playinone.com
รีวิวหนัง ซีรีส์ Netflix HBO Prime Disney+ Apple TV+ สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Nero the Assassin (Netflix) แอ็กชั่นผจญภัยแฟนตาซีในโลกของการเมืองคลั่งศาสนา!

Summary

ซีรีส์ดราม่าแอ็กชั่นผสมแฟนตาซีย้อนยุคที่เล่าเรื่องได้เข้มข้นลงลึกในทางการเมืองความเชื่อศาสนา มากกว่าพล็อตเรื่องการเดินทางไถ่บาปของนักฆ่าที่พยายามปกป้องลูกสาวที่ตัวเองทิ้งไว้ตั้งแต่เด็ก โดยเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นทายาทปีศาจล้างโลก ซึ่งมันจริงหรือไม่นี่คือคำถามที่ซีรีส์ตั้งประเด็นทิ้งไว้ให้ผู้ชมค้นหาได้ตลอดเรื่อง ในระหว่างการเดินทางที่เป็นแนวแฟนตาซีรวมทีมผจญภัยเล็กๆ แต่ระดับความเข้มข้นของเรื่องลงลึกเรื่องการเมืองแย่งชิงอำนาจน้องๆ ซีรีส์ Game of Thrones เลย ซึ่งเรื่องผูกปมครอบครัวได้ซับซ้อนหักมุมไปมา ไม่มีใครดีหรือร้ายเพียงมิติเดียวอย่างที่เห็น เป็นการสะท้อนภาพความโหดร้ายของยุคสมัยที่ความเชื่อศาสนจักรมีอำนาจในการปกครองผู้คน โดยที่เรื่องก็ไม่ได้เล่าในมุมความเชื่องมงายของผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่เล่าในมุมมองที่ทุกคนต่างใช้เรื่องเล่าของศาสนจักรเพื่อผลักดันให้ตัวเองมีอำนาจ ซึ่งซีรีส์สอดแทรกประเด็นนี้ได้อย่างคมคายมีความหมายกับเรื่องนี้มาก และจบเรื่องราวทั้งหมดได้ในซีซั่นนี้เลย แต่ทิ้งท้ายปลายเปิดไว้ทำต่อได้ แนะนำเลยว่าห้ามพลาดครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ซีรีส์แอ็กชั่นผสมแฟนตาซีย้อนยุค
  • บทผูกปมได้ซับซ้อนหักมุมตลอด
  • ประเด็นศาสนจักรครองอำนาจการเมือง
  • นักแสดงสมบทบาท
  • งานโปรดักชั่นดี
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทบาทของแม่มดยังขาดแบ็คกราวด์ตัวละครมาก

ADBRO

Nero the Assassin กาลครั้งหนึ่งของนักฆ่า ซีรีส์แนวดราม่าแอ็กชั่นแฟนตาซี ฝรั่งเศส Original Netflix 8 ตอนจบซีซั่นแรก มีพากย์ไทย นำเสนอเรื่องราวในศตวรรษที่ 16 ท่ามกลางฝรั่งเศสที่วุ่นวาย เล่าเรื่องของนักฆ่าผู้ต้องเผชิญความหลังอันขมขื่นและพันธกิจปกป้องลูกสาวที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เมื่อเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกปีศาจที่ลงมาเพื่อครอบครองโลก ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจและภัยคุกคามเหนือธรรมชาติ

 

