playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Jurassic World: Camp Cretaceous SS2 แนวเรื่องใหม่แต่กลับไม่สนุกตื่นเต้นเท่าสูตรเดิม (ไม่มีสปอยล์)

Jurassic World: Camp Cretaceous SS2

สรุป

ภาคต่อที่เป็นแนวดำรงชีวิตให้รอดบนเกาะ แม้จะเป็นแนวทางใหม่ของเนื้อเรื่องจูราสสิคปาร์คแบบเดิมๆ ที่พยายามหนีจากเกาะ แต่กลายเป็นว่าเนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความสมเหตุผลจนเรียกว่าย่อยยับเลยก็ว่าได้ และยังทำให้ไดโนเสาร์น่ากลัวอย่างทีเร็กซ์กลายเป็นตัวตลกไปเลย

Overall
4/10
4/10
Sending
User Review
4.5 (2 votes)

Pros

  • เส้นเรื่องใหม่แบบการดำรงชีวิตรอดให้ได้บนเกาะ
  • ความลื่นไหลของแอนิเมชั่นไดโนเสาร์ถือว่าทำได้ดีมากไม่เปลี่ยน

Cons

  • เนื้อเรื่องพยายามยัดซีนหนีไดโนเสาร์เข้ามาแบบไม่สมเหตุผล
  • พฤติกรรมไดโนเสาร์แบบใหม่ที่เรื่องนำเสนอดูตลก
  • พัฒนาการตัวละครบางตัวถดถอยลง บางตัวก็โอเวอร์จนหลุดจากธีมเรื่องหลักไปเลย
  • มีการเอามนุษย์มาเล่นเป็นตัวร้ายสูตรเดิมซ้ำอีกครั้ง
  • กั๊กเรื่องหลักไว้ไปต่อซีซั่น 3

Jurassic World: Camp Cretaceous SS2 แอนิเมชั่น Netflix ภาคต่อของจูราสสิคปาร์คแบบเด็กๆ ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในเกาะอิสลานูบลาร์ และก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ด้วยตนเอง

ตัวอย่าง Jurassic World: Camp Cretaceous SS2

ซีซั่นต่อมาของจูราสสิคปาร์คในแบบแอนิเมชั่นเรตเด็กลดความรุนแรงลงกว่าเดิม ซึ่งซีซั่น 1 ถือว่าทำได้ดีเลยความสนุกตื่นเต้นต่อยอดจากภาพยนตร์ และก็ทำหลายๆ อย่างได้ใกล้เคียงกัน โดยคงเส้นเรื่องแบบเดิมของแนวจูราสสิคคือไปเที่ยว ไดโนเสาร์หลุดจนเกิดหายนะกับเกาะ แล้วก็จบด้วยการหนีออกมาได้ แต่พอมาเป็นแอนิเมชั่นมีซีซั่น 2 ตอนจบของซีซั่นแรกจึงไม่ได้เป็นไปตามสูตรหนีจากเกาะได้ กลายเป็นว่าพวกเด็กต้องมาติดอยู่ในเกาะแห่งนี้ต่อไป ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ดูจะแตกต่างออกไปมาจากโครงเรื่องจูราสสิคปาร์คแบบเดิมๆ ที่ดูกันมาทุกภาค

แม้ว่าเรื่องราวต่อนี้จะสดใหม่จริงๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินเรื่องการใช้ชีวิตบนเกาะแบบผู้รอดตายแบบจริงจัง ตัวเรื่องต่อจากตอนจบ ทุกคนที่รอดอยู่พยายามหาทางส่งสัญญาณออกขอความช่วยเหลือ พร้อมกับหาทางใช้ชีวิตรอดที่นี่ให้ได้แบบเป็นปกติสุขที่สุด ซึ่งบอกตรงๆ ว่าบทเหมือนหาทางไปต่อได้ลำบากแล้ว เพราะตัวละครทั้งหมดเป็นเด็กด้วยเลยยิ่งทำให้เดินเรื่องแนวผู้รอดตายให้สมเหตุผลยาก แถมยังม่ีเรื่องเรตของแอนิเมชั่นที่ต้องไม่มีความรุนแรงมาเกี่ยวข้องอีก ดังนั้นลืมไปเลยว่าจะได้เห็นการหาอาหารแบบจับไดโนเสาร์มาปิ้งกันอะไรแบบนี้ไม่มีหรอก ซึ่งเรื่องก็เดินไปแบบโลกสวยมากด้วยการให้หาอาหารกระป๋อง หาผลไม้กินกัน ซึ่งมันก็พอถูไถไปได้ ซึ่งส่วนการเอาตัวรอดจากพื้นฐานการอยู่กินปกติพอกล้อมแกล้มไม่สนใจความสมเหตุได้เพราะนี่มันเป็นแอนิเมชั่น แต่ปัญหาหลักเลยคือการผูกเรื่องให้พวกเด็กต้องเข้าไปเกี่ยวกับการหนีไดโนเสาร์ที่ต้องมีในแต่ละตอน (เป็นไฮไลท์ของแต่ละตอน) มันกลับไม่สมเหตุผล เหมือนยัดซีนพวกนี้เข้ามาแบบลวกๆ

