอ เบคกี้สาวผิวสีที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงและต้องการไขความลับยูโทเปียเพื่อหาวิธีรักษา แกรนท์เด็กสุดในกลุ่ม แต่แสบมากๆ อลิซ สาวน้อยที่ตกกระไดพลอยโจนมาร่วมทีมในภายหลัง และกลายเป็นตัวละครที่เด่นมากๆ ในเรื่องทั้งความน่ารักและเรื่องราวที่เธอต้องพบกับความโหดร้ายสะเทือนใจสุดๆ ทำให้คนดูพร้อมเอาใจช่วยเธอเต็มที่

ฝ่ายตัวร้ายหลักๆ ที่เปิดเผยได้ไม่นับเป็นสปอยล์คือ อาร์บี้ หน่วยเก็บกวาดสุดโหดขององค์กรร้าย ที่เปิดตัวได้ชวนช็อคมากจริงๆ และก็เป็นตัวละครที่คนดูทั้งเกลียดและสงสารเขาไปพร้อมกัน ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ต้องกลายมาเป็นปีศาจ ซึ่งนักแสดง Christopher Denham แสดงได้สมบทบาทมาก ทั้งบรรยากาศความสยองแบบคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไรในทุกฉากที่ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ตัวตนใหม่ในภายหลังที่ทำให้ตัวละครนี้มีความลึกมากขึ้นไปอีกในบทสีเทาๆ ต่างจากตอนแรกเป็นอย่างมาก

Utopia เป็นซีรีส์ที่เล่นเรื่องราวน่าสะพรึงกลัวผ่านทฤษฎีสมคบคิดเรื่องไวรัสล้างโลกที่ดูไปก็แอบคิดว่าเป็นจริงได้บางส่วนเหมือนกัน และแอบเหมือนเรื่องราวการระบาดของไวรัสโควิดในตอนนี้ด้วย องค์ประกอบการนำเสนอหลายๆ อย่างในเรื่องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือการที่เรื่องมุ่งเน้นจะหักมุมคนดูอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรื่องพลิกไปพลิกมาแบบไม่มีเหตุผลรองรับที่คล้อยตามได้นัก แต่ถ้าดูแบบไม่ต้องคิดถึงเหตุผลในจุดนี้แล้ว ตัวซีรีส์ถือว่าทำได้ดี มีความแปลกสดใหม่กับเนื้อเรื่องที่เล่นกับทฤษฎีสมคบคิดจากโลกการ์ตูนมาสู่ของจริงได้อย่างน่าทึ่ง และเต็มไปด้วยความโหดร้ายมากทั้งเรื่อง แทบไม่แคร์ความรู้สึกผู้ชมเลย

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!