รีวิว True Spirit เด็กสาวที่แล่นเรือใบรอบโลก ท้าฝันสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างน่าทึ่ง!

True Spirit หนัง Original Netflix สร้างจากเรื่องจริงของ เจสสิก้า วัตสัน  เด็กสาวชาวออสเตรเลียวัย 16 ปี ที่เดินทางรอบโลกด้วยเรือใบตัวคนเดียวอายุน้อยที่สุดในโลกสำเร็จ

 

ประวัติ เจสสิก้า วัตสัน

เธอเดินทางออกจากซิดนีย์เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552 มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือโดยข้าม เส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกก่อนจะข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดีย เธอกลับมาที่ซิดนีย์ในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 สามวันก่อนวันเกิดปีที่ 17 ของเธอ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Young Australian of the Year ประจำปี 2554 และในปีต่อมาก็ได้รับเหรียญรางวัล Order of Australia

รีวิว True Spirit 

หนังสร้างจากหนังสือของเธอที่เขียนเรื่องราวการเดินทางรอบโลก ที่มีทั้งการผจญภัยในทะเลกับเรื่องราวความสัมพันธ์กับครอบครัว และเบนโค้ชที่วางแผนฝึกสอนการเดินเรือกับเธอ 7 ปีเพื่อภารกิจนี้  

 

สิ่งที่น่าทึ่งก็คือเธอเป็น “โรคบกพร่องในการอ่านและเขียน” ซึ่งเป็นโรคติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้การเรียนต่างๆ ของเธอยากกว่าคนปกติ และก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคของเรื่องนี้ด้วย เพราะการเดินเรือต้องมีการอ่านค่าพิกัดต่างๆ ให้แม่นยำ ซึ่งตัวหนังก็ถ่ายทอดอุปสรรคสิ่งนี้ออกมาให้เห็น แม้จะไม่มากถึงขนาดทำให้มีปัญหาใหญ่ได้ แต่พอหนังสร้างมาจากเรื่องจริงที่เธอเขียนหนังสือเล่มนี้จนจบด้วยก็ทำให้คนดูยิ่งทึ่งไปอีก

ตัวหนังเล่าเรื่องแบบเปิดมาคือตอนที่เธอกำลังจะออกเดินทางแล้ว และมีสื่อตามจับจ้องแบบอยากให้เธอล้มเหลวมากกว่าเพราะความที่เธอยังเป็นเด็ก ขนาดที่จะมีกฎหมายห้ามเด็กตัดสินใจแบบนี้ออกมาในช่วงนั้นด้วย ทำให้เธอยิ่งต้องมุ่งมั่นทำให้สำเร็จก่อนจะโดนกฎหมายห้ามไว้ ซึ่งการเดินเรื่องเธอว่าเร็วเพราะเปิดมาแปบเดียวเธอก็ออกเดินทางแล้ว โดยที่ยังไม่ได้มีการปูเรื่องราวความเป็นมาว่าทำไมเธอถึงมุ่งมั่นเดินทางรอบโลกให้ได้ และยังมีเบนที่เป็นโค้ชมา 7 ปี ซึ่งตัวหนังจะค่อยๆ ตัดสลับเล่าเรื่องความเป็นมาต่างๆ สั้นๆ ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กตัวน้อยที่พบเจอกับเรื่องราวเด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่เดินทางรอบโลกสำเร้จมาก่อน การพบเจอกับเบน โค้ชที่เธอหมายตามาแต่แรก การหาทุนแล่นเรือเอง และการทำให้พ่อแม่ยอมรับปล่อยเธอให้ไปตามฝัน แม้จะหวาดหวั่นกับการตัดสินใจแบบนี้ของเธอมาก ซึ่งตัวเรื่องเล่าตัดสลับไปมากับการผจญภัยในทะเลของเธอที่ติดต่อรายงานกลับมาหาพ่อแม่ผ่านทางโทรศัพท์ดาวเทียมทุกวัน โดยมีอุปสรรคที่ไม่ใช่มีแค่พายุ แต่ความเหงาโดดเดี่ยวยาวนาน หรือการไม่มีลมเดินทะเลจนติดค้างกลางทะเลเวิ้งว้างยาวนานก็เป็นอุปสรรคที่ตัวเรื่องใส่มาแบบสมจริงมาก (แต่ก็เป็นช่วงอืดๆ ของเรื่องพอประมาณด้วย) 

ตัวเรื่องยังเล่าถึงเบนโค้ชและผู้ช่วยแก้ปัญหาให้เธอระหว่างเดินทาง โดยเบนเองก็มีปัญหาบอบช้ำจากอดีตที่ผิดพลาดและทำให้เด็กคนหนึ่งตายมาก่อน จนทำให้ตัวเบนเองเลือกที่จะโดดเดี่ยวตัวเองไม่มีสัมพันธ์กับใคร จนมาเจอกับเจสสิก้าตอนตัวน้อยๆ ที่คอยมาช่วยงานตามตื้อให้เขาเป็นโค้ชสอนเธอให้ได้ ซึ่งตัวเรื่องก็ค่อยๆ ทำให้เห็นพัฒนาการของเบนจากคนที่โดดเดี่ยวค่อยๆ เปลี่ยนไปจนเหมือนเป็นพ่อของเธออีกคนหนึ่ง และก็กลายเป็นหนึ่งในครอบครัววัตสัน ที่ทุกคนก็พร้อมต้อนรับเขาเช่นกัน

และแม้ผู้ชมจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเดินทางรอบโลกสำเร็จเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แต่ตอนท้ายฉากเจอพายุรุมถล่มก่อนกลับถึงออสเตรเลียในอีกไม่นานก็ทำได้ลุ้นมาก เป็นฉากที่เหลือเชื่อเหมือนปาฏิหาริย์ว่าเธอรอดมาได้ยังไง ก่อนที่ตัวเรื่องจะตัดฉากฟุตเทจจริงของการกลับบ้านของเธอที่มีผู้คนมากมายมาต้อนรับ เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกให้เราได้เห็น จนถึงเอนด์เครดิตที่มีวิดีโอที่เธอถ่ายไว้ระหว่างเดินทางให้เราดู ซึ่งน่าประทับใจมาก

นี่เป็นหนังจากเรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากเรื่องหนึ่งเลย แนะนำเลยว่าควรค่าแก่การดูหรือเปิดให้เยาวชนลูกหลานดู เป็นหนังที่ส่งต่อความฝันของเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครอีกมากครับ  

 

 

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่