ไดโนเสาร์ตัวร้ายในภาคก่อนถือว่าหลากหลายมาก และก็เดินเรื่องให้ไปเจอแบบสนุกสมเหตุผลแทบทุกตัว อาจจะเพราะเส้นเรื่องคือการหนีเลยวางสเต็ปให้ไปเจอง่าย แต่พอต้องมาใช้ชีวิตปกติบนเกาะแล้วต้องเจอแบบหนีเฉยๆ มันเลยดูไม่มีความตื่นเต้น และเรื่องก็ยังใช้บริการเจ้าทีเร็กซ์มาเป็นตัวร้ายหลักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แถมยังสร้างให้ทีเร็กซ์ในตอนนี้มีพฤติกรรมแบบนกหรือไก่ คาบกิ่งไม้ ท่อนไม้ มาทำรังอีกต่างหาก ซึ่งกลายเป็นตลกไปเลย ไม่ใช่แค่นั้นยังพยายามสร้างพฤติกรรมไดโนเสาร์ตัวอื่นๆ ให้เหมือนสัตว์โลกปกติแบบอ้างอิงกันง่ายๆ อย่างการมากินน้ำในบึงเดียวกันทั้งพวกกินเนื้อกับกินพืช ซึ่งดูเป็นการอ้างอิงแบบดูเป็นการ์ตูนมากจนเกินไป ซึ่งภาคแรกไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็นเลย (ยกเว้นแค่ไดโนเสาร์เพื่อนรักของเบน)

ไดโนเสาร์ตัวรองในภาคนี้คือ “แบริออนิกส์” ที่พึ่งมีเพิ่มเติมมาในภาคนี้ ลักษณะก็แบบเดียวกับแรพเตอร์แต่เป็นขนาดตัวที่ใหญ่กว่า ซึ่งบทของเจ้านี่ก็มาเป็นแค่ตัวรองแบบออกมาน้อยฉากมากจริงๆ จนแทบไม่มีความสำคัญหรือเด่นอะไรกับเรื่องราวในภาคนี้จริงจังเลย

แบริออนิกส์

แม้จะพยายามออกนอกสูตรสำเร็จไปแล้ว แต่เรื่องพอดำเนินไปได้สักพักก็วกกลับมาที่พวกเด็กๆ ต้องเจอกับมนุษย์ที่มาที่เกาะนี้ และก็กลายเป็นว่ามนุษย์ร้ายกว่าไดโนเสาร์ตามสูตรเดิมๆ ซึ่งไม่ต้องเขียนสปอยล์ออกมาทุกคนที่ดูจูราสสิคปาร์คมาก็คงรู้ว่ามนุษย์พวกนี้มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ซึ่งกลายเป็นพล็อตย่ำอยู่กับที่ไม่ควรหยิบมาใช้ซ้ำเลย ในเมื่อเรื่องในภาคแรกมีการวางไว้แล้วว่ามีบริษัทวายร้ายที่ส่งเด็กมาล้วงความลับที่นี่ ถ้าจะมีมนุษย์ตัวร้ายก็เป็นพวกนี้ก็ได้ ในภาคนี้ก็มีความพยายามโยงไปที่บริษัทนี้ในตอนแรก แต่กลายเป็นสุดท้ายถูกตัดบทไปไม่มีพูดถึงเลยอย่างน่าเสียดาย

พัฒนาการของตัวละครในภาคนี้ก็แทบไม่ขยับไปไหน แถมยังวนกลับมาให้บางคนอย่างเคนจิกลับมาเป็นพวกขี้เกียจกินแรงเพื่อนตามประสาลูกคนรวยอีก ทั้งๆ ที่ภาคก่อนก็ผจญภัยฝ่าฝันลบปมด้อยกันมาทุกคนจนภาคนี้ไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว แต่ตัวละครสำคัญที่หายไปในภาคแรกก็กลับมาอีกครั้ง แต่กลับมาแบบเป็นการ์ตูนเด็กมากๆ จนดูแปลกประหลาดจากโครงเรื่องปกติไปเลย

ตัวเรื่องมีไคลแม็กซ์ใหม่เป็นการช่วยเหลือไดโนเสาร์ที่เหลืออยู่บนเกาะให้รอดตายจากมนุษย์ที่มายังเกาะ แต่ว่ามันกลับทำออกมาไม่สมเหตุผลและเป็นไปไม่ได้เลยว่าคนแค่สองคนจะมาทำอะไรใหญ่โตแบบนี้ และวิธีการก็ดูเด็กๆ มากจนทำให้ช่วงท้ายของเรื่องดูน่าเบื่อกว่าช่วงแรกที่พยายามให้มีซีนลุ้นหนีไดโนเสาร์แบบเดิมๆ ซะอีก

ซีซั่นสองไม่ได้จบลงในตัว แต่มีขยักปมใหม่ไว้ตอนท้ายว่า มีไดโนเสาร์ลึกลับที่ยังคงไม่เปิดเผยออกมาที่เกาะแห่งนี้ เผื่อไปต่อซีซั่น 3 ต่อไปอีกครับ ซึ่งก็คงไม่นานเพราะแอนิเมชั่นเรื่องนี้เหมือนทำต่อเนื่องไว้แล้วจากภาคแรกที่ห่างจาภาคนี้แค่ 3 เดือน แม้จะไม่ประทับใจในภาคนี้มากๆ แต่ก็คงต้องดูต่อไปจนจบอยู่ดีครับ

ใครสนข้อมูลเพิ่มเติมไดโนเสาร์ต่างๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์หลักของเรื่องนี้ครับ https://campcretaceous.com/welcome

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!