รีวิว Nero the Assassin กาลครั้งหนึ่งของนักฆ่า (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ที่ผสมผสานระหว่างฉากแอ็กชันย้อนยุคผสมตลกร้าย การเล่นประเด็นครอบครัว และแรงจูงใจของตัวละครที่ซับซ้อน พร้อมด้วยโปรดักชันระดับสูง ซึ่งถือว่าผิดคาดมากเมื่อมองว่าผลงานนี้ค่อนข้างดูโนเนมเกินจากการโปรโมทของเน็ตฟลิกซ์ ทั้งๆ ที่นี่คือซีรีส์ที่ผู้สร้างใส่ใจปราณีตในงานสร้างแทบทุกอย่างเลย เริ่มตั้งแต่บทที่ซับซ้อนเกินกว่าพล็อตนักฆ่าไร้หัวใจที่ต้องหนีการตามล่าของแม่มดที่พยายามมาเอาชีวิตลูกสาวของเขาที่ถูกทิ้งไว้ให้บาทหลวงดูแล เรื่องทำให้การเดินทางหนีแม่มดนี้ค่อยๆ มีตัวละครมาร่วมทีมแบบหนังผจญภัยแฟนตาซีที่ดีตั้งแต่แรก เมื่อเจ้าหญิงที่ถูกพ่อทรยศจำใจต้องมาร่วมทางไปด้วย โดยมีอัศวินที่รู้สึกว่าเจ้านายของเขาที่ปกครองเมืองกำลังทรยศประชาชน บาทหลวงผู้เลี้ยงลูกสาวของนักฆ่าและพึ่งมารู้ว่าเด็กคนนี้คือสายเลือดปีศาจที่กำลังจะทำให้เกิดวันสิ้นโลก และเด็กสาวคนนี้เองที่พึ่งได้รู้จักพ่อที่ทิ้งตัวเองไปตั้งแต่เกิด ซีรีส์จับรวมเหล่าตัวละครพวกนี้มาร่วมทางกันแบบลอร์ดออฟเดอะริง โดยระหว่างทางก็มีการผจญภัยที่เจอผู้คนที่ชั่วร้ายและแม่มดกับนักรบของศาสนจักรไล่ล่า ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องในแต่ละตอนได้ซับซ้อน มีการผูกปมเชื่อมโยงอดีตของตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะตัวเอกนักฆ่าที่ผู้ชมไม่ได้รู้เบื้องหลังของเขาเลยก็จะได้ค่อยๆ เห็นบทบาทที่เขากำลังพยายามชดใช้ความผิดที่ผ่านมาอยู่ โดยที่เขาก็ยังคงคาแรกเตอร์นักฆ่าที่ไร้หัวใจไว้ เพียงแต่การเดินทางนี้ทำให้เขาได้เลือกตัดสินใจเองมากกว่าการมีเจ้านายจ้างมาให้เขาทำ ซึ่งเรื่องผูกผสานปมปัญหาต่างๆ แล้วค่อยๆ คลี่คลายได้อย่างยอดเยี่ยม มีความซับซ้อนหักมุมไปมามากกว่าพล็อตเรื่องที่เห็นมาก  

แต่หัวใจของเรื่องที่ดีที่สุดก็คือ การที่ตัวละครทุกคนในยุคนั้นต่างตกอยู่ในอุดมการณ์และความเชื่อศาสนาที่เล่าเรื่องการมีอยู่ของปีศาจร้าย แล้วผู้คนต้องหันมาฆ่ากันเองเพียงเพราะความเชื่อนั้นถูกฝังไว้จากคำสอนของศาสนจักรแพร่หลายไปทั่วทุกดินแดน ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องสอดแทรกปัญหาของความเชื่อนี้ผ่านการปกครองเมืองที่ใช้จุดนี้เป็นการวางแผนช่วงชิงอำนาจการเมืองได้อย่างสนุกซับซ้อนน้องๆ ซีรีส์ Game of Thrones เลย ซึ่งเรื่องได้สร้างให้ตัวละครบาทหลวง อัศวิน เจ้าหญิง เจ้าชาย แม่มดและคนนอกรีต ต่างก็ตกอยู่ในวงเวียนของความเชื่อนี้ที่จริงๆ มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องแต่งขึ้นมาเพื่อหาทางครองอำนาจไว้ โดยซีรีส์เล่าเรื่องได้ทันสมัยมากกว่าเซ็ตติ้งย้อนยุคเพราะตัวละครเหล่านี้ต่างก็มีบทบาทมากกว่าแค่พวกหลงเชื่อเรื่องเล่าของศาสนจักร แต่เป็นการใช้เรื่องเล่านี้ผลักดันความต้องการของตัวเองที่แตกต่างกัน ทั้งๆ ที่พวกเขาก็รู้ว่าเป็นเรื่องโกหก ซึ่งซีรีส์สะท้อนโลกยุคนั้นออกมาได้จริงๆ ว่าศาสนามีอิทธิพลครอบงำการเมืองได้ยังไง เมื่อผู้คนต่างใช้มันสร้างอำนาจกันได้หมด แม้แต่เหล่าผู้นอกรีตที่ถูกมองว่าเป็นคนบ้ายังสามารถใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเองจนสั่นคลอนอำนาจทางทหารของเมืองต่างๆ ได้เช่นกัน

