playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Still Time ตลกดราม่าเล่าเรื่องเรียบง่าย แต่สร้างอิมแพ็คประทับใจได้ไม่น้อย

Still Time

Summary

หนังตลกดราม่าฟอร์มเล็กๆ เรื่องราวของชายผู้บ้างานจนเวลาสคิปข้ามไปเป็นปีๆ ต่อเนื่องไม่หยุด นี่ไม่ใช่แนวไซไฟ จึงไม่มีคำอธิบายตรงนี้ แต่เรื่องสนุก ตลก มีอิมแพ็คเบาๆ กับชีวิตจริงของผู้ชมได้น่าประทับใจ พร้อมกับชวนให้คิดว่าวันนี้คุณใช้เวลาทำสิ่งที่ดีให้แก่ชีวิตคุณที่สุดแล้วหรือยัง….

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • หนังแนวสคิปไทม์ข้ามเวลาแต่ไม่ใช่ไซไฟ
  • ตลกชวนขำมากมายตลอดเรื่อง
  • สะท้อนปัญหาบาลานซ์การงานกับครอบครัวได้ดี
  • นางเอกมีเสน่ห์มาก

Cons

  • เรื่องราวเรียบๆ จบแบบเรียบๆ

Still Time (2022) on IMDb

รีวิว Still Time

หนังอิตาลีทุนต่ำฟอร์มเล็กจาก Netflix ที่พล็อตคอนซ็ปต์ของเรื่องเรียบง่าย ว่าด้วยเรื่องชายที่บ้างานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว แต่แล้วเขากลับตื่นนอนแล้วข้ามเวลามาปีต่อปีมาเรื่อยๆ แบบหยุดไม่ได้ ซึ่งไอเดียนี้ก็ดูคล้ายๆ พวกแนวหนังไซไฟวนลูปเวลา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ไซไฟ ดังนั้นจึงไม่มีคำอธิบายที่มาของการสคิปข้ามเวลาของตัวเอกแต่อย่างใด รวมถึงตอนจบก็ไม่ใช่การย้อนเวลาหรือมีปาฏิหาริย์ไปแก้ไขเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาได้ ซึ่งทั้งหมดถูกเล่าเรื่องแบบเรียบง่ายและจบแบบซิมเปิลธรรมด๊าธรรมดามาก 

แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีและโดดเด่นมากก็คือการตัดฉากร้อยเรียงเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย แต่ค่อยๆ มีพัฒนาการฉายภาพสะท้อนปัญหาสังคมปัจุบันเรื่อง Work-Life Balance หัวหน้าครอบครัวที่อ้างว่าทำงานเพื่อครอบครัว แต่จริงๆ เป็นความเห็นแก่ตัวทำเพื่อตัวเอง โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวว่ามันเป็นความผิดพลาด โดยมีหัวใจของเรื่องว่า  “เวลานั้นมันแสนสั้น แปบๆ ชีวิตก็ก้าวกระโดดพาเราไปไหนต่อไหน” ตามชื่อเรื่องเลยคือ อย่ารอให้เวลาติดปีก ซึ่งปัญหานี้เป็นสิ่งที่พบเจอได้มากมายกับชีวิตคู่ในปัจจุบันจนส่งผลทำให้ชีวิตครอบครัวเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งตัวเรื่องนำเสนอมันในแง่ที่ค่อยๆ เลวร้าย แล้วตัวเอกก็ยังเอ๋อไม่รู้สำนึกว่าผิดตรงไหน ก่อนที่เวลาจะสคิปกระโดดไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เรียนรู้เข้าใจวิธีแก้ไขในท้ายที่สุด

แม้ประเด็นของเรื่องจะดูหนักๆ แต่ตัวเรื่องจริงกลับตลกเรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลาที่มีการสคิปของเวลา เมื่อตัวเอกต้องรับมือกับสิ่งที่เปลี่ยนไปฉับพลัน โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าไปทำเรื่องแบบนั้นไว้ตอนไหน (เพราะโดนสคิปเวลามา 1 ปีตลอดทุกวัน) ซึ่งมุกตลกเหล่านี้ล้วนเป็นธรรมชาติมากด้วย ทำให้เรื่องราวชีวิตสคิปไทม์ของตัวเอกดูทั้งขำขันและน่าเศร้ากับปัญหาชีวิตที่พบเจอไปพร้อมกัน 

ตัวนักแสดงเองก็ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ขึ้นมาก ตัวพระเอกอาจจะดูเฉยๆ ออกแนวฮาๆ กับบุคลิกของเขา แต่ตัวนางเอกฟรานเชสก้านี่คือสวยมีเสน่ห์มาก ซึ่งเวลาที่สคิปไปตัวละครก็จะแก่ลงเรื่อยๆ ด้วย แต่เธอยังดูสวยทุกครั้งไม่เปลี่ยนแปลงเลย

นี่คือหนังเล็กๆ ที่มีอิมแพ็คเบาๆ กับชีวิตจริงของผู้ชมได้น่าประทับใจ ดูแล้วตลกเรียกเสียงฮาไปพร้อมกับชวนให้คิดว่าวันนี้คุณใช้เวลาทำสิ่งที่ดีให้แก่ชีวิตคุณที่สุดแล้วหรือยังครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!