Sony, Microsoft และ Nintendo แถลงผลกระทบด้านลบของสงครามการค้า อเมริกา Vs. จีน

By Mr.T-rat Jongjumruspun On Jun 27, 2019 Last updated Nov 22, 2019

ประเด็นสงครามการค้าอเมริกา Vs. จีน ที่นับวันๆ มีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะการขึ้นค่าเก็บภาษีสินค้าประเภทเทคโนโลยีที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เลยเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทุกวงการทั่วโลกเป็นวงกว้างแล้วล่ะครับ ซึ่งตอนนี้วงการเกมก็โดนหางเลขไปด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Sony, Microsoft และ Nintendo จนในที่สุดทั้งสามค่ายยักษ์ใหญ่ถึงกับต้องส่งจดหมายร้องเรียน [คลิ๊กที่นี่] ไปถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกา & ประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับผลเสียร้ายแรงของการเตรียมขึ้นภาษีที่มีต่ออุตสาหกรรมการผลิตเกมในอนาคตเป็นอย่างไรบ้าง โดยผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาใจความสั้นๆ ดังต่อไปนี้

Sony, Microsoft และ Nintendo ออกแถลงการณ์ว่ามาตรการขึ้นค่าเก็บภาษีสินค้าประเภทเทคโนโลยีที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความลำบากในการดำเนินงานทุกส่วนที่จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่, ขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังรวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตอีกด้วย

“เครื่องคอนโซลของเรานั้นไม่เหมือนกับ PC ตรงที่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่ถูกออกแบบโดยวิธีเฉพาะเจาะจงเพื่อให้เหมาะกับระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์นั้นๆ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

สามค่ายยักษ์ใหญ่อธิบาย

“เกม (หรือการบริการ) ที่ต้องได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่ิอรองรับการทำงานบนคอนโซลอื่นหรือบน PC จำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมากหรือที่เราเรียกกันว่า ‘การพอร์ต’ ตรงจุดนี้เองจะกลายเป็นงบประมาณที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการธุรกิจเกม”

หากทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา & ประธานาธิบดี Donald Trump ยังคงดำเนินมาตรการดังกล่าวต่อไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เครื่องคอนโซลและแผ่นเกม (อาจรวมดิจิตอลด้วย) มีราคาสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น พร้อมทำกำไรในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ต่ำลงกว่าเดิม ทั้งสามค่ายยักษ์ใหญ่ต่างคาดการณ์ว่าราคาสูงขึ้นจากเดิม 25% เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ จากเกมราคาปกติ 59.99$ ก็มีโอกาสขึ้นไปถึง 74.99$ เลยทีเดียวครับ แน่นอนว่าจุดนี้จะทำให้มีผู้ใช้งานคอนโซลน้อยลงอีกมากพอสมควร

ปัจจุบัน Nintendo ย้ายฐานการผลิตหนีออกจากประเทศจีนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากกลัวมาตรการการคว่ำบาตรทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จึงไม่น่าแปลกใจว่าทาง Sony และ Microsoft จะกังวลกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญดูเหมือนหลายบริษัทยักษ์ใหญ๋ต่างก็ไม่พอใจกับสถานการณดังกล่าว ซึ่งไม่ต้องเดาว่าพวกเขาก็ส่งจดหมายร้องเรียนไปเหมือนกัน ถึงอย่างนั้นก็คงต้องรอดูท่าทีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา & ประธานาธิบดี Donald Trump ว่าจะมีมาตรการแก้ไขปัญหากันอย่างไร….หรือไม่บางทีก็อาจตัดหางปล่อยวัด ไม่สนคำร้องเรียนใดๆ ทั้งสิ้นก็เป็นได้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้เขียนจะรีบมาแจ้งให้ทราบกัน