ซีรีส์ยังฉายภาพความรุนแรงในยุคนั้นออกมาตรงๆ ผ่านฉากแอ็กชั่นฆ่าฟันที่โหดร้าย ไม่มีการเซ็นเซอร์อวัยวะร่างกายที่ถูกตัดขาด เลือดสาดกระฉูดอยู่ตลอดในทุกตอนที่ตัวละครต้องไปพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง โดยมีเรื่องราวกึ่งแฟนตาซีของแม่มดผสมเข้ามาเป็นฉากสยองขวัญที่มีการใช้คาถาอาคมที่เกี่ยวพันกับความรุนแรง ซึ่งการมีอยู่ของแม่มดทำให้เป็นปมสงสัยว่าแท้จริงแล้วลูกสาวของนักฆ่าคือลูกปีศาจที่กำลังมาล้างโลกจริงหรือไม่ ซึ่งซีรีส์ผูกปมเรื่องนี้ให้ซับซ้อนกลับไปมาหลายรอบ ผ่านฉากแฟนตาซีของเวทมนตร์แม่มดที่ช่วยผลักดันเรื่องราวเบื้องหลังไปด้วยว่า สิ่งนี้คือมนตร์ดำหรือแค่ความเชื่อที่คนเข้าใจผิดจากสิ่งที่เห็นเอง

เหล่าตัวละครต่างก็มีการพัฒนาคาแรกเตอร์ให้เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเจ้าหญิงที่ดูอินโนเซนส์ในตอนแรกก็ค่อยๆ กลายมาเป็นคนที่พร้อมเอาพ่อไปประหารได้ พ่อของเจ้าหญิงเองที่ดูชั่วร้ายสุดๆ ก็ค่อยๆ ให้เห็นว่าจริงๆ เขาก็เป็นเพียงแค่คนที่พยายามหาทางครองอำนาจให้ได้ในยุคนั้น ซึ่งคนอื่นก็ทำแบบเขาเช่นกัน หรือลูกสาวของนักฆ่าที่ดูเป็นเด็กเกเรแรกๆ ก็ค่อยๆ พัฒนาการมาเป็นเด็กที่มีวุฒิภาวะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีรีส์สร้างบทบาทผลักดันให้ตัวละครในเรื่องมีการเปลี่ยนผ่านกันทุกตัว ทำให้เรื่องราวในซีรีส์มีการพลิกผันจากการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวละครเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา 

 

ซีรีส์จบเรื่องราวทั้งหมดในซีซั่นได้ดี ก่อนทิ้งท้ายปลายเปิดไว้ทำต่อได้ หรือไม่ทำต่อก็ยังจบได้ลงตัวแล้วครับ

 

สรุป

ซีรีส์ดราม่าแอ็กชั่นผสมแฟนตาซีย้อนยุคที่เล่าเรื่องได้เข้มข้นลงลึกในทางการเมืองความเชื่อศาสนา มากกว่าพล็อตเรื่องการเดินทางไถ่บาปของนักฆ่าที่พยายามปกป้องลูกสาวที่ตัวเองทิ้งไว้ตั้งแต่เด็ก โดยเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นทายาทปีศาจล้างโลก ซึ่งมันจริงหรือไม่นี่คือคำถามที่ซีรีส์ตั้งประเด็นทิ้งไว้ให้ผู้ชมค้นหาได้ตลอดเรื่อง ในระหว่างการเดินทางที่เป็นแนวแฟนตาซีรวมทีมผจญภัยเล็กๆ แต่ระดับความเข้มข้นของเรื่องลงลึกเรื่องการเมืองแย่งชิงอำนาจน้องๆ ซีรีส์ Game of Thrones เลย ซึ่งเรื่องผูกปมครอบครัวได้ซับซ้อนหักมุมไปมา ไม่มีใครดีหรือร้ายเพียงมิติเดียวอย่างที่เห็น เป็นการสะท้อนภาพความโหดร้ายของยุคสมัยที่ความเชื่อศาสนจักรมีอำนาจในการปกครองผู้คน โดยที่เรื่องก็ไม่ได้เล่าในมุมความเชื่องมงายของผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่เล่าในมุมมองที่ทุกคนต่างใช้เรื่องเล่าของศาสนจักรเพื่อผลักดันให้ตัวเองมีอำนาจ ซึ่งซีรีส์สอดแทรกประเด็นนี้ได้อย่างคมคายมีความหมายกับเรื่องนี้มาก และจบเรื่องราวทั้งหมดได้ในซีซั่นนี้เลย แต่ทิ้งท้ายปลายเปิดไว้ทำต่อได้ แนะนำเลยว่าห้ามพลาดครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------