playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

Huawei Mate 30 เปรียบเทียบภาพถ่ายจริงกับรุ่นพี่ P30 Pro และ S10 5G

Huawei Mate 30 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์จีนระดับโลกอย่าง Huawei ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ที่ใครก็ได้ออกมาบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละปี Huawei จะมีการเปิดตัว Huawei Mate ซึ่งจะเป็นรุ่นที่เรียกได้ว่าจัดเต็มนวัตกรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้นมาอย่างอัดแน่นในทุกๆ ปี

โดยในครั้งนี้ทาง DXOMark ได้มีการออกมาเปรียบเทียบการพัฒนาของกล้องที่พัฒนามาอย่างดีที่สุดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยการนำมาเทียบกับเรือธงในฝั่งแอนดรอยด์ทั้งจากแบรนด์ของตัวเองอย่าง Huawei P30 Pro และจากฝั่งคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy S10 Plus ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไรมารับชมไปพร้อมๆ กันเลยครับ

กล้อง Mate 30

 

ค่าแสง ความสว่างและคอนทราสต์

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

ทางด้านความสว่าง Huawei Mate 30 จะให้ค่าความสว่างและการรับแสงที่ดีมากกว่า Huawei P30 แต่ Samsung Galaxy S10 จะให้ความสว่างมากที่สุด โดยที่ Mate 30 จะมีความคอนทราสต์สูงซึ่งทำให้เห็นรายละเอียดของเนื้อหินด้านล่างมากกว่า S10 ในขณะที่ P30 เห็นรายละเอียดเนื้อหินได้น้อยที่สุด และสำหรับการรับแสงสังเกตได้จากแสงบนในหน้าของแบบในรูปซึ่ง Mate 30 และ S10 ทำได้ค่อนข้างดี แต่ P30 นั้นให้แสงที่น้อยจนเกินไป


ความคมชัดและความอิ่มตัวของสี

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

ในเรื่องของสีนั้นความคมชัดและความอิ่มตัวของ Mate 30 และ S10 นั้นเรียกได้ว่าแทบไม่เห็นความแตกต่าง แต่ S10 จะมีสี่ที่คมชัดกว่าเล็กน้อย แต่หากเทียบกับ P30 เรียกได้ว่าอีกสองรุ่นที่เหลือทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนเลยทีเดียว สังเกตได้จากสีของต้นไม้ด้านหน้าและสีขาวที่ค่อนข้างมืดที่สุด และสีของท้องฟ้าที่อีกสองรุ่นให้สีที่สดและคมชัดมากกว่า


รายละเอียดและความคมชัด

หากพูดถึงความคมชัดนั้น อยากให้ลองสังเกตถึงรายละเอียดด้านหลัง ซึ่งถ้าหากซูมเข้าไปถึงประตูทางเข้าบริเวณด้านหลังนั้นจะสังเกตได้ว่า ภาพที่ถ่ายจาก Mate 30 จะมีรายเอียดที่คมชัดและมีนอยซ์ไม่มากนักในขณะที่อีกสองรุ่นจะสูญเสียความคมชัดและรายละเอียดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง P30 แต่ทาง Mate 30 นั้นจากภาพที่ถ่ายกลางแจ้งก็สังเกตได้ถึงการเบลอหน้ามากเกินไป ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาได้ในบางครั้ง แต่โดยรวมก็ยังมีรายละเอียดของภาพที่สมบูรณ์มากกว่า S10

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

การซูมระยะกลาง

จากรายละเอียดแล้วนั้นนับว่า Mate 30 ทำสีได้ค่อนข้างสมจริงและคมชัดจากการซูมในระยะนี้หากเทียบกับ P30 แต่ทาง S10 ให้ภาพคมชัดที่ใบหน้าของบุคคลแต่กลับมีสีที่อมขาวมากกว่า แต่ความละเอียดค่อนข้างใกล้เคียงกับ Mate 30 แต่ที่ต่างอย่างชัดเจนก็คือเรื่องสีที่ S10 จะออกแนวสบายตามากกว่าและ Mate 30 จะออกแนวเหมือนจริงมากกว่านั่นเอง

 

็
Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

 


การซูมระยะไกล

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ S10 นั้นมืดกว่าอีกสองรุ่นมาก จากการเก็บรายละเอียดด้านหน้าแสดงให้ได้เห็นว่า Huawei จะเก็บรายละเอียดสิ่งที่อยู่ด้านหน้าได้ชัดเจนกว่าแต่จะมีการเบลอภาพด้านหลังแต่รายละเอียดยังคงครบถ้วน แต่ทาง Samsung จะเก็บรายละเอียดเท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่โดยรวมหากมองที่สีและความคมชัด Mate 30 ก็ยังคงชนะไปอีกเช่นเคย


การถ่าย Bokeh

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

S10 มีการเบลอภาพด้านหลังและสีที่คมชัดสวยงามมาก แต่ทาง Huawei ทั้งสองรุ่นนั้น ให้สีที่ออกมาค่อนข้างจะซีดไปสักนิดแต่ Mate 30 ก็ยังคงเบลอออกมาได้จนทำให้บุคคลเด่นออกมา หากซูมบริเวณไรผมจะให้ได้ว่าเซ็นเซอร์วัดความชัดลึกของ Mate 30 ทำได้ดีอย่างมาก แต่หากมองโดยรวมและความสมบูรณ์รวมถึงสี ยกนี้คงต้องให้ S10 ชนะไปอย่างฉิวเฉียดเพราะเป็นการ Bokeh จึงสมควรวัดจากความสวยงามในการเบลอภาพ การเก็บรายละเอียด และความคมชัดของสีมากกว่า


ภาพมุมกว้าง

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

จากภาพที่เราได้เห็นนั้น S10 สามารถจับภาพได้กว้างกว่าอีกสองรุ่น ส่วนความคมชัดตัวผมเองมองว่า S10 ให้ความอิ่มสีและรายละเอียดภาพที่คมชัดมากกว่า และสำหรับ P30 และ Mate 30 นั้นนับได้ว่า P30 ทำสีได้ออกมาคมชัดมากกว่าอย่างน่าประหลาดใจ แต่หากซูมดูถึงรายละเอียดภาพบนผิวน้ำ Mate 30 ยังคงทำได้ดีกว่าทั้งสองรุ่นอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว


Night Mode

Huawei Mate 30 Pro
Huawei P30 Pro
Samsung Galaxy S10 5G

และสุดท้ายสำหรับในที่แสงน้อยนั้น Huawei Mate 30 ทำได้ดีกว่าทั้งสองรุ่นอย่างเห็นได้ชัดด้วยความอิ่มตัวของดีแบะคุณภาพของภาพที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และได้คะแนนสูงสุดใน DXOMark โดยสามารถดูได้จากรายละเอียดของใบไม้ทางด้านขวาและเงาในน้ำที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงน๊อยซ์ที่ค่อนข้างน้อย ทำให้ Mate 30 Pro ชนะไปอย่างขาดลอยในยกนี้

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!